เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 217 คัมภีร์เพียงเล่มเดียว
บทที่ 217 คัมภีร์เพียงเล่มเดียว
อาหารจานอื่นๆ ของท่านเซี่ยล้วนโอ่อ่าตระการตา ประณีตยิ่งกว่าเนรมิต แต่ซุปถ้วยนี้กลับดูธรรมดา
ใครจะไปรู้เมื่อคุณแม่โจวเห็นซุปถ้วยนี้ก็อึ้งไป เธอใช้ช้อนซุปตักขึ้นมาเป็นอันดับแรก
เซี่ยจิ้งยืนแนะนำอยู่ข้างๆ “จานนี้คือซุปผักกาดขาว คุณปู่บอกว่าเมื่อยกลงจากเตาดูเหมือนจะไม่ร้อน แต่ข้างในยังร้อนอยู่ ต้องระมัดระวังเวลาทาน แต่ซุปนี้ต้องทานตอนที่กำลังร้อนๆ ถ้ามันเย็นแล้วจะไม่มีรสชาติ”
“ฉันเคยกินซุปผักกาดขาวตอนที่ยังสาวๆ”
นี่เป็นครั้งที่สองที่คุณแม่โจวได้ทานซุปผักกาดขาว เธอเอาตักซุปมาเป่าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงซดช้าๆ รสชาติอันงดงามและกลิ่นหอมกรุ่น จู่ๆ เธอก็ขนลุกขึ้นมา เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“อร่อยมาก รสชาติเหมือนตอนนั้นเลย บางทีเชฟท่านนี้อาจจะเป็นเชฟที่ฉันเคยเจอในตอนนั้น” คุณแม่โจวพูดอย่างตื่นเต้น เธอนึกย้อนเรื่องราวในอดีต และชิมอาหารบนโต๊ะไปเรื่อยๆ สุดท้ายเธอจึงทานข้าวปั้นสีทอง ถือเป็นการสิ้นสุดมื้ออาหาร
โจวซีถงก็อิ่มมากเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นแม่ทานได้เยอะขนาดนี้ เธออดดีใจขึ้นมาไม่ได้ เธอเอ่ยถามเซี่ยจิ้งว่า “คุณบอกว่าคนที่ทำอาหารคือปู่ของคุณ”
“ใช่ค่ะ เขาเกษียณและไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว วันนี้บอสตั้งใจเชิญเขามาเลยนะคะ เขาบอกว่าจะมีแขกคนพิเศษมาทานอาหารเจ ปู่ของฉันเลยลงมือทำเองค่ะ”
เซี่ยจิ้งพูดถึงปู่ของตัวเอง ก็ถือโอกาสพูดช่วยเฉินห้าวด้วย พนักงานคนนี้ทุ่มเทให้กับเจ้านายอย่างไม่ต้องพูดอะไรเลยจริง
“เดี๋ยวฉันขอเจอปู่ของคุณได้ไหม” คุณแม่โจวถามขึ้น ท่าทีของเธอดูจริงใจและซื่อสัตย์ อาหารของเชฟเอาชนะลูกค้าคนนี้ได้
“ฉันขอไปถามก่อนนะคะ คุณทานกันก่อนเถอะค่ะ” เซี่ยจิ้งเอ่ยขึ้น
“ได้” คุณแม่โจวพยักหน้าอย่างมีความสุข
ครั้งนี้มีอาหารเลิศรสเป็นตัวช่วย สีหน้าของคุณแม่โจวดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ ไม่ได้ดูต่อต้านเฉินห้าวเหมือนตอนแรกแล้ว เมื่อเฉินห้าวเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีงาม เหมือนจะพูดเกลี้ยกล่อมได้
เฉินห้าวเริ่มคุยเรื่องสัพเพเหระ เพราะอยากฟังความสนใจของคุณแม่โจว จากนั้นค่อยทำตามความชอบของเธอ
เฉินห้าวย้อนไปถึงอดีต เธอเล่าเรื่องสมัยยังสาว ตอนที่เธอยังไม่แต่งงาน มักจะป่วยบ่อยๆ ต่อมามีพระอาวุโสรูปหนึ่งให้ตำรายาสมุนไพรพื้นเมืองกับเธอและทำให้ดีขึ้น คุณแม่โจวจึงเริ่มเลื่อมใสในพุทธศาสนาตามพระอาวุโสตั้งแต่ตอนนั้น แต่พอพูดขึ้นมาก็อดเสียดายไม่ได้
“ตอนนั้นผู้อาวุโสอ่านธรรมะพระสามสิบเจ็ดได้เพียงครึ่งเดียว ก็ไม่มีวาสนาพอที่จะอ่านส่วนที่เหลือ ต่อมาเขาก็ตามหาหลายทาง แต่ก็ไม่เจอคัมภัร์เล่มนี้อีก”
โจวซีถงตะลึงเล็กน้อย แม่ไม่เคยพูดเรื่องคัมภีร์นี้กับเธอมาก่อน สงสัยว่าวันนี้จะกระตุ้นความทรงจำของเธอ จึงทำให้พูดความลับออกมา
เฉินห้าวใจกระตุกวูบ เขาสามารถใช้โอกาสนี้ได้ เขารีบเปิด app เงินอุดหนุนหมื่นล้านเพื่อค้นหาว่ามีคัมภีร์จำหน่ายหรือเปล่า
เมื่อเขาพิมพ์ชื่อเข้าไปในช่องค้นหา มีคัมภีร์เล่มนี้ในช่องค้นหาจริงๆ
