เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 260 ชนท้ายรถ
“โอ้ว!”
เหล่าผู้โดยสารรู้สึกไม่พอใจ ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปอันแสนประทับใจนั้นไว้เลย
แต่รถทั้งสองคันบนทางด่วน กำลังค่อยๆ ลดความเร็วลงจนถึงปกติที่ความเร็ว 120 หลา ในที่สุดการแข่งขันก็สิ้นสุดลง
ผู้ชนะคือเคอนิกเส็กก์สีดำของเฉินห้าว มูลค่ารถคันนี้ของเขาราวๆ แปดล้านกว่า แต่ราคารถเฟอร์รารีคันนั้นราคาประมาณห้าล้าน ต่างกันราวๆ สามล้าน สะท้อนถึงความแตกต่างของตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน
เมื่อรถทั้งสองขับตีคู่เคียงข้างกันอีกครั้ง เด็กหนุ่มเจ้าของเฟอร์รารีอารมณ์เสียมาก ลดกระจกลงตะโกนใส่เฉินห้าว แต่เนื่องจากสายลมแรงจึงฟังไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไร อ่านปากแล้วเหมือนว่าจะไม่ยอมรับ ต้องการแข่งอีกครั้ง
เฉินห้าวไม่อยากจะพูดกับเด็กหนุ่มท่าทางหงุดหงิดคนนี้ ท้าทายแข่งรถโดยไร้เหตุผล พอแพ้แล้วก็ไม่ยอมรับ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด คนเช่นนี้ไม่คู่ควรที่เขาจะแข่งด้วย
เฉินห้าวขับรถตามปกติ แต่เด็กหนุ่มผู้กระตือรือร้นนั้นยังคงโบกไม้โบกมือและพูดพล่ามไปเรื่อย เขาละเลยที่จะมองทางเบื้องหน้า แม้รู้ว่าความเร็วตอนนี้เพียง 120 หลา นั้นมันก็ถือว่าเร็วอยู่ดี ด้านหน้าเขาปรากฏรถบรรทุกใหญ่หนึ่งคัน เด็กหนุ่มยังไม่รู้ตัว
เฉินห้าวเห็นสถานการณ์นี้ แม้ว่าเขาจะดูหมิ่นการกระทำของเด็กหนุ่ม แต่ก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงรีบบีบแตร และชี้ไปด้านหน้า
“ฮึ่ม ในที่สุดก็ยอมแข่งอีกครั้ง คอยรอเถอะ ฉัน…”
เด็กหนุ่มเฟอร์รารีคิดว่าที่เฉินห้าวชี้นิ้วคือต้องการแข่งรถ เมื่อเขาหันกลับมาเพื่อเอาชนะ จึงพบว่าอีกเดี๋ยวเขาจะชนเข้ากับท้ายรถบรรทุกแล้ว
บอกได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่สำนึกถึงอันตรายเลย ขับรถแข่งบนทางด่วนก็ดี ขับรถยังไม่มองถนนอีก สามารถอยู่รอดปลอดภัยมาถึงทุกวันนี้นับว่าโชคดีมากแล้ว
เด็กหนุ่มตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ รีบหักพวงมาลัยและเหยียบเบรก จึงชนเข้ากับท้ายรถบรรทุกและกวาดรถไป โชคดีที่เลนฉุกเฉินไม่มีรถ รถเขาเสียการทรงตัวและหมุนควงหลายรอบ ทิ้งรอยล้อรถสีดำไว้ จากนั้นรถจึงค่อยๆ หยุดลง
เด็กหนุ่มลงมาตรวจดูรถ พบว่าไฟด้านข้างรถเฟอร์รารีที่ตนเองซื้อมาใหม่นั้นแตกละเอียด เขาเต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธ
“บัดซับ อย่าหนีนะ มากับฉัน!”
