เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 225 ศัตรูคู่อาฆาต
เฮียเฉียนจ้องมองหกสาวอย่างสนอกสนใจ ทันใดแววตาสาดทอตัณหาออกมา พูดอย่างต่ำช้า“พวกเธอหกคนมาอยู่กับฉันให้หมดแหละ ฉันซื้อเครื่องประดับให้!”
หญิงยั่วสวาทคนนั้นไม่ยอมเป็นแน่ เพื่อไม่อยากให้ใครมาเกินหน้าเกินตา เธอจึงยืนออดอ้อนอยู่ตรงนั้น ใช้กำปั้นน้อยๆทุบอกเฮียเฉียน พูดขึ้น“เฮียเฉียน แย่จริงๆเลย มีเค้าอยู่ทั้งคนยังจะคิดลักกินขโมยกิน เค้าไม่สนใจเฮียแล้ว และก็ไม่ให้เฮียลองท่าใหม่แล้วด้วย!”
การออดอ้อนแบบนี้ ผู้ชายที่ไหนจะทนได้ เฮียเฉียนลุ่มหลงหัวปักหัวปำ รีบลืมนางแบบหกสาวทันที หัวเราะแหะๆ โอบเธอเข้าไว้กับตัว พูดเอาใจ“จ้าๆ เฮียไม่ซื้อให้พวกหล่อนหรอกนะ ซื้อให้หนูคนเดียว!”
“แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย คืนนี้หนูจะตกรางวัลให้เฮียอย่างงามเลย”สาวยั่วสวาทออดอ้อนหยาดเยิ้ม “จ๊วบ”ทีหนึ่ง จูบเฮียเฉียนฟอดโต
หกสาวโกรธมาก จู่ๆก็ต้องมาโดนชายหญิงคู่นี้สลับกันดูถูก แต่พวกหล่อนก็ไม่มีปัญญาตอบโต้กลับจริงๆนี่นา พูดถึงเรื่องยั่วสวาทก็สู้ยัยนั่นไม่ได้ พูดถึงเรื่องเงินก็สู้เฮียเฉียนไม่ได้ จึงได้แต่ฝืนทนกล้ำกลืน
“ไม่สิ พวกเรามีเถ้าแก่!”
จู่ๆนางแบบที่ชื่อชิวย่าหนานก็นึกถึงเฉินห้าวผู้ที่จะมาช่วยดันหลังให้พวกหล่อนได้ จึงรีบวิ่งหา
เฉินห้าวกำลังยืนดูแว่นตายี่ห้อBOLONอยู่ที่ชั้นแว่นตา แว่นตาดำของที่นี่ออกแบบได้ไม่เลว มีหลายแบบที่ไปซ้ำกับของดารา เขาเลือกแว่นตาดำขอบเก๋อันหนึ่งสวมใส่ มือทั้งคู่เสียบเข้ากระเป๋ากางเกงส่องกระจก ดูเท่ห์ไม่เบา
“คุณผู้ชายสวมแว่นตารุ่นนี้แล้วดูดีมากเลยค่ะ!”พนักงานสาวสายตาเฉียบคม“ดิฉันขออนุญาตแลกวีแชทของคุณได้ไหมคะ”
หล่อนเตรียมจับเฉินห้าวเต็มที่
“เถ้าแก่คะ ช่วยตัดสินให้พวกเราหน่อย!”
ในเวลานี้เอง ชิวย่าหนานเดินกระฟัดกระเฟียดมาทางเฉินห้าว แต่ก็ต้อง“ตะลึง”กับความเท่ห์ของเฉินห้าว เจ้าหล่อนหัวใจเต้นตูมตาม คิดในใจ“เถ้าแก่เท่ห์มากจริงๆค่ะ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆเลย แล้วยังรวยขนาดนี้ เพอร์เฟคจริงๆ!”
เมื่อเฉินห้าวได้ยินชิวย่าหนานมาขอความช่วยเหลือ จึงรีบถามขึ้น“เกิดอะไรขึ้น”
“ตรงนั้นมีชายหญิงคู่นึงเหยียดหยามพวกเราค่ะ !”ชิวย่าหนานสรุปสถานการณ์ง่ายๆ
“อ้อ พาฉันไปดูหน่อยสิ!”
เฉินห้าวแปรสีหน้าเย็นชา จู่ๆมีคนกล้ามารังแกลูกน้องของเขา เขาจะต้องไปเห็นกับตาสักหน่อย ในเมืองไป๋เหอ ใครแน่ที่สุด
ใครจะไปรู้ พนักงานสาวรีบร้องเตือน“เถ้าแก่คะ ยังไม่ได้จ่ายเงินค่ะ!”
