เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 279 ฉากราชันเจอกับคนกระจอกโดยบังเอิญ
- Home
- เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว
- บทที่ 279 ฉากราชันเจอกับคนกระจอกโดยบังเอิญ
ถงจื่อเซวียนเห็นเข้าก็กลืมน้ำลายดังเอื๊อก กล้ามเนื้อของเฉินห้าวทำเขาตกใจแล้ว ตีให้ตายเขาก็ไม่มีทางประลองกำลังกับสัตว์ประหลาดอย่างเฉินห้าวแน่
ถงจื่อเซวียนซึ่งเป็นลูกคุณหนู สิ่งที่ถนัดที่สุดก็คือเงินนี่แหละ เลยเสนอว่า “พวกเรามาสู้กันว่า ใครเงินเยอะกว่ากัน”
เฉินห้าวกลับส่ายหน้าอย่างรังเกียจ “แข่งรวยนี่น่าเบื่อที่สุดแล้ว เอาอย่างอื่น”
“แกกลัวแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ยอมแพ้มาเลย ต่อไปเจอฉันก็ให้เรียกพี่ถง” ถงจื่อเซวียนกร่างขึ้นมาทันที
เขาเข้าใจผิดแล้ว เมื่อกี้เฉินห้าวเห็นว่าตลกเลยให้เงินเขาสามหมื่นเอาดื้อๆเลย คนที่ไม่แคร์กับเงินสามหมื่นจะกลัวแข่งรวยกับเขาหรือไง?
มีแต่คนรวยที่แท้จริงเท่านั้นที่เห็นเงินเป็นเพียงตัวเลข ก็เหมือนกับประโยคทองของแจ็คหม่าน่ะแหละ “ผมไม่สนใจเงิน” คนที่เห็นเงินเป็นสมบัติแล้วอวดรวย แสดงว่าเงินยังไม่มากพอ ไม่รวยพอ
มีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า “เวลาคนเราขาดอะไร มักจะอวดสิ่งนั้น” เป็นเหตุผลแบบนี้แหละ
ถงจื่อเซวียนเริ่มกร่างละ เขาหยิบแบงก์ร้อยออกมาปึกหนึ่งยัดเข้าไปในเสื้อผ้าผู้หญิงคนข้างๆ ซึ่งก็โดนโอบอุ้มด้วยหน้าอกหน้าใจใหญ่โตของเจ้าหล่อนไว้ น่าจะมีประมาณพันกว่า
“ขอบคุณคุณชายถง ขอบคุณคุณชายถงค่ะ!” สาวน้อยขอบคุณติดๆกันอย่างดีใจ
การอวดรวยของหนุ่มน้อยถงจื่อเซวียน เกือบทำเฉินห้าวหลุดขำแล้ว คิดถึงตอนนั้นที่เขาแข่งรวยกับมู่ต้าเหวย โดยการบริจาคเงินหลายพันล้านไปกับการกุศล นั่นสิถึงจะแน่จริง หมอนี่กลับยัดทิปให้ผู้หญิงแค่พันกว่า อ่อนด้อยจริงๆ
นี่ก็เหมือนกำลังเล่นเกมส์ เฉินห้าวยืนนิ่งเป็นราชันคุมสถานการณ์ จู่ ๆก็มีคนกระจอกเข้ามาท้าทายเขาเลย
“ถ้านายจะพูดแบบนี้ งั้นฉันจะเล่นกับนายสักตั้งละกัน เอาไงดีถงถง?” เฉินห้าวหันไปถามความเห็นโจวซีถง
“เอิ่ม หาเรื่องสนุกหน่อยก็ดี” โจวซีถงพยักหน้ายิ้มๆ ขอเพียงถงจื่อเซวียนอยู่ที่นี่ ดูจะไม่ขาดเรื่องสนุกแน่
“โอเค งั้นแข่งกัน นายเลือกวิธีการเลย” เฉินห้าวในฐานะผู้แข็งแกร่ง ย่อมต้องยอมลงให้ผู้อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว
“งั้นก็ใช้เหล้าดังมาแข่ง พวกเราเปิดเหล้าดังกันคนละขวด ใครเสียดายเงินก่อนก็แพ้ คนแพ้ต้องเป็นฝ่ายจ่ายเงินให้คนชนะ!” ถงจื่อเซวียนบอก
“ไม่มีปัญหา” เฉินห้าวพยักหน้า
ถงจื่อเซวียนดีใจมาก ในใจคิดว่า ในที่สุดก็มีโอกาสเอาชนะได้แล้ว เขารีบเรียกผู้จัดการKTVมา
“คุณชายถง มีอะไรจะสั่งการหรือครับ?”
