เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 368 สับปะรดหมูเปรี้ยวหวาน
“วันนี้ฉันฝึกเมนูใหม่เป็นอีกอย่างแล้ว สับปะรดหมูเปรี้ยวหวาน ทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน อร่อยมากเลย พรุ่งนี้ฉันทำให้นายกินนะ!”
เซี่ยจิ้งนวดไหล่ไปด้วยคุยกับเฉินห้าวไปด้วย ตอนแรกเฉินห้าวยังตอบ “อืม” เพื่อให้รู้ว่าได้ยินแล้ว จากนั้นก็มีเพียงแค่เซี่ยจิ้งที่พูด ส่วนเฉินห้าวก็แค่ฟังไม่พูดอะไร
“นี่ บอกข่าวดีอย่างหนึ่งที่นายสนใจให้ฟัง เมื่อกี้ฉันเพิ่งซื้อชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวจากออนไลน์มาหนึ่งชุด มีลูกไม้ด้วย สวยมากนะ คนทะลึ่งอย่างนายจะต้องชอบแน่นอน อยากดูมั้ย?”
เซี่ยจิ้งจงใจลากเสียงยาวเพื่อดึงดูดความสนใจจากเฉินห้าว แต่สุดท้ายเฉินห้าวไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรเลย ทำให้เธอเสียใจมาก
“หมายความว่าไงกัน ฉันไม่มีเสน่ห์ขนาดนี้เชียว?”
โดยปกติแล้วที่เซี่ยจิ้งงอน เฉินห้าวก็จะมาโอ๋เธอ แต่ว่าครั้งนี้เฉินห้าวก็ไม่ขยับเลย
เซี่ยจิ้งหมุนไปด้านหน้าโซฟาอย่างสงสัย ถึงได้รู้ว่าเฉินห้าวหลับไปอย่างสบายแล้ว
“ตาบ้า นอนหลับไปอย่างนี้ก็สมน้ำหน้าที่นายไม่มีบุญตา!”
เซี่ยจิ้งบ่นไปที แล้วอยู่ๆก็พบว่าเฉินห้าวที่หลับไปแล้วน่าสนใจมาก ดังนั้นจึงได้เอาเส้นผมของตัวเองไปจั๊กจี้เฉินห้าวอย่างซุกซน
เฉินห้าวโบกมือย่างไม่สบายตัว นึกคิดว่าเป็น “แมลงวัน” จากนั้นก็ล้มลงที่โซฟา หาตำแหน่งที่สบายแล้วหลับฝันหวานต่อ
เซี่ยจิ้งแกล้งสำเร็จ ก็หัวเราะในใจ แต่เห็นว่าเฉินห้าวเหมือนจะเหนื่อย เธอก็ไปเอาผ้าห่มผืนหนึ่งมาห่มบนตัวเฉินห้าว จากนั้นก็ปรับความสว่างของห้องนั่งเล่นให้อ่อนลง แล้วก็ออกไป
เซี่ยจิ้งก็คือผู้หญิงที่หยิ่งผยองดื้อรั้น แต่ก็เอาใจใส่
การหลับครั้งนี้ของเฉินห้าวยาวถึงช่วงกลางดึก เขาลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองนอนหลับไปที่บนโซฟาของห้องนั่งเล่น หลังจากที่ลุกขึ้นก็มีผ้าห่มลายมินเนี่ยนตกลงพื้น ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเซี่ยจิ้งเป็นคนห่มให้เขาแน่นอน
หลังจากที่เฉินห้าวลุกขึ้น ก็รู้สึกพลังเต็มเปี่ยม การหลับครั้งนี้ได้เพิ่มพลังงานที่เสียไปของเขากลับมาแล้ว
เมื่อวานต่อสู้ไปทีหนึ่ง สั่งสอนก่วนซง ตอนกลางคืนก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อย ดังนั้นเมื่อกลับมาแล้วถูกเซี่ยจิ้งนวดให้สักพักก็ทำให้ง่วงแล้วหลับไป
ตอนนี้เวลาเพิ่งจะตีห้า ลมด้านนอกพัดผ่านเบาๆ อากาศลดลงต่ำกว่า 0 องศา หน้าต่างด้านนอกก็มีน้ำแข็งเกาะกระจก
แต่เฉินห้าวไม่กลัวหนาว ใส่เสื้อกันลมตัวบางไปที่สนามเล็ก เนื่องจากว่าท้องฟ้ายังมืดอยู่ จึงได้เปิดไฟถนนส่องสว่าง จากนั้นก็เริ่มต้นการออกกำลังกายที่อยู่ในแผนกิจวัตรประจำวัน
เขาก็ยังทำตามเดิม อย่างแรกคืออบอุ่นร่างกาย วิดพื้น โหนบาร์ยกตัวขึ้น วิ่งเหยาะๆห้ากิโลเมตร ทำทั้งหมดเสร็จเหงื่อก็ออกแล้ว แต่ไม่รู้สึกหนาว
การฝึกร่างกายเสร็จสิ้น ก็เป็นการฝึกฝนวิชาท่าห้าสัตว์ เมื่อวานที่ใช้ต่อสู้จริงทำให้เขามีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก วิชาทท่าเสือฝึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าใช้คะแนนเต็ม 10 คะแนนมาเปรียบเทียบ งั้นวิชาท่าเสือของเฉินห้าวในตอนนี้ก็คะแนนสูงถึง 8 คะแนน
วิชาท่ากวางเพิ่งฝึกฝนเป็นไม่นาน ระดับยังขาดเหลืออยู่หน่อย แต่ก็สามารถสูงถึง 6 คะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไรเมื่อใช้สำหรับการต่อสู้จริง
