เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 338 เจอเข้ากับดารา
ที่แท้ หวังเฉียงก็คุยกับเฉินห้าวเรื่องพิธีเปิดบริษัท
ปกติเมื่อก่อตั้งบริษัท เพื่อให้มีการเริ่มต้นที่ดี จึงจะมีการจัดพิธีเปิดบริษัท บริษัทการค้าห้าวหรานของเฉินห้าวเองก็เป็นเช่นนี้ และเนื่องด้วยการแสดงที่อลังการในตอนนั้นจึงได้ตกเป็นข่าวในเมืองด้วย
พิธีเปิดบริษัทก็มีเล็กใหญ่ หวังเฉียงพูดว่า “ถ้าหากว่านายไม่มีความต้องการอะไรเป็นพิเศษ ฉันก็จัดง่ายๆแค่กระเช้าไม่กี่ตะกร้าก็พอ”
หวังเฉียงไม่คิดจะจัดพิธีตัดริบบิ้นให้ฟุ่มเฟือย หนึ่ง เพราะบริษัทเล็กเกินไป แขกรับเชิญมาถึงแล้วเห็นว่าโรงงานว่างเปล่าก็ไม่ดี สอง เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย ตอนนี้บริษัทมีเงินในบัญชีไม่มาก หวังเฉียงไม่อยากให้เฉินห้าวลงทุนเข้ามาอีก
“ได้ นายเป็นคนรับผิดชอบบริษัทให้เช่า นายตัดสินใจ” เฉินห้าวให้อำนาจ
“การพัฒนาโรงแรมในอำเภอลี่ทง นายก็ต้องรับช่วง รอฉันจัดการเรื่องการออกแบบในช่วงแรกให้เสร็จแล้วด้านหลังนายก็ค่อยมาตามงาน ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะมาคอยอยู่ในจุดนั้น” เฉินห้าวพูด
“ไม่มีปัญหา” หวังเฉียงตอบรับอย่างง่ายดาย
ตอนเที่ยงเฉินห้าวอยู่ที่บริษัทให้เช่า เพิ่มความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และยังคุยเรื่องเส้นทางการพัฒนากับหวังเฉียง หวังว่าเขาจะรีบกลายมาเป็นผู้ช่วยที่เก่งของเขาอย่างไว
เฉินห้าวดูเวลานั้นบ่ายสองกว่าแล้ว จึงได้ออกจากบริษัท ไปหาโจวซีถง ทั้งสองตัดสินใจขับรถไปร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลที่ในเมือง ระยะทางใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า จำเป็นต้องออกไปล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นเวลาจะเร่งรีบเกินไป
หลังจากที่โจวซีถงได้รับสายของเฉินห้าว ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงมาจากตึก
วันนี้เธอใส่ชุดสูทผู้หญิง ในเมื่อรู้ล่วงหน้าแล้วว่างานเลี้ยงค็อกเทลในครั้งนี้คงจะไม่ธรรมดาเท่าไหร่ เธอจึงขี้เกียจที่จะใส่ชุดราตรี เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก
ด้านนอกอากาศหนาวนิดหน่อย ตอนที่โจวซีถงเข้ามานั่ง ยังมีไอเย็นเข้ามาด้วย
เฉินห้าวเพิ่มองศาของแอร์ให้สูงขึ้น แล้วถามว่า “ไม่ลืมอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่มี ไปเถอะ” โจวซีถงพูด
เฉินห้าวจึงได้สตาร์ตรถHummer เข้าสู่ทางด่วนที่มุ่งตรงสู่เมืองอวิ๋นหยาง
“เคี้ยวหมากฝรั่งมั้ย?”
ในรถเริ่มร้อน โจวซีถงถอดเสื้อโค้ตออก แสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่ดี เสื้อขนแกะสีขาวถูกรัดแน่นเป็นรอยโค้งมน เธอยื่นหมากฝรั่งให้เฉินห้าวแท่งหนึ่ง
“ขอบใจ”
เฉินห้าวขับรถอยู่ไม่ค่อยสะดวก โจวซีถงจึงแกะกระดาษห่อแล้วยื่นเข้าในปากของเขา
“ขอบใจถงถง”
ทั้งสองยิ้มให้กัน ไม่มีความตื่นเต้นที่จะไปเข้าร่วมงานที่มีความอันตรายเลย
เฉินห้าวเป็นคนที่แข็งแกร่ง ไม่กลัวพวกอ่อนหัดพวกนั้นอยู่แล้ว ส่วนโจวซีถงนั้นเพราะว่ามีเฉินห้าวอยู่ข้างกาย จึงไม่กลัวอะไรเลย
ยังไงซะก็เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย อีกฝ่ายไม่มีทางทำอะไรที่อุกอาจเกินไป เพียงแค่ต้องรับมือตามสถานการณ์ ไม่ประมาทศัตรู แต่ก็ไม่ต้องกังวลเกินเหตุ
ระหว่างทางผ่านพื้นที่ให้บริการ เฉินห้าวเห็นว่าน้ำมันรถมีเพียงแค่นิดหน่อยแล้ว จึงได้มายังปั๊มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน
“เต็มถัง”
เฉินห้าวพูดกับชายหนุ่มที่เข้างานอยู่
ดับเครื่องรถ โจวซีถงลดกระจกรถทางด้านที่นั่งข้างคนขับ เธอเสนอตัวจ่ายค่าน้ำมันเอง
“ทั้งหมด 378 หยวนครับ”
ชายหนุ่มแจ้งราคา มองดูด้านในรถอย่างไม่ทันระวัง เห็นโจวซีถงที่ใส่ชุดขาว เสื้อขาวตัวนั้นทำให้ดูอ่อนวัยจริงๆ ที่ติ่งหูใส่ต่างหูเพชรไว้ แพรวพราวทำให้ดูสวยแพงมากขึ้น
ไม่เพียงแต่โจวซีถงที่สวย เฉินห้าวที่ขับรถก็ทั้งหล่อทั้งเท่ ทำเอาหนุ่มเติมน้ำมันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเทียบไม่ได้กับคนอื่น
แล้วก็ดูโทรศัพท์ที่โจวซีถงใช้สแกน คือโทรศัพท์พับได้รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ย เหมือนว่าในงานเปิดตัวจะบอกว่าราคา 2 หมื่นกว่า เทียบกับเงินเดือนสี่เดือนของชายหนุ่มแล้ว บวกนี่เป็นรถHummer ราคาหลายล้าน ชายหญิงบนรถคู่นี้ไม่เพียงแต่หน้าตาดี ฐานะก็ยังอยู่ในระดับเศรษฐีด้วย
ชายหนุ่มอึ้งไปในทันที นี่มันทำให้คนอิจฉาริษยามากๆ
“นี่ เหมือนว่านายจะไม่ได้ปิดฝาถังน้ำมันนะ” เฉินห้าวเรียก ถึงได้ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ที่นิ่งค้างได้สติกลับมา
“ขอโทษอย่างยิ่งครับ!”
