เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 141 กดขี่ทุกทาง
บทที่ 141 กดขี่ทุกทาง
ประชากรมากมายแค่รู้จักไฟแช็กเพียงยี่ห้อZippoของประเทศอเมริกา หากแต่Zippoเป็นเพียงยี่ห้อโฆษณาทำได้ดีเท่านั้น คนส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่ายี่ห้อนี้ไม่สามารถจัดอันดับเป็นยี่ห้อระดับไฮเอนด์ Dunhillเองก็เป็นหนึ่งในยี่ห้อระดับไฮเอนด์ ไฟแช็กDunhilอันนี้ เทียบเท่ากับแอสตันมาร์ตินในวงการไฟแช็กที่หรูหราจนเหนือคำบรรยาย
เฉินห้าวสามารถใช้ไฟแช็กยี่ห้อDunhillและสูบซิการ์Gurkhaได้นั้น สถานะของเขาก็ถูกยกระดับสูงขึ้นหลายขุม ต่อให้เป็นเจ้าถิ่นใหญ่ระดับร้อยล้านอย่างเขา หากต้องการรวบรวมสองสิ่งนี้มาในครอบครองยังยากยิ่ง สิ่งเหล่านี้อดทำให้เฮียสือนึกสงสัยไม่ได้ ไม่สามารถคาดการณ์เบื้องลึกเบื้องหลังของเฉินห้าวได้เลย
ก่อนหน้านี้เขาเคยสืบประวัติของเฉินห้าวมาก่อน เขาเป็นเพียงเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ เท่านั้น แถมยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ที่มีมูลค่าร้อยกว่าล้าน ถือว่าเป็นเศรษฐีเล็กคนหนึ่งของเมืองนี้ เฮียสือจึงไม่นึกใส่ใจ หรือแม้แต่คิดที่จะถือโอกาสใช้ประโยชน์จากเรื่องของเฮียหนิวสั่งสอนมันสักหน่อย เพราะงั้นจึงมีเรื่องราวบีบบังคับเชิญเขามางานก่อนหน้านี้
เขาจะจัดฉากเป็นพี่ใหญ่ที่มีอำนาจมากของสังคม หากเฉินห้าวหวั่นเกรงเป็นหมาหงอย เขาจะถือโอกาส ทำให้เฉินห้าวล้มละลาย
พี่ภาพพจน์ยากที่จะคาดเดาของเฉินห้าวในตอนนี้ เฮียสือมิอาจจับทางของเขาได้เลย ทำให้เฮียสือเกิดลังเลใจ
เฮียสือไตร่ตรองอยู่สักพัก เขาคงใช้ความรุนแรงไม่ได้ จำเป็นเปลี่ยนแผนการ เสียงดีดนิ้วดังเบ๊าะ เขาสั่งให้ลูกน้องนำไวน์ออกมา
ลูกน้องของเขานำไวน์ออกมาขวดหนึ่ง เปิดขวดออกพร้อมรินเต็มแก้ว
เฮียสือกล่าวอย่างอวดอ้าง “ไวน์ปี2000ขวดนี้ ราคาตลาดอยู่ที่ขวดละหมื่นกว่า วันนี้ถือว่าเรามีมิตรภาพต่อกัน”
เฉินห้าวนึกขำ พลันกล่าว “เมื่อสักครู่ยังขู่ผมอยู่เลย ตอนนี้กลับจะดื่มไวน์ คุณนี่เหมือนกับเด็กน้อยเลยนะ ที่กลับไปกลับมา”
ประโยคที่ไม่เกรงใจ ทำให้เฮียสือโกรธจัด แต่เพราะยังไม่บรรลุเป้าหมาย จึงได้แต่อดทนเก็บกลั้นโทสะเอาไว้
“ผมแค่ต้องกการโอกาสที่จะได้เจรจากับคุณ การที่คุณทำให้ผมโกรธไม่ส่งผลดีแม้แต่น้อย” เฮียสือกล่าวอย่างโกรธแค้น
“ดื่มก็ดื่ม แต่ผมไม่สนใจในไวน์ราคาหลักหมื่นของคุณหรอก คิดจะดื่มก็ดื่มอย่างดีไปเลย” เฉินห้าวกล่าว
ลูกน้องที่อยู่ข้างเฮียสือทนต่อไปไม่ไหว ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นออกมา “เฮียสือให้คุณดื่มไวน์ก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ?”
