เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] - ตอนที่ 208.2 (II) เกาะภูตหยิงโจว
- Home
- เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]
- ตอนที่ 208.2 (II) เกาะภูตหยิงโจว
Sign in Buddha’s palm 208 (II) เกาะภูตหยิงโจว
“สหายเต่า เชิญ
ท่าที่แปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของร่างงามและนางก็ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว
คลิก
เมื่อซูฉินเดินผ่านช่องทางเข้าไปทางเดินที่โผล่ออกมานั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่มาก่อน
“ชื่อ!”
ถึงตอนนี้ ร่องรอยความพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของร่างงามชุดแดงที่แสดงท่าทีนอบน้อมมาโดยตลอดราวกับว่าแผนการประสบความสําเร็จ
ซูฉินเข้าไปในค่ายกลขนาดใหญ่โดยไม่ได้รีบร้อนหรือชักช้า
เห็นเกาะที่ห้อมล้อมด้วยเมฆหมอก มีพื้นรัศมีราวๆร้อยลี้เต็มไปด้วยดอกไม้และพืชที่ผิดแผกแปลกตา เต็มไปด้วยปราณีเป็นเหมือนดั่งแดนสวรรค์บนพื้นพิภพก็มิปาน
ด้านหน้าเกาะมีเสาเหล็กสีดําขนาดมหึมา มีตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัวสลักอยู่บนแผ่นหินที่ตั้งอยู่ติดกับเสาเหล็ก
หยิงโจว
ตัวอักษรสองตัวนี้ไม่ใช่อักขระที่ซูฉินเคยเห็นมาก่อนแต่เมื่อมองไปแล้วก็เข้าใจความหมายของมันได้อย่างรวดเร็ว
“ที่นี่คือเกาะหยิงโจวในตํานานเล่าขานว่าอยู่กึ่งกลางสิบทวีปและสามเกาะงั้นหรือ?”
ซูฉินครุ่นคิดกับตนเองและก้มมองลงไป
ด้านล่างแผ่นเหล็กสีดํา มีกลุ่มสตรีสวมชุดแพรยืนอยู่หญิงเหล่านี้น่าหลงใหล มีชีวิตชีวาและสง่างามผิวสวยใสดุจอัญมณีเปล่งประกายมีเสน่ห์ไร้ที่ติ
ท่ามกลางกลุ่มสตรีเหล่านี้ มีหญิงคนหนึ่งแลดูบอบบางยิ่ง แววตาของนางราวกับสายน้ําและไอหมอกให้ความรู้สึกชวนฝัน
เมื่อเทียบกับความเย้ายวนของสตรีนางอื่น หญิงคนนี้ดูสูง สง่ามากกว่า
มีเสน่ห์กับสูงสง่านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมันกลับกลายเป็นว่าหญิงผู้นี้มีทั้งสองสิ่งอยู่เคียงคู่กันอย่างลงตัว
“ตัวข้า ชิงชิวชิงหลิงน้อมพบสหายเต”สตรีที่ดูคล้ายจะเป็นหัวหน้าโค้งคารวะมาทางซูฉินเล็กน้อย
“ชิงชิวชิงหลิง?”
ดวงตาของซูฉินสงบ ปรากฏรอยยิ้มที่แฝงความนัยบนใบหน้า
“สหายเมาถึงที่นี่ ต้องการมาเพื่อสํารวจความลับในอดีตใช่หรือไม่?” ชิงชิวชิงหลิงพูดขึ้นมา
“ในสมัยโบราณ ยามที่กระแสพลังอยู่ในจุดสูงสุดตอนนั้นมีเผ่าพันธุ์นับพันผู้คนที่แข็งแกร่งและทรงพลังอํานาจกําเนิดขึ้นมากมายน่าเสียดายที่พวกเขาต้องเผชิญกับ การบุกรุกของโลกถ้ําปีศาจ”
ชิงชิวชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าวคําออกมาช้าๆ
“โอ้ว”
ซูฉินให้ความสนใจเล็กน้อย
เดิมที่เขาคิดที่จะกําราบทันทีหลังจากที่เข้ามาแต่เมื่อชิงชิวชิงหลิงเกริ่นขึ้นมาเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด
ตั้งแต่แรกๆ ที่ซูฉินแยกร่างจําแลงเข้าสู่โลกถ้ําปิศาจเขาก็รู้จากโม่จีแล้วว่าโลกถ้ําปีศาจต้องการจะบุกโลกมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ซูฉินไม่เคยเห็นที่ไหนที่บันทึกเรื่องนี้เอาไว้เลยเนื่องจากชิงชิวชิงหลิงต้องการให้คําอธิบายแก่เขาในตอนนี้เขาก็ยินดีจะรับฟังเป็นธรรมดา