ผู้จัดการคนนี้ต้องรู้จักลูกคนรวยอันดับหนึ่งในอำเภอนี้อยู่แล้ว รีบเข้ามาถามอย่างเคารพ
“ฉันจะแข่งกับเขาหน่อย เอาเหล้าดังของที่นี่ยกมาให้หมดเลย”
ถงจื่อเซวียนขอมาแบบนี้ ผู้จัดการดีใจมาก เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่ถงจื่อเซวียนแข่งรวยกับใครมักจะชนะเสมอ และร้านของเขาก็เป็นคนได้ผลประโยชน์มากที่สุด เหล้าขายออกไปได้ไม่น้อย ล้วนแต่เป็นเหล้าราคาแพงทั้งสิ้น วันนี้ก็จะได้ยอดใหญ่แล้ว
ดังนั้นผู้จัดการเลยเรียกพนักงานมาสิบกว่าคน ยกเหล้าดังในโกดังออกมาจนหมด ทั้งLafite Remy Martin XOอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นเหล้าดังระดับต้นของเมืองนี่ไง
แน่นอนว่า เหล้าบางส่วนของที่นี่เป็นเหล้าปลอมชั้นเยี่ยม แต่เวลานี้ไม่มีใครสนใจว่าจริงหรือปลอม พวกคนรวยก็สนใจแค่หน้าตาเท่านั้น
ตอนนี้เบื้องหน้าเฉินห้าวกับถงจื่อเซวียน มีลังเหล้าดังยี่สิบกว่าลังต่อหน้าแต่ละคน ทุกขวดราคาไม่ต่ำกว่าพันหยวนเลย บ้างก็ขวดละสี่ห้าพัน หนึ่งลังก็เป็นหมื่นหยวน คิดๆดูแล้วแค่หลายแสนเอง
เฉินห้าวรู้สึกว่ามันราคาถูกเกินไป เลยพูดขึ้นว่า “เอาแบบขวดละหนึ่งหมื่นละกัน คิดเลขง่ายหน่อย”
ถงจื่อเซวียนเบิกตากว้าง ถ้าคิดราคาที่ขวดละหนึ่งหมื่น งั้นเหล้าพวกนี้ก็เป็นล้านแล้ว เกินงบที่เขาวางไว้มากนัก ในบัตรเขามีแค่หลายแสนเอง
“ได้ เปิดมา!”
ถงจื่อเซวียนกัดฟัน ให้พนักงานเริ่มเปิดขวดเหล้า
เหล้าแต่ละขวดโดนเปิดจุก วางไว้ด้านข้างเรียงกัน จะได้สะดวกในการนับจำนวน
ต่างฝ่ายมีพนักงานสี่คนคอยช่วยเปิดขวด พริบตาเดียวก็เปิดไปสิบกว่าขวดแล้ว ตามราคาขวดละหมื่น นี่ก็หลายแสนแล้ว
ในอำเภอเล็กๆนี่ น้อยนักที่จะใช้จ่ายเป็นหลักแสน ถงจื่อเซวียนเริ่มลุกลนแล้ว เลยแอบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือพ่อเขาที่อยู่ต่างเมือง
“พึ่งซื้อรถให้แกไปไม่ใช่หรือไง จะเอาเงินมากมายขนาดนี้ไปทำอะไร?” พ่อถงจื่อเซวียนถาม
“ผมก็คิดจะหาลูกสะใภ้ให้พ่อไง พึ่งซื้อรถ จะหาคู่ก็ต้องแต่งตัวดีๆหน่อย สูทชุดหนึ่งก็หลายหมื่นแล้วพ่อ!” ถงจื่อเซวียนแกล้งหาเหตุผล
“ได้ งั้นจะโอนให้แกอีกสามแสน นี่เป็นเงินค่าใช้จ่ายแกทั้งเดือน จะมาใช้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้นะ!” พ่อรับปากแล้ว
สักพัก บัญชีธนาคารถงจื่อเซวียนก็มีเงินสามแสนโอนเข้ามา เขามั่นใจมากว่าคราวนี้คงไม่แพ้แน่
เหล้าเปิดไปห้าสิบขวดแล้ว เท่ากับว่าห้าแสนแล้ว ถงจื่อเซวียนกำลังรอเฉินห้าวยอมแพ้ ในใจเขาคิด ก็แค่คนต่างถิ่นคนเดียว ใช้จ่ายตั้งห้าแสนน่าจะปวดใจแล้วล่ะมั้ง?
ถ้าเขารู้ว่าปกติเฉินห้าวคุยแต่โครงการระดับสิบล้านร้อยล้านขึ้นไป คงตบหน้าตัวเองอย่างแค้นใจแน่ ลูกคุณหนูอย่างเขาเทียบกับคนฉลาดที่พึ่งพาแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านอย่างเฉินห้าว มันไม่ใช่ระดับเดียวกันเลย
ตึกที่เฉินห้าวซื้อมา ใกล้จะเป็นสมบัติทั้งหมดของบ้านถงเขาแล้ว
เฉินห้าวนั่งอยู่บนโซฟาตลอด คุยกระซิกหวานชื่นกับโจวซีถง วันนี้มันน่าสนุกจริงๆ ปกติโจวซีถงเห็นมานักต่อนักแล้วเรื่องกลอุบายของธุรกิจชั้นสูง บางครั้งมาดูลูกคุณหนูนี่ทำเก่งก็น่าสนุกดี ตลกดี