เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 147 เพิ่มพูนกำลังวังชา
บทที่ 147 เพิ่มพูนกำลังวังชา
เฉินห้าวพอใจในภาพลักษณ์ใหม่ของตัวเองเป็นอย่างมาก หน้าตาที่หล่อเหลารวมเข้ากับหุ่นที่ดูดีแล้ว ถือเป็นเน็ตไอดอลได้เลยทีเดียว
หลังจากชื่นชมในตัวเองในกระจกจนเสร็จ เฉินห้าวก็ใส่เสื้อผ้าก่อนออกมา และลองใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้าน เขาปรับแรงดันจนสุดแล้ว แต่พบว่ามันไม่เพียงพอสำหรับกำลังของตัวเองแล้ว เพราะมันยังไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยยากอะไร ถ้าอยากจะลองด้วยแรงดันที่มากกว่านี้ คงจะต้องไปฟิตเนสเสียแล้วล่ะ
“เซี่ยจิ้ง ฉันจะไปออกกำลังกาย จะไปด้วยกันไหม?” เฉินห้าวถาม
“ได้สิ ฉันไม่ได้ไปมาหลายวันแล้ว กล้ามหายหมดแล้ว ไปกันเถอะ!” ไม่ว่าจะทำงานหรือเที่ยวเล่น เพียงแค่เซี่ยจิ้งได้อยู่กับเฉินห้าว ก็ดูสนุกสนานไปเสียหมด
ทั้งสองคนเลยขับรถออกไป เพื่อไปที่ยิมซานเฟิงที่คุ้นเคย
ทั้งสองคนมีบัตรสมาชิกแล้ว เพียงแค่รูดบัตรก็เข้าไปได้
เมื่อถึงด้านใน ก็สังเกตเห็นได้ทันที เพราะ “นมใหญจิ้ง” ที่ทำให้ที่นี่มีสีสันนั้นกลับมาแล้ว
“สวัสดี!”
นมใหญจิ้งทักทายกับคนมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคย จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นชุดกีฬาตัวใหญ่ ก่อนจะเริ่มเล่นฟิตเนสของใครของมัน
เฉินห้าวมาตรงส่วนของการทดสอบกำลัง เพื่อมาดูว่าครั้งที่แล้วที่ตัวเองทำเอาไว้ได้เท่าไหร่ แถมที่จับนั้นก็มีรูปร่างที่เปลี่ยนไป เกรงว่าครั้งนี้ตัวเองอาจจะทำให้มันหักได้ เลยล้มเลิกความคิดที่จะทดสอบกำลังตรงนี้ แต่เปลี่ยนไปทดสอบกับอุปกรณ์ฝึกกล้ามเนื้อระดับสูงที่สุดแทน
ความยากของการฝึกนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝึกยากไปซะทีเดียว แต่หมายถึงน้ำหนักและความดังนั้นมันหนักมาก แทบจะไม่มีใครปรับระดับไปถึงสูงที่สุดเลยล่ะ พูดได้อีกอย่างว่าต้องเป็นคนที่มีแรงเกินคนเท่านั้นถึงจะมาเล่นได้ นั่นคือเพื่อรองรับคนพิเศษบางกลุ่มเท่านั้น อุปกรณ์ออกกำลังแบบพิเศษที่ทางฟิตเนสซื้อมา ก็มีเพียงแค่เครื่องเดียวเท่านั้น ถ้าเฉินห้าวอยากจะฝึก ก็ใช้ได้เพียงเครื่องนี้
ขณะที่เฉินห้าวเล่นกล้ามและช่วงข้อต่อต่างๆ ก็ปรับไปถึงสี่ร้อยห้าสิบกิโล มันเกิดกำลังของคนทั่วไปไปมากแล้ว
เฉินห้าวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ปรับท่าทางให้ดี จากนั้นก็ใช้แขนทั้งสองข้างวางบนที่จับของเครื่อง จากนั้นก็ใช้ท่าออกกำลังส่วนกล้ามหน้าอก เมื่อออกกำลังจนเสร็จเซตหนึ่งกลับยังรู้สึกเหมือนไม่ได้ออกแรงเท่าไหร่
เฉินห้าวออกกำลังถึงห้าเซต เพราะรู้สึกว่ามันเบาเกินไป จนไม่ถึงเป้าหมายในการออกกำลังเลยแม้แต่น้อย เลยอยากจะปรับให้มันหนักมากกว่าเดิม ครั้งนี้เขาปรับมันไปถึงห้าร้อยห้าสิบกิโล ในครั้งนี้มันเกือบจะถึงขีดจำกัดของเครื่องแล้ว ถ้าเกิดว่าเหล็กนั้นมันผ่านเครื่องลงมาแล้ว แรงของเครื่องก็จะมากขึ้น จนถึงขนาดที่ว่าคงจะไม่มีคนเหนือมนุษย์คนไหน สามารถเล่นได้อีกแล้ว
ครั้งนี้เฉินห้าวฝึกใหม่อีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกถึงแรงที่มากขึ้นแล้ว เขาทำไปสิบเซตแล้ว แต่ยังรู้สึกทำได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับว่ายังมีแรงเหลือให้ฝึกได้มากขึ้นอยู่
แต่ครั้งนี้เฉินห้าวปรับน้ำหนักไปถึงหกร้อยกิโลซึ่งเป็นน้ำหนักที่หนักที่สุดแล้ว ระดับนี้ นอกจากคนที่มีกำลังวังชามากอยู่แต่กำเนิดอยู่แล้ว ก็แทบไม่มีใครทำได้อีกแล้ว
