เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 117 คุณต้องตัดสินให้ฉัน
บทที่ 117 คุณต้องตัดสินให้ฉัน
“ถ้าคุณเป็นแบบนี้เรื่องมันก็ไม่จบง่ายๆละ ไม่ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ อย่างนั้นก็คุณทำกับแก้มมาซะสองสาม” หวงเหมาหัวเราะคึกคัก ไม่เหมาะสม ยังยื่นมือไปแตะไหล่ของเซี่ยจิ้ง
เซี่ยจิ้งกลับจ้องตาโต จู่ๆสับมีดหั่นผักลงมา ทำให้หวงเหมาตกใจ รีบหนีออกไป มีดหั่นผักถูกเสียบไว้บนโต๊ะ มีเสียวอู้อี้ออกมา
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกนาย รีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ” ท่าทางเซี่ยจิ้งแข็งกร้าวมาก ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
หากยังไม่ทำตาม สีหน้าหวงเหมาก็เปลี่ยนไป ทำเสียงเย็นชาออกมา: “เห็นว่าเป็นสาวสวยหรอกถึงไว้หน้าคุณ อย่าให้หน้าแล้วไม่ไว้หน้า จะบอกให้ พวกพี่เป็นผู้จัดการตลาดของละแวกนี้ พวกคุณทำการค้าขายที่นี่ก็ต้องจ่ายค่าคุ้มครองมา เดือนละสามหมื่น วันนี้เป็นวันจ่ายครั้งแรก หากไม่จ่ายล่ะก็ ฮึฮึ ร้านอาหารพวกคุณอย่าคิดที่จะเปิดเลย”
“ผู้จัดการตลาด? มีใบรับรองหรือเปล่า? หรืออำเล่นหรือเปล่า พวกจ่ายแค่ภาษีให้รัฐบาล พวกคุณคือใครกัน? ฉันว่านะขนยังขึ้นไม่เต็ม ก็เรียนแบบคนเลวมาแบล็กเมล์ซะแล้วใช่ไหม?”
ไม่นานเซี่ยได้เจาะจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายออกมา หวงเหมาโกรธมาก ตบโต๊ะอย่างรุนแรง พรรคพวกที่อยู่ด้านหลังได้เปิดเสื้อยืดขึ้น เผยให้เห็นด้ามกรีซที่คาดไว้บนเอวของพวกเขา
“เงินนี้ก็ไม่ได้ขอฟรีๆ ความปลอดภัยหลังจากนี้ของพวกคุณพวกเราดูแลเอง ต่อจากนี้ไปหากมีใครมาหาเรื่องก็โทรพวกเรา หากไม่จ่าย คุณต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา” หวงเหมากล่าวข่มขู่
“แจ้งความ!”
คำตอบของเซี่ยจิ้งกระชับตรงประเด็นมาก พนักงานที่อยู่ข้างหลังเธอได้รับคำสั่งนั้น ก็หยิบมือถือออกมาโทรหา 110
“ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!”
เมื่อหวงเหมาได้ยินว่าจะแจ้งความ หัวเราะเย็นชาทีหนึ่ง พาพรรคพวกถอยกลับละ
“คนไม่ดีมักสร้างปัญหา!”
เซี่ยจิ้งก็กรนเสียงอย่างเย็นชา จัดการกับนักเลงน้อยพวกนี้ เธอมีประสบการณ์เยอะมาก หากคุณให้หน้าเขา เขาก็จะได้คืบเอาศอก ต้องแข็งกร้าวเท่านั้น ถึงจะทำให้พวกเขาถอยออกห่าง
เดิมคิดว่าเรื่องมันจะผ่านไปอย่างนี้ แต่ไม่เวลานาน Brunoคนที่เฝ้าประตูอยู่ด้านนอกจู่ๆก็วิ่งแตกตื่นเข้ามารายงานว่า: “Missเซี่ย มีเด็กหนุ่มสองสามคนได้โยนก้อนหินก้อนใหญ่เข้ามา ทำให้หม้อต้มซุปที่อยู่ด้านนอกหกหมดเลย น้ำซุปยังกระเด็นใส่ลูกค้าท่านหนึ่งอีก”
“อะไรนะ!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเซี่ยจิ้งเริ่มอยู่ไม่สุข วิ่งออกไปดู หม้อซุปผิดรูปพลิกคว่ำอยู่ที่พื้น กระดูกเนื้อเละกระจัดกระจายไปหมด ที่หนักไปกว่านั้นคือแขนของลูกค้าชายท่านหนึ่งถูกสาดด้วยน้ำซุปร้อนๆ เป็นแผลพุพองขึ้นมา ดีที่พื้นที่โดนไม่มากนัก เป็นแผลเล็กน้อยเท่านั้น
“ต้องขอโทษจริงๆด้วยค่ะ คุณไปตรวจดูที่โรงพยาบาลก่อน เราจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณภายหลัง”
เซี่ยจิ้งกล่าวขอโทษลูกค้า ลูกค้าชายท่านนั้นก็เป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะ เข้าใจก็ไม่ได้โทษร้านอาหาร ก็ร่วมด้วยกับคนที่มาต่อคิวด้วยกัน ด่าทอผู้ที่มาทำความเสียหาย
“ผมเห็นครับ เป็นผู้ชายที่ย้อมผมสีเหลืองมาโยนก้อนหิน” เด็กผู้เห็นเการณ์กล่าว
“ต้องเป็นไอ้นักเลงหัวไม้นั้นแน่เลย!”