ธรรมะพระสามสิบเจ็ด เป็นคัมภีร์โบราณเพียงเล่มเดียว ไม่มีราคาขาย การประกันราคาขั้นต่ำอยู่ที่หนึ่งหยวน ต้องการคะแนนสะสมสามคะแนน
เฉินห้าวดูและรู้ว่านี่เป็นของหายาก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นของล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินราคา และต้องใช้คะแนนซื้อ
แต่ว่าเฉินห้าวสั่งซื้อทันที และในไม่ช้าก็มีคัมภีร์เก่าและชำรุดปรากฏอยู่ในมือ
เฉินห้าวพูดว่า “คุณป้าครับ พอดีผมเคยเก็บสะสมคัมภีร์เก่าอยู่เล่มหนึ่ง ชื่อเหมือนกันเลยครับ คุณป้าดูสิครับว่าใช่เล่มนี้ไหม”
พูดจบ เฉินห้าวจึงยื่นคัมภีร์ให้คุณแม่โจว
“คุณเอามาจากไหน เหมือนกับเล่มของผู้อาวุโสเลย”
คุณแม่โจวพลิกอ่านอย่างตื่นเต้น และแน่ใจว่าเป็นเล่มที่เคยเห็นตอนนั้น เธออดไม่ได้ที่จะชื่นชมในใจ ในที่สุดเธอทำตามความปรารถนาที่มีมานานได้สำเร็จ
โจวซีถงยิ้มอย่างปลาบปลื้ม ในที่สุดแม่ก็ได้สิ่งที่ต้องการ เธอหันไปมองเฉินห้าวอย่างอดไม่ได้ ผู้ชายของเธอเป็นคนหนุ่มที่เก่งมาก เขาเหมือนโดเรมอนที่ต้องการอะไรก็มีทุกอย่าง
เฉินห้าวยิ้มอย่างมีเลศนัย และทำท่าเหมือนเรื่องเล็กน้อย
ตอนนี้สายตาต่อต้านที่คุณแม่โจวมองเฉินห้าวแปรเปลี่ยนเป็นเมตตาและอ่อนโยน คนที่เลื่อมใสในพุทธศาสนามักจะเชื่อในวาสนา การที่เฉินห้าวมีคัมภีร์ส่วนนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นความประสงค์ของพระพุทธเจ้า
“ฉันขอคัมภีร์เล่มนี้ได้ไหม” น้อยมากที่คุณแม่โจวจะเอ่ยปากขอเช่นนี้
“ได้แน่นอน ผมมีคัมภีร์ไปก็ไร้ประโยชน์ คุณป้าเอาไปถึงจะเกิดคุณค่าที่แท้จริงของมัน” เฉินห้าวเอ่ยขึ้น
“งั้นฉันเก็บไว้นะ ขอบคุณนะ” คุณแม่โจวพูด
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมกับซีถงเป็นเพื่อนกัน เป็นเรื่องปกติที่จะให้หนังสือแก่ผู้อาวุโส”
“อมิตาพุทธ”
คุณแม่โจวพนมมือขึ้นมา เพื่อเป็นพิธีทางศาสนาพุทธ
อาหารมื้อนี้บวกกับคัมภีร์เพียงเล่มเดียว คุณแม่โจวเชื่อว่าเฉินห้าวเป็นคนที่มีวาสนา ตอนนี้เธอไม่ห้ามเรื่องที่เฉินห้าวจะคบกับลูกสาวของเธออีกแล้ว
ผ่านไปไม่นาน คุณแม่โจวก็อิ่ม และเซี่ยจิ้งก็มาพอดี เธอบอกว่าคุณปู่ตกลงที่จะพบ แต่ต้องรออีกสักพัก ตอนนี้เขากำลังทำความสะอาดครัวอยู่
“ไม่ต้องให้เชฟมาที่นี่หรอกค่ะ เดี๋ยวฉันไปขอบคุณเขาสำหรับโชคชะตาและอาหารที่ดี”
คุณแม่โจวยืนขึ้นยืนและให้เซี่ยจิ้งพาเธอไปที่หลังครัว หญิงชราตั้งใจให้เฉินห้าวกับโจวซีถงมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
เมื่อคุณแม่โจวไป โจวซีถงพูดอย่างมีความสุขว่า “นายเจ๋งมากเลย ไม่คิดว่าจะเชิญเชฟที่เก่งขนาดนี้มาได้ ทำให้แม่ฉันกินอิ่มอย่างมีความสุข แถมยังมีคัมภีร์เล่มนั้นด้วย น้อยมากที่แม่จะรับของคนอื่น”
“คุณป้าชอบก็ดีแล้ว เพื่อที่จะไม่พรากลูกสาวสุดรักของเธอไปจากผม” เฉินห้าวยิ้มแล้วพูดขึ้น
“นายอย่าตำหนิแม่ฉันเลย เพราะเหตุผลบางอย่างของครอบครัวฉัน แม่ไม่ค่อยชอบผู้ชายที่หล่อและรวย กลัวว่าฉันจะถูกกลั่นแกล้ง เหมือนที่พ่อฉันทำ นายเข้าใจใช่ไหม” โจวซีถงเอ่ยขึ้น
“เข้าใจ”
เฉินห้าวรู้ดี
เฉินห้าวรู้ว่าก่อนหน้านี้คุณแม่โจวต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอน และอาจจะเป็นเพราะพ่อของโจวซีถง ดังนั้นเธอจึงพาลโกรธเฉินห้าวที่ดีกว่า ดูเหมือนชีวิตของคนรวยจะไม่ค่อยมีความสุขนัก