เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 19 ผู้ช่วยท่านประธาน
บทที่ 19 ผู้ช่วยท่านประธาน
“อะไรนะ?5 เท่า!”เฉารุ่ยตกตะลึง ความน่าสังเวชที่ถูกไล่ออกจากงานเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นความดีอกดีใจ เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เธอรีบเช็ดน้ำตาทันที
“ไม่เต็มใจเหรอ?”เฉินห้าวถามเธอ
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ ฉันเต็มใจค่ะ เพียงแต่ว่าพวกเขาต่างพูดกันว่าฉันโง่ไปหน่อย ฉันกลัวว่าฉันจะทำงานไม่ดี”เฉารุ่ยรีบตอบอย่างร้อนรน
เฉินห้าวพูดขึ้นว่า:“ถ้าแม้แต่ความมั่นใจในตัวเองของคุณก็ไม่มี งั้นผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้ งานที่ผมมอบหมายให้คุณก็ไม่ได้ยากอะไร ตอนนี้ก็จัดการธุระของตึกทั้งตึกนี้ให้กับผม หรือบางทีอาจจะเรียกคุณอีกอย่างหนึ่งว่าหัวหน้าตึก”
“ฉัน ดูแลตึกนี้ทั้งตึก?” เฉารุ่ยไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยคิดว่าตนจะได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจที่สำคัญขนาดนี้
“ใช่แล้ว ห้องว่างที่ปล่อยว่างไว้เฉย ๆ ก็จะเป็นการสูญเสียทรัพยากรโดยใช่เหตุ นอกเสียจากว่าพวกเราจะเลือกสัก 2-3 ชั้นใช้สำหรับอยู่อาศัยเอง รวมถึงใช้ประโยชน์อื่น ๆ ส่วนที่เหลือเราสามารถปล่อยเช่าได้ เพื่อเรียกเก็บค่าส่วนกลาง และยังได้เงินเล็ก ๆ น้อย รอจังหวะให้ราคาตึกสูงขึ้นในระดับหนึ่ง ยังสามารถขายทิ้งได้ทั้งหมด ก็ดูว่าคุณจะจัดการยังไงก็แล้วกัน”เฉินห้าวพูดขึ้น
แม้ว่าตอนนี้เฉินห้าวจะอาศัยแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้าน รับมูลค่าอย่างบ้าระห่ำ แต่ว่านั้นก็เป็นกิจกรรมของใช้เงินอุดหนุน ซึ่งเหมือนกับแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านในแอพปิ้งซีซี ถ้าหากว่าเงิน 100 ล้านหยวนนี้ใช้หมด ไม่แน่ว่ากิจกรรมอาจจะถูกยกเลิก เขาจะต้องวางแผนล่วงหน้า รีบยืนให้ได้ด้วยขาของตัวเอง ไม่ใช่พึงพาแต่เงินชดเชยในการดำรงชีวิต
“ได้ค่ะ งานนี้ฉันทำได้ค่ะ!”เมื่อเฉารุ่ยได้ฟังว่าเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ใบหน้าร้องไห้เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม ก่อนที่เธอจะมาทำงานในตำแหน่งนี้ เธอก็ได้ตั้งใจหาความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อย่างเอาเป็นเอาตาย
“ตอนนี้ผมมีภารกิจให้คุณ 1 ภารกิจ คือ ในห้องมีเตียง ที่นอนหมอนมุ้งและเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณช่วยผมเลือกห้องที่ติดกัน แล้วจัดวางของพวกนี้ให้เรียบร้อยเพื่อใช้เป็นห้องพักของผม ส่วนคุณก็เลือกสักห้องไว้เป็นหอพัก ”เฉินห้าวพูดกำชับ
“ได้ค่ะ รับรองว่าฉันทำภารกิจนี้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแน่นอนค่ะ!”เฉารุ่ยพูดขึ้นพลางยืดเอวตรง ทำแบบนี้ทำให้รูปร่างของเธอดูมีทรวดทรงมากยิ่งขึ้น
เฉินห้าวพยักหน้าอย่างพอใจ ขณะที่เขากำลังจะจากไป เฉารุ่ยก็รีบเรียกหยุดเขาไว้