เด็กหนุ่มจ้องเขม็งไปที่เคอนิกเส็กก์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างโกรธจัด โยนความผิดทั้งหมดให้เฉินห้าว เขากลับเข้าไปในรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ และไล่ตามไปเฉินห้าวไป
ครั้งนี้เนื่องจากความโกรธจัด จึงไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และขับรถไล่ตามด้วยไฟเลี้ยวที่เสียหาย และยังเพิ่มความเร็วเกินกำหนดอีก ฝ่าฝืนกฎจราจรหลายข้อในเวลาเดียวกัน
“เด็กคนนั้นดูเหมือนจะตามมาอีกแล้ว”
โจวซีถงเห็นในกระจก เธอส่ายหน้าระอา เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนประเภทที่เธอเกลียดมากที่สุด ชอบสร้างปัญหาแต่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ พวกทายาทที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาแบบฉบับนิสัยเสีย ไม่เหมือนกับเฉินห้าวที่เป็นทายาทที่มีความรับผิดชอบ การเลี้ยงดูสามารถแสดงออกได้ต่างกันหลายคาบสมุทร
เฉินห้าวยิ้มเล็กน้อย“ไม่ต้องไปสนใจเขา เดี๋ยวก็มีคนมาจัดการเองแหละ”
โจวซีถงมองไปด้านหน้า พบว่ามีรถตำรวจสองคันกำลังขับเข้ามาใกล้ เสียงจากโทรโข่งตะโกนบอกให้พวกเขาลดความเร็วและหยุดรถ จากการสังเกต เห็นได้ชัดว่ามาจับพวกเขาที่ขับรถเร็วเกินกำหนด
แข่งรถบนทางด่วน ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อความปลอดภัย เป็นการจับคุมอย่างถูกต้อง แต่มันจะทำให้การเดินทางของพวกเขาล่าช้า
โจวซีถงหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาคนรู้จัก ถูกตำรวจจับจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จากเหตุการณ์ น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็สามารถกลับไปบนถนนได้แล้ว
“ไม่ต้องหรอก พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย”
เฉินห้าวยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาได้แลกบัตรล้างโทษจากในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านไว้แล้ว
บัตรล้างโทษสามารถลบล้างโทษได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่โทษทางอาญา มันเป็นการ์ดแบบใช้ได้ครั้งเดียวทิ้ง เฉินห้าวใช้มันมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้เขาไม่มีความผิดตอนทำลายเมืองบันเทิงจื้อจูนของเฮียสือ ใช้ได้ผลดีมาก
“บังคับใช้บัตรล้างโทษ คุณลูกค้าผู้มีเกียรติโปรดปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นพลเมืองที่ดี”
ดูเหมือนว่าลักษณะการแจ้งเตือนของบัตรล้างโทษนี้จะเปลี่ยนไป ยังคงมีอารมณ์ตลกร้าย เขาทำความผิด กลับบอกให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
แต่ครั้งนี้จะว่าเฉินห้าวไม่ได้ ทั้งหมดเด็กหนุ่มเฟอร์รารีต้องเป็นคนรับผิดชอบ
หลังจากที่บัตรล้างโทษมีผลบังคับใช้ ก็ลบล้างความผิดที่เขาทำมาตลอดทางไปด้วย คะแนนในใบขับขี่ก็ไม่ถูกหัก อีกทั้งค่าใช้จ่ายเพียง 15 คะแนน นี้ถือเป็นเพียงละอองฝนสำหรับเฉินห้าวที่มีแต้มคะแนนมากกว่า 100 คะแนน
ไม่นาน รถตำรวจจราจรก็ปล่อยเคอนิกเส็กก์ของเฉินห้าวไป และไปหยุดที่เฟอร์รารีของเด็กหนุ่ม
“สวัสดีครับ กรุณาแสดงใบทะเบียนรถและใบขับขี่ของคุณด้วย”
หลังจากลงรถ ตำรวจจราจรไปที่รถเฟอร์รารีแสดงเคารพอย่างมีมารยาท และขอดูข้อมูลของเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มรู้ดีว่าทำไมเขาถึงถูกสกัดจับ แต่เมื่อเห็นเฉินห้าวสามารถขับรถออกไปได้ ก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตนเอง ทำให้เขาพูดอย่างโกรธเคือง“รถเคอนิกเส็กก์คันนั้นเมื่อกี้พึ่งขับแข่งกับผมบนทางด่วน ทำไมไม่จับเขาด้วยล่ะ?”
ตำรวจงุนงงเล็กน้อย แล้วพูดต่อ“หลังจากการตรวจสอบพบว่ารถคันนั้นไม่มีความผิด คุณกรุณาแสดงเอกสารของคุณด้วย”
“บัดซับ พวกคุณคิดว่าฉันอ่อนใช่ไหม ถึงตั้งเป้ามาที่ฉัน ระวังตัวให้ดีฉันต่อสายแค่กริ๊งเดียวพวกคุณโดนไล่ออกหมดแน่!”
เด็กหนุ่มยังคงทำตัวต่อต้าน ข่มขู่คุกคามโดยเจตนา
ตำรวจจราจรมักต้องเผชิญกับทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองประเภทนี้บ่อยๆ พวกเขาไม่เดือดร้อน กลับตักเตือนเด็กหนุ่มอีกครั้งว่า หากไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน คงต้องใช้มาตรการบังคับ
เด็กหนุ่มลงรถพร้อมกับด่าพึมพำไปด้วย และยังผลักตำรวจ สุดท้ายตำรวจทนไม่ไหว จึงเข้าจับคุมเด็กหนุ่ม และยัดเข้าไปในรถ
“ฉันไม่ยอม!”
เด็กหนุ่มเฟอร์รารีแค้นเคืองใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย ทั้งคนและรถถูกควบคุมไว้ ทำได้เพียงโทรศัพท์หาพ่อเพื่อให้มาช่วย