แต่เฉินห้าวนั้น ถือว่าเป็นความบังเอิญได้เลยล่ะ
เขาหลับมานั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ แล้วฝึกจนครบห้าเซต ครั้งนี้เขารู้สึกถึงระดับที่เขาต้องการแล้ว อย่าคิดว่ามันเพิ่มมาแค่ห้าสิบกิโลแล้ว แต่มันแทบจะแตะขีดจำกัดของเขาแล้ว เลยมีความกดดันไม่น้อยเลย ที่จะสามารถฝึกไปจนถึงจุดที่เขาต้องการได้แล้ว
เฉินห้าวทำต่อเนื่องจนถึงหนึ่งร้อยครั้งแล้ว ทุกครั้งก็รู้สึกได้ถึงแรงที่ค่อยๆ กดเข้ามาทุกครั้ง พลางรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่ได้ออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำครบหนึ่งร้อยครั้งแล้ว เฉินห้าวก็เหงื่อออกไปทั่วเรือนร่าง
การออกกำลังกายแบบหนักๆ แบบนี้ไม่ควรทำต่อเนื่องนานเกินไป ดังนั้นเขาเลยหยุดพัก เขารู้สึกชอบเครื่องเล่นเครื่องนี้เป็นอย่างมาก เลยอยากจะซื้อเอาไว้สักเครื่องหนึ่ง จะได้ไม่ต้องมาฟิตเนสทุกวันแบบนี้แล้ว
แต่ว่าห้องของเขามันเล็กเกินไป อีกอย่างถ้าจะมาติดตั้งเอาไว้ที่ห้องนั่งเล่นก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ห้องสมุดก็ไม่เหลือที่ว่างแล้ว มันเป็นปัญหาที่ลำบากใจไม่น้อยเลย
ดูๆ ไปแล้ว ตอนนี้ความต้องการที่จะซื้อบ้านเดี่ยวนั้น มันก็มากขึ้นไปอีก
เฉินห้าวเปิดappขึ้นมา ก่อนจะหาบ้านพักตากอากาศ บ้านพักตากอากาศมีวิวของแม่น้ำที่ดูในตอนแรกนั้นไม่มีเงินชดเชย และกำลังขายในราคาเดิม
แต่ตอนนี้เฉินห้าวหัวสูงมาก ดังนั้นบ้านพักตากอากาศแบบธรรมดาเลยไม่อยู่ในสายตาเขาเลยแม้แต่น้อย เขาอยากได้แบบที่ดีกว่านี้ อยากได้แบบที่เห็นเพียงแวบเดียวก็ถูกใจเลย เขาเลยอยากหาโอกาสในการหาสถาปนิกเพื่อมาออกแบบให้โดยเฉพาะ
เฉินห้าวดูในโทรศัพท์จนเสร็จ จากนั้นก็ไปหาเซี่ยจิ้ง เพื่อฝึกกับเธอ
ยังไม่ต้องพูดถึงเซี่ยจิ้งเลย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนที่รักในการเล่นกล้ามอยู่แล้ว ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี อีกอย่างในการออกกำลังกาย ก็ต้องใส่ชุดที่รัดรูป เพื่อให้เห็นความสวยงามของเรือนร่างได้มากขึ้น
จู่ๆ เฉินห้าวก็คิดถึงชุดนอนของเซี่ยจิ้งที่ดู “สมจริง” ในคืนนั้น ก็รู้สึกมีเลือดพลุ่งพล่านไปทั้งตัว เฉินห้าวรีบหยุดความคิดที่มีเอาไว้ ก่อนจะตั้งใจเล่นกล้ามต่อ ถึงจะสงบสติอารมณ์ได้
ชีวิตที่เป็นชายโสดนั้น มันช่างห่อเหี่ยวและขมขื่นเสียจริง
ทั้งสองคนเล่นกล้ามสองชั่วโมงกว่า ระหว่างนั้นมีแต่เสียงหายใจหอบ สุดท้ายเรือนร่างก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ จึงรีบไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำของยิม ก่อนจะกลับบ้านไปพร้อมกัน
เฉินห้าวขับHummerของตัวเอง พลางดูวิวรอบๆ เมืองนั้น เซี่ยจิ้งก็เปิดกระจกรถ พลางปล่อยให้ลมเย็นยามค่ำคืนพัดโชย เธอเริ่มดื่มด่ำไปกับการร้องเพลง พลางนึกย้อนไปในช่วงวัยรุ่น
เฉินห้าวยิ้มขึ้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอมาก พลางตั้งใจขับรถต่อไป แต่เมื่อใกล้ถึงบ้านแล้ว จู่ๆ เฉินห้าวก็พบว่า มีรถจอดอยู่มากมายสองข้างทาง แถมยังมีวัยรุ่นสองสามคนนั่งสูบบุหรี่พลางพูดคุยไปด้วย ดูภายนอกแล้วเหมือนไม่ได้มาดีแน่ๆ
เมื่อวัยรุ่นพวกนั้นเห็นรถHummerของเฉินห้าวขับมา ก็ลุกขึ้นทันที บางคนผิวปาก ก่อนจะเริ่มสตาร์ทรถที่อยู่สองข้างทาง เพื่อขับรถทั้งสี่คันมาจอดปิดทางจราจร รถHummerของเฉินห้าวเลยจะเป็นต้องจอดไปด้วย