“ท่านประธาน เรื่องนั้น ฉันทำงานกับคุณที่นี่ ไม่ทราบว่ามีสัญญาไหมคะ?” เฉารุ่ยลังเล แต่ก็พูดออกมา เนื่องจากเธอยังตกอยู่ในเงาของการถูกไล่ออก เธอต้องการได้สัญญาไว้เป็นสิ่งค้ำประกัน
“ผมยังไม่ได้จัดตั้งบริษัท ตอนนี้ก็เลยยังไม่มีสัญญา แต่แน่นอนว่าจะมีอย่างแน่นอน สำหรับสัญญาอย่างเป็นทางการ ถ้าคุณมีเวลาว่างก็ลองร่างดู ในเมื่อคุณก็เป็นผู้ช่วยของผม คุณก็ดูแล้วกันว่าจะจัดการยังไง”
ดูเหมือนว่าเฉินห้าวจะเข้าใจการกระจายอำนาจ แต่ที่จริงเป็นเพราะเขาขี้เกียจต่างหาก ในขณะเดียวกันเขาก็ขอเลขบัญชีของเฉารุ่ย จากนั้นก็โอนให้กับเธอเป็นเงิน 3หมื่นหยวน ถือว่าเป็นค่าจ้างล่วงหน้า ทำให้เธอวางใจในการทำงาน
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน!”เฉารุ่ยโค้งคำนับด้วยความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ
“ไม่ต้องเกรงใจ คุณก็ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน สหายเฉารุ่ย”
“ค่ะ!”เฉารุ่ยโค้งคำนับอย่างฮึกเหิมในการทำงาน มีเพียงวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบเท่านั้นที่จะมีความกระปรี้กระเปร่าแบบนี้ เฉินห้าวชอบเป็นอย่างมาก
จากนั้นเขาก็ไปที่ลานจอดรถและขับรถออกไปจากชุมชนและในเวลานี้เองเมื่อรปภ.เห็นรถลัมโบร์กีนีคันนี้ ก็ต่างโค้งคำนับ ตอนนี้พนักงานทุกคนที่ทำงานในส่วนกลางของชุมชน ทุกคนต่างรู้จักท่านประธานผู้ร่ำรวยคนนี้
เฉินห้าวจากไปด้วยความรีบร้อน เป็นเพราะว่าเขามีนัดกับหมอแพทย์แผนจีนที่ชื่อลุงหูที่เขาเจอเมื่อวาน ต้องนำAmbergrisไปมอบให้กับเขา
เขาอิงตามที่อยู่ มายังคลินิกแพทย์แผนจีนตระกูลหู เฉินห้าวพบว่าคลินิกเล็กๆแห่งนี้กิจการไม่เลวเลย มีคนป่วยสูงวัยกำลังเข้ารับการรักษา 2-3 คน อีกทั้งในห้องตรวจก็ยังมีหมอวัยกลางคนอยู่ 2 คน และก็ยังมีตู้ยาจีนเพื่อให้แขกสะดวกในการหยิบยา
“ขอถามหน่อยครับ ลุงหูอยู่ไหมครับ?”เฉินห้าวเข้ามาพลางถามขึ้น
“ท่านคือคุณเฉินห้าวใช่ไหมคะ?ลุงหูของพวกเราอยู่ด้านหลัง ฉันจะพาท่านไปค่ะ!”พยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้น
ขณะที่เฉินห้าวไปบริเวณด้านหลังของคลินิก ก็พบว่าลุงหูไม่ได้ทำการรักษาโรคแล้ว หมอที่รักษาโรคล้วนเป็นลูกศิษย์ของลุงหู ลุงหูเป็นเพียงที่ปรึกษาในการรักษาเท่านั้น และอยู่หลังม่านทำการวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีทางการแพทย์
เฉินห้าวมองเห็นลุงหูที่บริเวณด้านหลังของคลินิก เขาสวมชุดฝึกไทเก็กสีขาว แน่นอนว่าไม่ใช่เทพในนิยายกำลังภายในแต่เป็นเพียงชายสูงวัยที่นำมาใช้เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น
เฉินห้าวรออยู่ด้านข้าง 2-3 นาทีต่อมา หลังจากลุงหูรำไท่เก็กเสร็จ ก็หัวเราะแหะ ๆ พลางพูดว่า:“ต้องขอโทษด้วยนะครับประธานเฉินที่ทำให้ท่านรอนาน”
“ไม่เป็นไรครับ ท่านอย่าเรียกผมว่าท่านประธานเลย ท่านอาวุโสกว่าผม เรียกชื่อผมเฉย ๆ ก็พอแล้วครับ”เฉินห้าวพูดขึ้น
“ดีมาก อายุยังน้อยแต่รู้จักกาลเทศะ รู้จักถ่อมตัว ไม่เลว!”