เซี่ยจิ้งโกรธจนกระทืบเท้าตัวเอง รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ เธอเลยโทรตามเฉินห้าว แจ้งให้เขากลับมาจัดการ
เฉินห้าวกำลังคุยเรื่องธุรกิจกับโจวซีถงอยู่ที่บริษัทโจวซื่อ ช่วงนี้ธุรกิจอาหารทะเลไปได้ดี เนื่องจากตลาดอาหารทะเลระดับไฮเอนด์เป็นตลาดของผู้ขายมาโดยตลอด อาหารทะเลที่คุณภาพดีสามารถพบได้แต่หาไม่ได้ ดังนั้นเมื่อฝั่งเถ้าแก่สวี่สั่งซื้อก็มีของทันที และยังมีชื่อเสียงในท้องถิ่นอีกด้วย แม้ความต้องการไม่มาก แต่ก็ไม่เพียงพอต่อร้านอาหารและคนรวยที่อยู่ในเมืองใกล้ๆที่มาสั่งซื้อกับเขา ฉะนั้นธุรกิจก็ไปได้สวยเหมือนกัน สองสามวันก็มีออร์เดอร์หลายหมื่นหรือหลายแสน
นอกจากนี้ธุรกิจร้านเหล้าของเขาก็ไปได้ดีพี่เจินชอบมาสั่งซื้อเหล้าระดับไฮเอนด์จากเขาเป็นบ่อยครั้ง มีของส่งออกอย่างมั่นคง อยากได้อะไรก็มีหมด ทั้งโลกก็มีแต่เฉินห้าวเพียงหนึ่งเดียวแล้ว
“รอบริษัทของคุณก่อตั้งสำเร็จ ก็สามารถเดินตามช่องทางบริษัทของคุณได้เลย ระมัดระวังในการเลี่ยงภาษีที่สมเหตุสมผลด้วย” โจวซีถงได้บอกกล่าวข้อควรระวังในการดำเนินธุรกิจให้เฉินห้าว
“ได้” เฉินห้าวพยักหน้ารับ
ในขณะนี้นั่นเอง จู่ๆเขาก็ได้รับสายเรียกเข้าจากเซี่ยจิ้งสาวสวยนมใหญ่นี้โกรธมาก ได้เล่าเหตุการณ์ที่ไอ้นักเลงมาหาเรื่องที่ร้านผ่านโทรศัพท์อีกหนึ่งรอบ
“คุณรีบกลับมา ต่อยตีเขาให้เป็นหัวหมูไปเลย!”
“ได้ ฉันจะรีบกลับไป” ใบหน้าเฉินห้าวเย็นลง กล้ามีคนมาเหยียบจมูกของผู้มีอำ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ต้องการความช่วยเหลือฉันไหม?”โจวซีถงถามขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้
“ไม่เป็นไรครับ ประธานโจวช่วยฉันมาเยอะแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้ฉันจัดการเองได้” เฉินห้าวได้ยิ้มอ่อนๆให้เธอ และยังเลิกคิ้วส่งสายตาสวยๆไปให้
หัวใจของโจวซีถงสั่นสะท้าน เธอสังเกตว่าช่วงนี้ตัวเองยิ่งอยู่ยิ่งต้านทานเสน่ห์ของเฉินห้าวไม่ไหวแล้ว
ดีที่เฉินห้าวรีบออกไป เธอถึงได้ถอนหายใจยาวๆ ไม่ได้มีท่าทีที่เสียอาการออกมา
……
เฉินห้าวรีบขับรถมุ่งไปยังร้านอาหารฝรั่งเศส พอถึงที่เกิดเหตุ เห็นการจัดระเบียบร้านอาหารกลับสู่สภาพเดิมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าการแก้แค้นในคราวหน้าจะเป็นอะไร
“ท่านประธาน คุณต้องตัดสินให้ฉันนะ!” เซี่ยจิ้งดั่งเหมือนหญิงสาวผู้น้อยที่ถูกรังแก เหมือนนกน้อยบินเข้าในป่า ซบไปที่ตรงอกเฉินห้าว เขาได้อุ้มกลิ่นหอมอบอุ่นเข้าในอ้อมกอดทันที
“นี่?”
เฉินห้าวเสียศูนย์ไปนิด นี่มันต้องโกรธมากขนาดไหนถึงเป็นอย่างนี้ อดไม่ได้ที่จะโกรธอย่างไฟไหม้
“พวกเขาเป็นคนอะไร รู้หรือเปล่า?” เฉินห้าวได้ปลอบเธอและลูบหลังไปด้วย กล่าวถาม
“พวกเขาได้ทิ้งเบอร์ไว้หนึ่งเบอร์ หากคิดได้เมื่อไหร่ให้โทรหาเขา และต้องเตรียมเงินไว้สามหมื่น”เซี่ยจิ้งกล่าว
ดูเหมือนว่าเธอกำลังร้องไห้ แต่ก็แค่เสียงสะอื้นไม่มีน้ำตา ซ่อนอยู่ในอ้อมกอดเฉินห้าวแอบยิ้ม นี่เป็นการที่ได้รับการโอบกอดจากหนุ่มหล่ออย่างถูกวิธี
เฉินห้าวไม่รู้เรื่องนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็โทรออกไป