เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 341 ดูเส้นลายมือ
“ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง?”ก่วนถงถามเฉินห้าวด้วยรอยยิ้มจอมปลอม
“ไม่พอใจ”เฉินห้าวพูดอย่างสงบ “หมัดของหัวหน้าท่านนี้หนักมาก ถึงตอนนี้มือของฉันยังปวดอยู่”
หัวหน้าลำบากใจจนพูดไม่ออก บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก
ก่วนถงก็เป็นคนโหดเหี้ยมเช่นกัน เพื่อให้ตัวเองไม่ติดพันไปด้วย ตัดสินใจอย่างยากลำบาก พูดกับคนรอบข้างว่า“ช่วยหัวหน้าหน่อย ทำให้คุณเฉินใจเย็นลงก่อน!”
ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจความหมายของผู้นำ สี่คนลุยขึ้นมา สองคนกดทับหัวหน้าไว้ ต่อจากนั้นอีกสองคนก็ยกเท้าขึ้น ใช้รองเท้าหนังแข็ง เตะไปที่บนตัวของหัวหน้าทีมฉีอย่างรุนแรง
“อ๊ากกกก!”
หัวหน้าทีมฉีถูกเตะจนร้องโอดโอยออกมา ผู้ที่ลงโทษทรมานลงมือได้หนักมาก ก่อนหน้าที่ไม่ได้รับคำสั่งจากบังคับบัญชา พวกเขาไม่มีทางหยุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หัวหน้าทีมฉีก็ทรุดตัวลงกับพื้น โดนตีจนหน้าบวมฟกช้ำ
ครั้งนี้ก่วนถงยิ้มสู้อีกครั้ง“คุณเฉิน ตอนนี้หมัดของเขาไม่แข็งแล้ว คุณว่าแบบนี้พอใจมั้ย?”
“เฉินห้าว…..”โจวซีถงเรียกชื่อของเขาเบาๆ สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นผู้หญิง ดูฉากนองเลือดแบบนี้ไม่ได้ ค่อนข้างใจอ่อน
เฉินห้าวพยักหน้าเล็กน้อย เขาต้องดูแลโจวซีถง ก็พูดว่า“เอาล่ะ คำขอโทษนี้ยังถือได้ว่าจริงใจ ผมจะรับไว้”
ก่วนถงเหมือนยกภูเขาออกจากอก โบกมือ ให้คนลากหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหมือนกับสุนัขที่ตายออกไป ต่อจากนั้นยินดีต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และทำท่าทางเชิญ“เชิญครับ!”
เฉินห้าวและโจวซีถงก็ได้หันกลับมา และเดินเข้าไปในโรงแรม
คราวนี้ผ่านประตูตรวจสอบความปลอดภัย ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องมาค้นร่างกายแล้ว เขาทั้งสองเดินเข้าไปให้โรงแรมอย่างสงบ ต่อจากนั้นสาวสวยต้อนรับก็นำพาเข้าไปในลิฟต์ และรีบขึ้นไปยังงานเลี้ยงที่ชั้นบน
เมื่อออกจากลิฟต์แล้ว ก็เดินบนทางเดินที่งดงามวิจิตรบรรจงไปอีกสิบเมตร ถึงได้มาถึงสถานที่จัดงานหลักของโรงแรมวันนี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองในชุดสูทดำก็เปิดประตู เฉินห้าวและโจวซีถงก็เห็นว่าข้างในครึกครื้นเป็นอย่างมาก ชายหญิงมากมายแต่งกายเสื้อผ้าหรูหราเข้าร่วมงาน มีอาหารรสเลิศและไวน์ชั้นดีวางอยู่บนโต๊ะยาว เป็นปรากฏการณ์ของงานเลี้ยงค็อกเทลที่ครึกครื้น
แต่เบื้องหลังของความครึกครื้นนี้ กลับทำให้เฉินห้าวมีความรู้สึกไม่สบายใจ
“เฉินห้าว คืนนี้คงจะไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน พวกเราต้องระวัง”โจวซีถงพูดกระซิบ
“ฉันรู้แล้ว พวกเขาลงมือกับคนของตัวเองอย่างโหดร้าย งั้นคนนอกอย่างพวกเรา ก็ย่อมไม่มีทางออมมือ แต่ตอนนี้พวกเราปลอดภัย คาดว่าอีกฝ่ายหลังจากที่พบปะกับพวกเราถึงได้ลงมือกระทำ”
ทั้งสองคนเข้าไปในงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูก็ใช้เครื่องส่งรับวิทยุภายในรายงานว่า“เป้าหมายได้ปรากฏตัวแล้ว”