“การต่อสู้ครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าหรือผืนดินก็มืดคริ้มไปหมดคลาคล่ําไปด้วยหุ่นจักรกลสงครามจากโลกถ้ําปีศาจมากมายจนบดบังท้องฟ้าแม้ในท้ายที่สุดจะขับไล่โลกถ้ําปิศาจกลับไปได้แต่ก็ทําให้ผู้แข็งแกร่งบนโลกนั้นแทบจะสูญสิ้น”
“นอกจากนั้น กระแสปราณได้เปลี่ยนจากจุดรุ่งโรจน์ไปสู่ความเสื่อมโทรมธรรมชาติเสื่อมโทรมเที่ยวเฉา…มรดกนับไม่ถ้วนถูกทําลายเสื่อมลงอย่างมากเพียงไม่กี่ปี…”
เมื่อชิงชิวชิงหลิงพูดมาถึงเท่านี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“แล้วเจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?” ซูฉินถามในทันที
“เกาะเซียนหยิงโจวนั้นไม่เหมือนกับโลกภายนอกมรดกที่นี่ค่อนข้างสมบูรณ์แน่นอนว่าเช่เชินย่อมรู้เป็นธรรมดา”
ชิงชิวชิงหลิงกล่าวออกมา
“เป็นเช่นนั้นสินะ”
ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย
“สหายเต่สามารถเข้าถึงระดับนี้ได้ในช่วงที่ธรรมชาติ เสื่อมโทรมย่อมเป็นผู้ที่มีความสามารถแน่นอน และเช่เป็นผู้นี้ก็เต็มใจจะสละเกาะเซียนหยิงโจวมอบให้สหายเต่า”
น้ําเสียงของชิงชิวชิงหลิงเต็มไปการล่อลวงสร้างความสับสนอย่างยิ่ง
เกาะเซียนหยิงโจวเป็นหนึ่งในสิบทวีปและสามเกาะครั้งหนึ่งเคยเป็นของเซียนเทพปฐพี รายล้อมไปด้วยค่ายกลฟ้าดินอันยิ่งใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เต็มไปด้วยปราณฉีมากมายราวกับสวรรค์บนดิน
ไม่ว่าจะเป็นตํานานยุทธคนใด หรือขนาดตํานานยุทธระ ดับนภาชั้นที่เจ็ดนภาชั้นที่แปด และแม้แต่นภาชั้นที่เก้าเมื่อได้ฟังคําพูดของชิงชิวชิงหลิงก็ย่อมทําให้คนเหล่านั้นมีความสุข
เพื่อให้ได้มาซึ่งดินแดนสวรรค์บนพื้นพิภพเช่นนี้ไม่ว่าจะจ่ายราคาแพงเพียงไหนมันก็คุ้มค่าไม่ต้องพูดถึงคํากล่าวของชิงชิวชิงหลิงที่ว่านางต้องการจะมอบให้ซูฉินมาเปล่าๆ เลย
สิ่งดีงามเช่นนี้ จะมีตํานานยุทธคนใดปฏิเสธ?
“สหายเต่า เจ้ารีบลงมาเถิด ถือแผ่นหินสีดําแผ่นนี้ไว้เพื่อควบคุมศูนย์กลางของค่ายกลขนาดใหญ่ เกาะ เซียนทั้งหมดจะเป็นของเจ้า”
ชิงชิวชิงหลิงมองไปที่แผ่นศิลาสีดําที่มีตัวอักษรสลักคําว่า “หยิงโจว” อยู่ด้านหลังยังคงล่อหลอกและทําให้สับสนต่อไป
“เช่เชินเข้าใจว่าตนเองอ่อนแอนัก ไม่สามารถรักษาเกาะเซียนหยิงโจวแห่งนี้ได้ข้าจึงต้องการผูกไมตรีกับสหายเต่ําเอาไว้หวังว่าสหายเต่จะปกป้องเช่เชินในอนาคต ”
การแสดงออกของชิงชิวชิงหลิงกลายเป็นน่าสงสารราวกับนางเป็นสตรีผู้อ่อนแอจริงๆ ที่ต้องการการคุ้มครองจากซูฉิน
อย่างไรก็ตาม ซูฉินได้ส่ายศีรษะ
“ชิงชิวชิงหลิง หากเป็นจอมยุทธธรรมดา เกรงว่าข้าคงถูกเจ้าหลอกไปนานแล้วแต่ข้าหาใช่จอมยุทธธรรมดาไม่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูฉันค่อยๆ จางหายไป ในที่ สุดก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา“ไม่ว่าจะมองจากทางซ้ายมือหรือทางขวามันก็เป็นเกาะเซียนหยิงโจวนั่นแหละ”
“แต่ในความเห็นข้า”
“เรียกว่าเกาะภูตหยิ่งโจวคงจะเหมาะสมกว่าเกาะเซียนหยิงโจว ว่าไหม?”
ทันทีที่เสียงของซูฉินเงียบไป ก็เกิดภาวะนิ่งงันขึ้นทั่วบริเวณ
ชิงชิวชิงหลิงผู้ซึ่งเดิมที่กําลังทําหน้าตาน่าสงสารเหมือนก ระต่ายขาวตัวน้อยไร้พิษสง เมื่อได้ยินซูฉินพูดเช่นนั้น ดวงตาที่สวยงามก็กลับเยือกเย็นขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ซีเช่เชิน คําแทนตัวแบบถ่อมตนของหญิงจีนโบราณ