ในสายตาของลุงหูภาพลักษณ์ของเฉินห้าวไม่เลวเลย ด้านข้างมีแม่บ้านคนหนึ่งยกน้ำชามาเสิร์ฟ 2แก้ว ทั้ง2นั่งลงพูดคุยธุรกิจกัน
“เมื่อวานคุณบอกว่าคุณมีอําพันทะเล ตอนนี้คุณมีของไหม ผมอยากดูสีของมัน”ลุงหูพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
“ได้ครับ”
เมื่อเฉินห้าวรับปากแล้ว ก็หยิบขวดแก้วใบเล็กใบหนึ่งออกมาจากถุงที่เตรียมไว้ ด้านในนั้นก็คืออําพันทะเลสีขาวชั้นดีเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่ง
อย่ามองว่าเป็นของขนาดแค่เล็บมือ แต่มูลค่าเกินหมื่น ราคาสูงมาก แต่ว่าเฉินห้าวสั่งซื้อใน app ราคาถูกมาก ราคาไม่แน่นอน หลังจากใช้เงินอุดหนุน ราคาเพียงกรัมละ1หยวน
ลุงหูหยิบขวดนั้นมา เปิดมันออก เริ่มดมก่อน จากนั้นใช้นิ้วมือเขี่ยขึ้นมาแล้วใช้ท้องนิ้วบด พลางมองดูลักษณะของผง ก็แสดงความดีอกดีใจ:“เป็นอําพันทะเลชั้นดีจริง ๆ คุณมีเท่าไหร่?”
“คุณต้องการเท่าไหร่ผมก็มีเท่านั้น ราคาตลาดกรัมละ 13333 หยวน ผมคิดราคาคุณกรับละ 8000 หยวน”เฉินห้าวยิ้มพลางพูดขึ้น
เพราะในappแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านไม่ได้จำกัดปริมาณอําพันทะเล แสดงว่ามีสินค้าจำนวนมาก ไม่ต้องเป็นกังวล สำหรับราคาไม่ควรตั้งราคาสูงหรือต่ำเกินไป ราคาสูงไปค่าต้นทุนก็ตกอยู่กับผู้ป่วย ราคาถูกเกินไปอาจจะดูเหมือนขายของปลอม สำหรับสมุนไพรที่ใช้รักษาคนป่วย เฉินห้าวคิดว่าราคาต้องเหมาะสม
“อ่อ?ถือว่ามีไมตรีจิตต่อกัน ราคาก็ยุติธรรม!ตอนนี้สมุนไพรดี ๆ ก็หายากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้แพทย์แผนจีนตกต่ำ ไม่เพียงแต่มีสาเหตุมาจากบุคลากรเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าสมุนไพรจำนวนมากได้สูญพันธ์ไปแล้ว ต่อให้เป็นหญิงที่เก่งกาจแค่ไหนแต่หากไม่มีข้าวสารก็ยากที่จะทำกับข้าว!”
ลุงหูทอดถอนหายใจ พลางลูบเคราสีขาวของตน