ชายหนุ่มจัดการความรู้สึกตัวเองและทำงานให้เรียบร้อย เติมน้ำมันเสร็จสิ้น
เฉินห้าวปิดหน้าต่างรถ จากนั้นก็สตาร์ตรถ ขับออกไป
หนุ่มเติมน้ำมันมองดูด้านหลังของรถHummer แล้วก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโพสต์ว่า “พูดแล้วคงจะไม่เชื่อ เมื่อกี้ฉันเจอคู่รักอมตะ คิดว่าน่าจะเป็นดาราสักคนในประเทศละ”
ชายหนุ่มอธิบายหน้าตาของทั้งสองคน แล้วก็มีเพื่อนมาแสดงความคิดเห็นว่า “นายเจอกับคุณหวงกับแองเจลล่าเบบี้งั้นหรอ?”
“ไม่ใช่ อายุน้อยกว่าพวกเขาเยอะเลย และหน้าตาก็ดีกว่าด้วย!”
“พูดมั่ว ในประเทศไทยไม่มีดาราแบบนี้”
“หรืออาจจะเป็นดาราฮ่องกงไต้หวัน?”
หัวข้อสนทนาในโพสต์ของหนุ่มเติมน้ำมันยิ่งอยู่ยิ่งเตลิด และเฉินห้าวก็ขับรถมาถึงพื้นที่ในส่วนของเมืองอวิ๋นหยางแล้ว
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของโจวซีถงดังขึ้น เธอเอามาดู หันไปมองเฉินห้าว พูดเสียงเบาว่า “ก่วนอวิ๋นชาง” จากนั้นก็รับสายและเปิดลำโพง
“สวัสดีค่ะประธานก่วน….ใช่ค่ะ ไม่เจอกันนานเลย ครั้งก่อนก็เป็นงานประจำปีที่กระทรวงพาณิชย์จัดงานค่ะ…..”
ทักทายนิดหน่อย แล้วก่วนอวิ๋นชางก็พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “ประธานโจวนั้นเป็นดอกไม้ของวงการธุรกิจของเรา ผมบอกกับคนอื่นๆแล้วว่างานเลี้ยงค็อกเทลวันนี้ ไม่เชิญใครก็ได้ แต่ห้ามตกหล่นประธานโจว ไม่อย่างนั้นงานเลี้ยงค็อกเทลคงจะมืดมนน่าดู”
ฟังเสียงของก่วนอวิ๋นชางแล้วเหมือนว่าจะเป็นชายที่มีความเมตตา เสียงหัวเราะก็ชัดเจน แต่ก็มักทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
ก่วนอวิ๋นชางพูดอีกว่า “เธอมารึยัง ให้ฉันจัดคนไปรับเธอมั้ย”
“ฉันเข้าสู่พื้นที่ของเมืองอวิ๋นหยางแล้วค่ะ คาดว่าน่าจะอีกสี่ห้านาทีก็ถึงโรงแรมค่ะ”
“โอเค งั้นฉันก็รอต้อนรับเธอที่โรงแรมแล้วกัน!” อีกฝ่ายวางสาย
สายที่กะทันหันแบบนี้ คาดว่าน่าจะมีความหมายพิเศษบางอย่าง เฉินห้าวถาม “เธอสนิทกับเขามาก?”
“ไม่สนิท เพียงแค่เคยเจอสองสามครั้งเท่านั้น รวมทั้งเคยคุยไม่กี่ประโยค นี่คือครั้งแรกที่ฉันคุยโทรศัพท์กับเขาตั้งแต่ที่เคยให้เบอร์ไป” โจวซีถงพูด
“โทรคุยครั้งแรก ก็ทำอย่างกับเป็นเพื่อนมาหลายปี คนๆนี้ก็หน้าซื่อใจคดจริงๆ” เฉินห้าวพูด
“อาจจะแค่ดูว่าฉันมารึยัง พวกเขาคงจะต้องการให้ฉันมางานให้ได้” โจวซีถงพูด
“ไม่คิดแล้ว ไปถึงก็รู้เองว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร”
เฉินห้าวเหยียบคันเร่ง รถยนต์ตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็ว ไม่นานก็ออกจากทางด่วน เข้าสู่ในตัวเมือง