เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 320 เป็นโจรได้ยังไง
แต่ยังไงก็ตาม เฉินห้าวกลับประเมินโจรคนนี้ต่ำเกินไป ในตอนที่หลับตา โจรกลับผลิกตัวรวดเร็วปานลม มันถอยไปด้านหลัง หลบหลีกหมัดของเฉินห้าว
“อืม?”
เฉินห้าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาไม่เชื่อว่าเขาจะทำอะไรกับโจรที่ตาบอดชั่วคราวนี่ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไล่ตามมันไป
ผลปรากฎว่า โจรคนนี้เคลื่อนไหวไปมาราวลม แวบวาบอยู่ในห้องทำงาน มีกลิ่นอายเหมือนกับในนิยายวิทยายุทธ บนเตียง เก้าอี้ หรือแม้แต่บนขวดเหล้าพวกนั้น ราวกับแมลงปอที่เหยียบผิวน้ำ เขายืมแรงถีบตัวออก ความเร็วของเขาเร็วกว่าเฉินห้าวที่มีการมองเห็นเป็นปกติซะอีก เฉินห้าวโจมตีเขาไม่โดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่โดนแม้แต่ปลายมุมเสื้อของเขา
นี่มันเหมือนกับนักรบเกราะเนื้อพลังเลือดสูงกำลังไล่ล่านักฆ่าที่ว่องไว เป็นเพราะความต่างของความเร็วนั้นมากเกินไป จะไล่ล่าก็ไล่ไม่ทัน แล้วก็ไม่มีทางสร้างความเสียหายใดๆให้เขาได้ด้วย
“คุณเป็นใครกันแน่? มีวิทยายุทธขนาดนี้ ทำไมคุณถึงมาขโมยเหล้าของผม” เฉินห้าวถาม
แต่ยังไงก็ตาม ชายชุดดำไม่หยุดเท้า ไม่ตอบคำถามใดๆ เขาทำแค่ฟังเสียงแล้ววิเคราะห์เพื่อหลบหลีกการโจมตี ผ่านไปหนึ่งนาที เฉินห้าวแตะไม่โดนเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวในห้องนอน
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น ชายชุดดำลืมตาและปรับดวงตาให้เข้ากับแสง เฉินห้าวเห็นเพียงดวงตาสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกของเขาเท่านั้น ช่างเป็นดวงตาที่ชาญฉลาด
ในตอนนั้นเองชายชุดดำฟื้นพลังการต่อสู้ของเขา แล้วแส้เส้นยาวก็ออกมาจากมือของเขา ก่อนจะฟาดไปยังเฉินห้าว
ความรู้สึกตัวของเฉินห้าวดีเยี่ยม เขาคว้าผ้าม่านที่อยู่ด้านข้างเอาไว้ แล้วสร้างมันให้เป็นแส้เส้นยาวพิเศษเส้นหนึ่งเพื่อมัดติดกับแส้ของอีกฝ่าย
ดังที่กล่าวไว้ว่ายาวขึ้นหนึ่งนิ้วก็แข็งแกร่งขึ้นอีกหนึ่งขั้น ความยาวของแส้ยาว ทำให้มันกลายเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยม แต่ เพราะแส้ยาวนี้เป็นอาวุธที่อ่อนตัว จึงมีจุดอ่อนถึงตายได้ ก็กลัวความอ่อนตัวได้เหมือนกัน หากเป็นอาวุธแข็งแบบดั้งเดิม ก็สามารถใช้การพัน การล้อม หรือการม้วนมาต่อกรได้ แต่ผ้าม่านที่เป็น “อาวุธอ่อน” เหมือนกัน จุดรับแรงจึงไม่สม่ำเสมอ ทำให้พลังของทั้งคู่ลดลงในทันที สุดท้ายจึงสูญเสียความเฉื่อยไป และกลายเป็นของอ่อนนุ่มธรรมดาไป
การต่อสู้กันคราวนี้ ทำให้แส้ยาวไม่มีผลอะไรก็ถูกตีกลับไป
เฉินห้าวค้นพบจุดอ่อนของคู่ต่อสู้และรู้สึกประหลาดใจมาก เขาใช้ผ้าม่านและขวดเหล้าที่อยู่ด้านข้างเป็นอาวุธในการขัดขวางและเขวี้ยงปา เพื่อบีบช่องว่างการเคลื่อนไหวของชายชุดดำ และบีบเขาให้เข้าไปยังมุมห้องมุมหนึ่ง
ในเวลานี้ ชายชุดดำจู่ๆก็กระโดดขึ้นสูง แล้วไปเหยียบอยู่บนตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเหยียบกำแพงสองครั้ง จากนั้นจึงใช้แรงเหยียบเพดานอย่างแรง ข้ามผ่านหัวของเฉินห้าวไป
นี่คือการบินข้ามกำแพงที่แท้จริง ซึ่งนี่ก็เกินความคาดหมายของเฉินห้าวอีกครั้ง โจรชุดดำคนนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่านักกายกรรม แล้วยังลื่นไถลจับยากกว่าปลาไหลเสียอีก
ชายชุดดำตรงไปที่ประตูแล้วออกไป เขาวางแผนที่จะหลบหนีเอาไว้อยู่แล้ว เพราะถึงแม้เขาจะมีความได้เปรียบด้านความเร็ว แต่เขารู้ว่าถ้าเขาเผชิญหน้ากันโดยตรง เขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินห้าว