เฮียสือเองก็กล่าวอย่างไม่พอใจ “สหาย หัดเจียมตัวซะบ้าง”
“ผมไม่มีความหมายอื่น ก็แค่ไม่คุ้นชินกับของราคาถูกก็เท่านั้น”
เฉินห้าวกล่าว พร้อมกับหยิบขวดเหล้าที่มีสีดำเทาออกมา ขวดไวน์ทำจากคริสตัลด้วยเทคนิคการใช้คนเป่า รูปลักษณ์สวยงามเปรียบเสมือนผลงานศิลปะ บนขวดสลักด้วยชื่อLouis XIIสลักอยู่
“นี่คือRemy?” เฮียสือกล่าวถามอย่างตกตะลึง
บรั่นดี Black pearl Louis XII ราคาหนึ่งแสนสามหมื่นสองพันดอลลาร์
“Remy Louis XIIราคาอยู่ที่แสนสามกว่า ใช่สิ ดอลลาร์นะ คิดจะดื่ม ต้องรสนี้สิถึงจะถูก เก็บไวน์ของคุณเอาไว้เถอะ อย่างสุดก้ได้แค่กลั้วปาก”
เฉินห้าวกล่าว พร้อมเทไวน์ในแก้วกับพื้น ราวกับน้ำเปล่า ก่อนที่จะเปิดRemy รินใส่แก้วครึ่งหนึ่ง
เฉินห้าวรินให้กับตนเอง ก่อนที่จะยกแก้วขึ้น เป็นการส่งสัญญาณบอกให้เขารินเอาเอง เขาใจกว้างมาก ถึงกับเชิญชวนให้อีกฝ่ายลิ้มลองบรั่นดีราคาสูง
เฉินห้าวต้องการกดขี่คู่ต่อสู้ ถึงจะพึงพอใจ การวางมาดต่อหน้าเขา ท้ายที่สุดที่แต่จะยกหินขึ้นทับเท้าของเขาเอง
เฮียสือคับแค้นใจ หยิบซิการ์ออกมา เป็นสุดท้ายเฉินห้าวกลับครอบครองซิการ์ที่ดีที่สุดในโลกและไฟแช็กสุดหรู นำไวน์ออกมา สุดท้ายเฉินห้าวนำบรั่นดี Remy Louis XIIราคาแสนสามดอลลาร์ออกมา กดขี่เขาทุกทาง
เสมือนกับนักเรียนคนหนึ่ง นำลูกแก้วมาเรียงอวดในชั้น สุดท้ายลูกเศรษฐีในชั้นกลับหยิบเอาหุ่นยนต์แปลงร่างออกมา โมเดลสุดหรู ช่างแตกต่างกันยิ่งนัก
ทีแรกเขาคิดที่จะเชิญให้เฉินห้าวมาเพื่อการข่มขู่ เพื่อไถเงินหลักล้าน สุดท้ายทุกอย่างที่เขาหยิบออกมาจากในห้อง ก็เกินล้านเข้าไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทรัพย์สินส่วนส่วนตัวจะมากมายสักเพียงใด คนแบบนี้ พวกเขาล่วงเกินได้อย่างนั้นหรือ?
เฮียสือเข้าสู่ห้วงแห่งความคิด
คนธรรมดาได้เห็นความสามารถของเขา ต่างก็ไม่กล้ากลั่นแกล้งเขา แต่เฮียสืออาศัยอยู่ที่ไป๋เหอมานานหลายปี จนเคยชินกับความรุนแรงใช้อารมณ์ แถมเฉินห้าวยังมีเงินถึงเพียงนี้ หากแผนการณ์ของเขาสำเร็จขึ้นมา รวยเละแน่ เพราะงั้นเกิดจึงคิด เพราะงั้นเขาจึงคิดแผนชั่ว คิดที่จะใช้ไม้แข็ง
เฮียสือปัดแก้วไวน์ในโต๊ะจนคว่ำ ตบโต๊ะเสียงดัง “ไอ้สกุลเฉิน ในเมื่อไม่ให้เกียรติกัน ถ้างั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป ดูเหมือนว่าจะต้องให้บทเรียนกับแกสักหน่อย แกถึงจะยอมคุยกับฉัน!”
เหล่าลูกกระจ๊อกของเขาได้ยินอย่างนั้น พลันพับแขนเสื้อมุ่งเข้ามา คิดที่จะทำร้ายเฉินห้าว
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เฉินห้าวต้องการ เสียเวลาอยู่ตรงนี้ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็ใช้กำลังได้เสียที เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เผชิญหน้ากับลูกกระจ๊อกทั้งสี่
เฉินห้าวมีความแข็งแรง ทั้งสองฝ่ายต่างเหวี่ยงหมัดออกไป ลูกกระจ๊อกโจมตีเฉินห้าว ไม่เจ็บไม่คันแท้แต่น้อย ส่วนหมัดของเฉินห้าว ส่วนหมัดของเฉินห้าวที่เหวี่ยงออกไป ลูกกระจ๊อกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จนเผยสีอาการเจ็บปวด สลัดออกไปไกลถึงสองเมตร กระแทกกับผนังห้อง จนส่งเสียงดัง “ตุ่บ”
เฉินห้าวเหวี่ยงออกไปอีกหมัด ลูกกระจ๊อกอีกหนึ่งคนล้มลงกับพื้น
สองคนที่เหลือยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงหมุนลำแขน ออกแรงดึง “แกรก” ข้อต่อแยกออกจากกัน จนเกินเสียงร้องคำรามราวกับเชือดหมู ล้มลงกับพื้น
ไม่ถึงยี่สิบวิ ทั้งสี่ร้องคร่ำครวญ ดิ้นพล่านที่พื้น ศึกในครั้งนี้ สำหรับคนธรรมดา ถือว่าโดดเด่นนัก
เฮียสือรูม่านตาขยาย ไม่คิดเลยว่าเฉินห้าวไม่เพียงแต่มีเงินทอง แถมยังสู้เก่งเสียขนาดนี้ คราวนี้เหมือนจะพบของแข็งเข้าให้แล้ว แต่ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว ได้แต่กัดฟันสู้ เขาหยิบมีดเล่นเล่มออกมาจากเอว คำรามเสียงดัง กระโดดขึ้นไปยังโต๊ะ จ้วงแทงเข้าให้