“ขอโทษครับ ลืมไป”
เฉินห้าวโยนเงินออกไปปึกหนึ่ง ราวๆห้าพันเหรียญ พูดโดยไม่หันไปมอง“เงินที่เกินฝากไว้ก่อน เดี๋ยวผมมาเอา”
เฉินห้าวสวมแว่นดำตามชิวย่าหนานมาถึงตู้โจวปาฝู พอเขาเห็นหน้าเฮียเฉียน ทั้งคู่ต่างก็ทำหน้าประหลาดใจ
“แกเองเหรอ!”
“ที่แท้เป็นแก มิน่าล่ะ”
ที่แท้ ทั้งคู่รู้จักกัน และก็มีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาด้วย
เฮียเฉียนคนนี้ก็คือเฉียนหรงข่ายคนที่ไประรานในงานประมูลคฤหาสน์จงหัว วันนั้นเขาแพ้การประมูลให้กับเฉินห้าวจึงระรานไม่เลิกรา คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเจอในห้างสรรพสินค้า
เฉียนหรงข่ายความแค้นทั้งเก่าและใหม่ปะทุขึ้น เรื่องที่คฤหาสน์จงหัว ทำให้เขาต้องล้มเลิกแผนการพัฒนา ความเสียหายมากมาย วันนี้ได้เจอเฉินห้าว ความคิดแก้แค้นจึงประดังขึ้น ถึงพ่นลมหายใจออกมา
เฉินห้าวมองดูเฉียนหรงข่ายกับสาวยั่วสวาท อดยิ้มเย้ยไม่ได้“ได้ยินว่าแกรังแกลูกน้องฉัน”
“ในมือแกมีแค่ลูกน้องตอแหลแบบนี้เหรอ คนแบบไหน ก็ได้เจ้านายแบบนั้นแหละ น่าสมเพช!”
คำพูดของเฉียนหรงข่ายค่อนข้างพาลหาเรื่อง ถ้างานประมูลในคฤหาสน์จงหัวของเฉินห้าวเรียกว่าน่าสมเพชแล้วล่ะก็ คนที่ประมูลไม่ได้อย่างเขา ยิ่งไม่น่าสมเพชหนักหรือ
เดาว่าคงเข้าขั้นน่าเวทนาแล้วล่ะ
“ว่าลูกน้องฉันตอแหล ตัดสินคนจากภายนอก คุณธรรมแกมีแค่นี้แหละ”
เฉินห้าวยิ้มเย็น จากนั้นโบกมือ บอกให้สาวๆอยากได้อะไรให้หยิบ และทุกคนห้ามหยิบมูลค่าต่ำกว่าสามหมื่น
“ห๋า ห้ามต่ำกว่าสามหมื่นเหรอ ฉันไม่ได้หูฟาดใช่ไหม”อู๋ตันตกตะลึง
เป็นดังนั้นจริงๆ ปกติเวลาเจ้านายซื้อของให้ลูกน้อง มักจะกลัวจ่ายเงินเกิน และมักจะห้ามซื้อเกินจำนวนงบ ไม่เคยได้ยินว่าห้ามซื้อต่ำกว่างบ แบบนี้ก็เท่ากับบังคับให้พวกเขาซื้อของแพงน่ะสิ
เมื่อเผชิญกับคำถามของอู๋ตัน เฉินห้าวจึงพูด“แน่นอน พวกเธอต้องซื้อ ไม่ได้ยินเหรอว่าเขาว่าน่าสมเพช ฉันจะปลดสถานะนี้ให้พวกเธอเอง พวกเธออย่าทำฉันขายหน้า”
ที่แท้พวกหล่อนต้องกู้หน้าเจ้านายคืนมา ตอนนี้สาวๆเข้าใจกันแล้ว ต่างคนก็ต่างหยิบพัลวัน ให้พนักงานขายหยิบเครื่องประดับชิ้นแพงๆที่อยากได้แต่ไม่มีปัญญาซื้อออกมาลองใส่ เครื่องประดับระยิบระยับไปทั่วตัวสาวๆทั้งหก เติมเต็มสง่าราศีให้พวกหล่อนจริงๆ
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งจริงๆ เครื่องประดับพวกนี้ทำให้คนเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้จริงๆด้วย และเพิ่มสง่าราศี
เฉียนหรงข่ายจ้องมองด้วยความโกรธ เขาโดนเฉินห้าวดูถูกเข้าให้ ทำให้ศรษฐีอย่างเขาเสียหน้า เฉียนหรงข่ายจึงโบกมือบ้าง สั่งสาวยั่วสวาท“หนูก็ไปเลือก ห้ามต่ำกว่าหนึ่งแสน!”
“ลอกเลียนแบบ!”
ตอนนี้ชิวย่าหนานยืนข้างเฉินห้าวเต็มที่ พูดแดกดัน
ตู้เครื่องประดับจึงกลายเป็นสนามช่วงชิงการประลองว่า ใครใช้เงินมากกว่ากัน