เฉินห้าวละโจวซีถงเดินเข้าไปงานเลี้ยง ถึงหน้าโต๊ะค็อกเทลตัวเองก็หยิบแชมเปญมาหนึ่งแก้ว ก็รู้สึกถึงมีฝีเท้าหนักที่ข้างหลัง ทั้งสองมองตามเสียงไป เห็นใบหน้าที่เย็นชา ก็คือก่วนซงที่เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้
วันนี้ก่วนซงใส่ชุดสูทสีขาวพราวระยับ ผมก็แวกซ์จนแสงสะท้าน ดูแล้วเท่ทันสมัยมาก
เขาเดินมาพร้อมกับค็อกเทลแก้วหนึ่ง โดยไม่แม้แต่จะมองเฉินห้าว เผชิญหน้ากับโจวซีถงก็เป็นคนเริ่มพูดก่อนว่า“ประธานโจวมาแล้ว ผมเป็นตัวแทนของครอบครัวแสดงความยินดีต้อนอย่างอบอุ่น”
ขณะที่พูด เขายื่นมือไป ต้องการจะจับมือ
เฉินห้าวไม่อยากให้ผู้หญิงของตัวเองจับมือกับผู้ชายแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงจับมือขวาของโจวซีถงอย่างเผด็จการ และมือซ้ายของโจวซีถงกำลังถือแก้วไวน์อยู่ในตอนนี้ ดังนั้นไม่สามารถที่จะจับมือได้ ทำให้มือของก่วนซงแข็งทื่ออยู่ในอากาศ
โจวซีถงยิ้มเล็กน้อย โดยบอกว่าเธอไม่สะดวกที่จะจับมือ อันที่จริงก็ไม่อยากจับ
“นายมาก่อกวนอีกแล้วเหรอ?”ในแววตาของก่วนซงแสดงความโกรธออกมา
เฉินห้าวกลับไม่สนใจเขา แต่แกล้งทำเป็นตรวจดูลวดลายฝ่ามือของโจวซีถง และพูดว่า“เส้นลายมือของประธานโจวดีมาก ในอนาคตทั้งอาชีพการงานและความรักจะดีสมบูรณ์มาก เพียงแต่ว่าคืนนี้อาจจะประสบกับแมลงที่น่ารำคาญ ยังต้องระวังด้วย”
เฉินห้าวโดยดูเส้นลายมือ ในความเป็นจริงกำลังเยาะเย้ยก่วนซง
ก่วนซงโกรธมาก กำหมัดแน่นอยากจะลงมือ แต่ในเวลานี้มีแขกเดินผ่านมา และทักทายเขา ก่วนซงต้องพยักหน้าตอบกลับเป็นมารยาท และความโกรธนี้ก็ไม่ดีที่จะแสดงออกมา
เขาหายใจเข้าลึกๆ ต่อจากนั้นพูดว่า“คุณโจว ผมจะขอเชิญคุณไปเต้นรำด้วยกัน”
โจวซีถงยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า“ขอโทษด้วยค่ะ ช่วงนี้ฉันปวดเท้า ไม่สามารถเต้นรำได้”
นี่ถือเป็นการปฏิเสธ ถึงยังไงเฉินห้าวอยู่ข้างกาย เธอไม่มีทางสัมผัสระยะใกล้ชิดกับก่วนซงอย่างแน่นอน
“ในเมื่อปวดเท้า งั้นพวกเราไปที่โซฟาตรงนั้น นั่งคุยกันดีกว่า ผมมีเรื่องธุรกิจใหญ่อยากจะพูดคุยกับคุณด้วย”ก่วนซงเปลี่ยนแผนอีกครั้ง
“ขอโทษด้วย ผมมีเรื่องสำคัญกว่าจะคุยกับประธานโจว คุณก็เข้าแถวชิดริม ผ่านไปสักสามสี่ชั่วโมง ไม่แน่อาจจะตาคุณแล้ว”เฉินห้าวพูดเยาะเย้ย
“นายจะคุยเรื่องสำคัญอะไรกับฉันเหรอ?”โจวซีถงกระซิบถามเขา
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องสำคัญของการมีลูกสืบสกุล นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์ ในโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว” เฉินห้าวกระซิบบอกกับเธอ
เฉินห้าวหยอกล้อให้ตัวเองมีความสุข โจวซีถงอยากหัวเราะแต่ก็เขินอาย ทำได้เพียงอดกลั้น
ทั้งสองคนพูดคุยกันเหมือนอยู่กันตามลำพัง โดยทิ้งก่วนซงไว้ข้างๆ ราวกับว่าเขาเป็นเมฆในอากาศ
ตอนนี้ก่วนซงทนไม่ไหว เขาที่เติบโตมาบนชื่อเสียงกองเงินกองทอง ยังไม่เคยโดนคนดูหมิ่นมากขนาดนี้มาก่อน เขาพูดเสียงดังทันทีว่า“โจวซีถง คุณดูถูกผมก่วนซงจริงๆเหรอ? ผมแย่กว่าไอ้หมอนี่ตรงไหน?”
โจวซีถงมองไปที่เขาแวบหนึ่ง ในใจพูดว่าห่างไกลไปมาก นายไม่ได้อะไรที่ดีกว่าเฉินห้าว
เฉินห้าวก็ประหลาดใจมากเช่นกัน ไม่นึกเลยว่าจะมีคนที่ไร้ยางอายแบบนี้ด้วย