เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 102 ราชาเข็นรถทรงพลัง
บทที่ 102 ราชาเข็นรถทรงพลัง
แต่เรื่องมันไม่มีอะไรแน่นอน ตรงนั้นก็มีคนที่ไม่อยากจะอวยพรด้วย นั่นก็คือถูเซินเซินที่กลายเป็นฉากหลังไป เป็นเพราะเขาถึงทำให้เฉินห้าวเฉิดฉายในค่ำคืนนี้
ถูเซินเซินไม่พอใจที่ตัวเองล้มเหลว เลยออกกำสั่งให้การ์ด เอารถมาล้อมข้างทางให้หมด ไม่ให้เฉินห้าวออกไปได้ง่ายๆ
พอรอให้เฉินห้าวและโจวซีถงเดินมาถึงข้างทางแล้ว ก็เห็นว่ามีรถหลายคันมากๆ มาขวางทางไว้ รถรับจ้างที่เขาเรียกก็คงเข้ามาในนี้ไม่ได้แล้ว เห็นคนขับรถรับจ้างบีบแตรอยู่ทางโน้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา แถมถูเซินเซินและลูกน้องทั้งหลาย ก็ยังเล่นใช้อารมณ์แบบเด็กๆ อีก ล้อมรอบด้วยกำแพงคน บังทางที่ทั้งสองจะเดินออกไป
“พวกคุณหลบหน่อยค่ะ” โจวซีถงไม่อยากจะมีเรื่องกับคนพวกนี้ ก็เลยเริ่มข้อเสนอก่อน
“ไม่ๆๆ มีคำโบราณบอกไว้ว่าหมาที่ดีไม่ขวางทางคน แต่ก็มีหมาเลวๆ ที่ขวางทาง ถ้างั้นฉันก็ไม่รังเกียจที่จะเล่นวิธีหมาๆ แล้วล่ะ”
เฉินห้าวปล่อยมือของโจวซีถงออก แล้วก็เดินไปตามข้างถนน
“ห้ามผ่านทางนี้”
ถูเซินเซินยื่นมือขวางทาง แล้วบนตัวเขา ก็ยังมีกีตาร์ที่ใช้เก๊กเมื่อกี้อยู่ด้วย
“ฉันแปลกใจจริงๆ ที่สติปัญญานายยังไม่ถึงสิบขวบเลย”
เฉินห้าวก็หมดคำจะพูดกับลูกคนรวยที่สมองตายคนนี้แล้ว ยื่นมือผลักออกทันที กำแพงคนพวกนั้นก็แยกออก แต่ละคนล้มลุกคลุกคลาน แล้วก็มีทางออกขึ้น
การ์ดพวกนั้นอยากจะลุกขึ้นมาสู้ด้วยความแค้น แต่เฉินห้าวแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของท่อนแขนของเขา เบ่งกล้ามแรง จนกล้ามแขนของเขาปูดขึ้น ทำเอาคนอื่นๆ กลืนน้ำลายกันคนละอึกอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงฉากตอนที่เล่นกล้ามก่อนหน้านี้ กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุกด้วยความกลัว ไม่มีใครกล้าลงมือ
และแล้ว การกำจัดกำแพงคนแถวแรกก็สำเร็จ
ข้างหลัง ก็เหลือรถที่ขวางกั้นอยู่
ตอนนั้น เฉินห้าวก็ไม่ได้รีบร้อน สิ่งที่เรียกว่าพลังมหัศจรรย์ วันนี้เขาจะเป็นพี่แรงเยอะ มาจัดการความยุ่งยากนี้เอง
เฉินห้าวเดินมาอยู่ข้างรถบูอิคคันนึง แค่ดันรถคันนี้ออกไป ก็สามารถเดินทางได้แล้ว เฉินห้าวสูดหายใจแรงหนึ่งที จู่ๆ ก็โน้มตัวลง วางไหล่ลงบนตัวรถ ใช้แรงทั้งหมดในตัว ดันรถออกไปอีกทาง
“ปึ้ง”
รถมีเสียงชนดังขึ้น สุดท้ายก็สำเร็จและโดนเฉินห้าวผลักออกไปไกล10กว่าเซนติเมตร
เห็นว่าวิธีนี้ได้ผล เฉินห้าวใช้แรงอีกครั้ง แบ่งเป็นหลายๆ ครั้งจนดันรถออกไปอยู่อีกฝั่ง เปิดช่องว่างช่อง แล้วสุดท้ายรถก็สามารถเข้าออกได้แล้ว
“เหี้ย! แค่คนเดียวก็ดันรถได้แล้ว นี่เป็นราชาทรงพลังข้ามชาติมาเกิดรึไง
คนผ่านไปผ่านมาพากันอึ้ง แรงอิทธิฤทธิ์นี้ เหมือนจะมีแค่ในซีรีส์ซีรีส์ซ้องกั๋งนะ เห็นหลู่จื้อเซินเคยถอนต้นหลิวแบบนี้
วันนี้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่ได้เห็นการแสดงแสงไฟ ยังได้เห็นราชาดันรถทรงพลังอีก กลับไปก็มีเรื่องเล่าเพียงพอที่จะโม้ให้คนอื่นฟังแล้ว