วิชาตัวเบาที่น่าสงสัยของชายชุดดำนั่น ก็กระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเฉินห้าว เขาใช้ก้าวเดินแห่งมังกรพยัคฆ์ในการกระโจนถอยหลังในทันที ทำลายขีดจำกัดความเร็วที่เคยมีมาของเขา และคว้าชายเสื้อด้านหลังของชายชุดดำเอาไว้จากด้านหลัง
เฉินห้าวกระชากอย่างรุนแรง เสียงดัง “กึก” ดังขึ้น ก่อนที่เสื้อสีดำจะฉีกออก เฉินห้าวทำให้ร่างของชายในชุดดำหยุดนิ่งเป็นการชั่วคราวได้สำเร็จ เขาใช้มืออีกข้างล้อมไปข้างหน้าได้สำเร็จ โดยหวังว่าจะใช้แขนโอบด้านหน้าเพื่อกักตัวอีกฝ่ายไว้ ขอแค่รูปแบบการต่อสู้นี่สำเร็จ งั้นเขาต้องชนะแน่
ปรากฏว่ามือของเฉินห้าวได้สัมผัสไปด้วยกับส่วนที่นุ่มนิ่ม ทำให้เขาหยุดนิ่งลงในทันที มันไม่เหมือนกับการสัมผัสร่างกายที่แข็งแกร่งของผู้ชายเลย ทันใดนั้นเอง เฉินห้าวก็เกิดคำถามขึ้นในใจ “ชายชุดดำคนนี้ออกกำลังกายน้อยเกินไปแล้วมั้ง? ตรงหัวใจเป็นน้อยอ้วนๆไปหมดเลย”
“ไอ้คนชั่ว!”
จู่ๆชายชุดดำก็สบถออกมา แล้วเอาแส้ฟาดใส่เฉินห้าว เสียงสบถนี่นุ่มนวลมาก เฉินห้าวตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าคนที่เขาจับไว้ได้จะเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง
เฉินห้าวก้มหัวหลบแส้โดยไม่รู้ตัว แต่ตัวเขาเองก็ยังสับสนเล็กน้อย โจรขโมยเหล้านี่ดันกลายเป็นโจรผู้หญิงซะได้ แล้วเมื่อกี้ตัวเขาก็กลายเป็นไอ้คนโรคจิต ถึงอีกฝ่ายจะเป็นโจร แต่ไปลวนลามแบบนั้นก็ผิดกฎหมายนะ
ใครจะนึกว่าโจรสาวคนนี้จะไม่รักการต่อสู้ เธอหันหลังกลับและเปิดประตูด้วยเท้าของเธอ จากนั้นก็ถอยกลับไปที่ห้องนั่งเล่นในทันที หลังจากขึ้นลงห้องอยู่หลายครั้ง ก่อนจะกระโดดลงจากหน้าต่างไป
เมื่อเฉินห้าวไล่ไปที่หน้าต่าง เงาของโจรหญิงยังคงมองเห็นได้ที่นั่น และคนที่มีชีวิตอยู่ตัวใหญ่ก็หายตัวไป
“หึ สาวงามเป็นโจรได้ยังไง!”
เฉินห้าวยืนอยู่ข้างหน้าต่างครู่หนึ่ง ก่อนจะทำการล็อคหน้าต่าง
โจรสาวคนนี้มีวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม และยังเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับในหนังวิทยายุทธ คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีนักยุทธที่เก่งกาจแบบนี้อยู่ในยุคสมัยนี้ด้วย ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน แต่กลับทำอย่างนี้
หลังจากที่จับโจรล้มเหลว เฉินห้าวก็กลับไปที่ห้องนอน และมองดูความรกเละเทะในห้อง ขวดเหล้าก็แตกไปหลายขวด ห้องนอนนี่คงใช้นอนไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องหาคนมาเก็บกวาดสักหน่อย แล้วก็ย้ายขาดเหล้าออกไป แบบนี้ในห้องก็ไม่มีของให้ขโมย ไม่ต้องกลัวถูกโจรขึ้นอีก
ทันใดนั้น เฉินห้าวก็พบผ้าสีดำชิ้นหนึ่งที่อยู่ในห้อง มันเป็นมุมหนึ่งของเสื้อผ้าสีดำที่ฉีกมาจากผู้หญิงคนนั้น เฉินห้าวหยิบมันขึ้นมา และพบว่ามันเป็นเพียงแค่ผ้าสีดำยางยืดที่ไม่มีเครื่องหมายอะไร แถมยังไม่สามารถสืบหาตัวตนของอีกฝ่ายผ่านวิธีนี้ได้ด้วย
แต่ว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆบนผ้าสีดำ อีกทั้งบนฝ่ามือของเฉินห้าวเองก็มีกลิ่นหอมติดไปด้วย เมื่อนึกถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ เฉินห้าวรู้สึกว่าอีกฝ่ายก็รูปร่างดีทีเดียว อย่างน้อยก็มีระดับ B กำลังพอดีพอเหมาะ
“ช่างเถอะ คุณขโมยกล่องเหล้าของผม ส่วนผมก็เอาเปรียบคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็นับว่าเจ๊ากันล่ะนะ!”
เฉินห้าวตัดสินใจว่าจะไม่กังวลเรื่องยัยหัวขโมยสาวคนนี้อีกต่อไป เขายังมีเรื่องสำคัญกว่านี้ที่จะต้องพิจารณา นั่นก็คือ พิธีการลงทุนที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์