ทางผ่านได้แล้ว นะก็โบกมือให้โจวซีถงขึ้น แล้วพวกเขาก็กลับโรงแรม
ถูเซินเซินมองดูพวกเขาเดินไป หน้าแดงหน้าเขียว ลูกคนรวยอย่างเขา ยังไม่เคยเจอความผิดหวังแบบนี้มาก่อน แค้นนี้ต้องชำระ ให้เฉินห้าวที่ทำลายความดี ความทุ่มเทของเขานั้น ได้รับชะตากรรมเดียวกัน
……
ไม่นาน เฉินห้าวและโจวซีถงก็กลับไปที่โรงแรมAtlantisทั้งสองมาถึงที่ขึ้นลิฟต์ ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วตอนนั้นก็ต้องแยกกันแล้ว เพราะห้องของทั้งสองไม่ได้อยู่ตึกเดียวกัน
“ถ้างั้น ไปนั่งเล่นที่บ้านผมกัน บ้านใต้ทะเล น่าสนุกดี” เฉินห้าวเสนอขึ้น
ตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ชวนสาวสวยเข้าบ้านดึกดื่น ดูเหมือนเป้าหมายจะไม่ได้ซื่อตรงขนาดนั้น
แต่โจวซีถงก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอตามเฉินห้าวขึ้นลิฟต์ไป มาถึงบ้านใต้ดิน
เฉินห้าวยื่นหน้าไปที่ประตูแล้วเปิดประตูบ้านออก พอเข้าบ้าน ก็เห็นกำแพงตู้สัตว์น้ำใต้ทะเลที่สะดุดตา ปลาหลากสีสัน รูปร่างแปลกประหลาดแหวกว่ายอยู่ใต้แสงไฟ อย่างสนุกสนาน
โจวซีถงหยุดมอง ถึงเธอจะเคยไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและพิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเลมาหลายครั้ง แต่ความรู้สึกแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน นี่คือที่บ้านของเฉินห้าว
“ดื่มอะไรหน่อยไหม” เฉินห้าวมาอยู่ที่ตู้ไวน์ก่อนจะถามขึ้น
“น้ำเย็นก็ได้ค่ะ” โจวซีถงพูด
เฉินห้าวเทน้ำเย็นแก้วนึง เปิดกระป๋องเบียร์ให้ตัวเอง เขาวางเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะกาแฟ แล้วก็มาที่กำแพงที่โปร่งใส ดื่มด่ำวิวใต้ทะเลด้วยกัน
“วันนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะมาก” โจวซีถงพูดพึมพำ
“ใช่ แต่ก็มีความสุขดีนะ” เฉินห้าวพูด
จู่ๆ โจวซีถงก็ถูไปที่สร้อยคอทับทิมระหว่างอก สัมผัสที่เย็นและลื่นไหลนั่น ทำให้เธอมีความสุข ขอบคุณเฉินห้าวที่ให้สร้อยกับเธออีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ต่อไปถ้าต้องการอะไรก็บอกผม ขอแค่คุณชอบ ผมก็ให้คุณได้”
บนโลกนี้ ก็รู้ว่าเฉินห้าวสามารถพูดคำอะไรใหญ่โตแบบนี้ได้ ขอแค่ในแอพมีเครื่องประดับ ก็ซื้อได้ทันที
“จะขอของขวัญเองได้ยังไงล่ะ กลายเป็นอะไรไป”
โจวซีถงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ล้อเลียนความซื่อตรงของเฉินห้าว
เฉินห้าวกลับหัวเราะ เอาเหล้ามา ทั้งสองยืนจิบอยู่ข้างกำแพง
พอกำจัดปัญหาหิวน้ำแล้ว เฉินห้าวเห็นเครื่องเล่นเสียงในห้อง เลยชวนเต้นรำหนึ่งเพลง เขายังจำได้ว่า ในงานเลี้ยงของมู่ต้าเหวยท่าทางที่ทั้งสองจะเริ่มเต้นรำนั้น มันดูสวยมาก
“ได้ค่ะ”
โจวซีถงตอบรับอย่างง่ายดาย แล้วเฉินห้าวก็เปิดเครื่องเล่นเสียงในบ้าน เปิดเพลงเต้นรำผ่อนคลาย แบบนี้เหมาะกับการเต้นรำตามจังหวะช้าๆ
ทั้งสองเต้นรำในห้องนั่งเล่นกันสองคน ตัวสัมผัสกัน สี่ตาจ้องมองกัน บรรยากาศที่อบอุ่นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