เฉินห้าวกะว่ารอให้วิชาท่ากวางระดับสูงถึง 8 คะแนน เขาถึงจะเริ่มฝึกฝนวิชาท่าหมี นั่นเป็นศิลปะการต่อสู้ที่หนักหนาเหมือนดั่งหุ่นยนต์Tank ถ้าฝึกเป็นแล้วคงจะสามารถฆ่าคนตายในกลุ่มคนได้อย่างดี เป็นจ้าวจื่อหลงในยุคสมัยใหม่เลย
เมื่อฝึกศิลปะการต่อสู้เสร็จก็หกโมงกว่าแล้ว ตอนที่เฉินห้าวกลับเข้าคฤหาสน์ก็เจอเข้ากับอู๋ตันและชิวย่าหนาน พวกเธอต่างก็ใส่เสื้อกันลมและกางเกงออกกำลังกายที่หนา เพื่อออกมาออกกำลังกายตอนเช้าเช่นกัน
เช้าขนาดนี้พวกเธอก็ตื่นแล้วหรอ?” เฉินห้าวถามอย่างสงสัย
“ใช่ค่ะ พวกเราจะเรียนรู้จากเถ้าแก่ค่ะ” สาวสวยสองคนตอบเสียงหวานพร้อมกัน
“โอเค งั้นพวกเธอออกกำลังกายเธอ ฉันออกกำลังกายเสร็จแล้ว”
เฉินห้าวบอกลากับทั้งสองคน กลับเข้าไปในคฤหาสน์ หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว เซี่ยจิ้งก็เอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟ บริการอย่างใส่ใจจริงๆ
ด้วยความเชื่อฟังที่ “หิวก็ทำกับข้าวให้กิน หลับแล้วก็ห่มผ้าให้” เฉินห้าวจึงสามารถทนกับนิสัยเอาแต่ใจเล็กน้อยของเธอได้ ในยุคนี้มีเพื่อนสาวที่รู้ใจและรอบคอบแบบนี้หาไม่ง่ายแล้ว
แต่ว่าอาหารเช้าวันนี้แปลกนิดหน่อย กลับมีสับปะรดหมูเปรี้ยวหวานด้วย ได้กินเมนูนี้ในหน้าหนาว ไม่ง่ายเลย
“กินหมูเปรี้ยวหวานแต่เช้าเลย?” เฉินห้าวถามยิ้มๆ
“อะไรกัน ก็เมื่อวานนายบอกให้ทำฉันทำให้นาย นายลืมแล้วหรอ? แล้วยังบอกจะให้รางวัลฉันด้วย หึ คำพูดผู้ชายหลอกคนเหมือนกับผีจริงๆด้วย!”
เซี่ยจิ้งเหมือนกับภรรยาที่ถูกรังแก ทำปากจู๋ด้วย
เฉินห้าวขมวดคิ้ว คิดยังไงเขาก็คิดไม่ออกว่าเขาเคยพูดตอนไหน น่าจะเป็นตอนที่หลับแล้วละเมอพูด
แต่ว่าเฉินห้าวเป็นคนใจกว้าง ไม่ว่ายังไงก็จะโอ๋หญิงสาว จึงบอกว่าตอนกลับจะซื้อของขวัญให้เธอ
“โอเค นายพูดเองนะ ฉันจะเอาของขวัญที่เป็นหนึ่งเดียวนะ” เซี่ยจิ้งพูดอย่างพอใจ
ในใจเธอมีความสุขอย่างมาก ตัวเองพูดเรื่องรางวัลออกมามั่วๆ เฉินห้าวก็เชื่อ เธอได้รับผลประโยชน์ คิดในใจว่าต่อไปต้องใช้วิธีนี้บ่อยๆ
ทานมื้อเช้าเสร็จ เฉินห้าวก็ขับรถไปที่ไซต์งานก่อสร้างถนนเมี่ยวเจีย ที่นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
ผู้เช่าในถนนเมี่ยวเจียย้ายออกจนหมดแล้ว ตอนนี้ทีมวิศวะกำลังทำการก่อสร้างอย่างเร่งรัด แต่ว่ายังมีสิ่งก่อสร้างเดิมกว่าครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำการถอน เนื่องจากว่ารอบข้างมีย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจ หลังจากฟ้ามืดก็ไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้าง การพัฒนาจึงช้าอยู่สักหน่อย
เฉินห้าวรู้หลักการที่ว่าช้าๆได้พร้าเล่มงาม จึงไม่ได้เร่ง เพียงแค่พูดกับหัวหน้าโครงการว่าถ้าหากมีปัญหาสามารถมาหาเขาให้ช่วยจัดการได้ทันที
หัวหน้าโครงการรู้สึกสบายใจอย่างมาก ได้เจอกับเจ้านายที่มีเหตุผลอย่างเฉินห้าวนั้นดีจริงๆ เกิดปัญหาก็ไม่ด่าพวกเขา แต่ยังออกตัวมาช่วยจัดการ เจ้านายที่ดีแบบนี้หายากมากจริงๆ ดังนั้นผู้รับผิดชอบงานจึงตัดสินใจว่า จะต้องทุ่มเทพยายามให้กับโครงการ ไม่ทำให้เฉินห้าวผิดหวัง
เฉินห้าวอยู่สั่งการทำงานที่ไซต์ รับฟังแผนการก่อสร้างของผู้รับผิดชอบ เขารู้สึกว่าดีมาก ก็ยังต้องใช้คนที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญงานเพื่อมาทำงานนี้จริงๆ ดังนั้นเฉินห้าวจึงตัดสินใจสละอำนาจ ให้ผู้รับผิดชอบมาตัดสินใจวิธีการทำงาน เขาที่เป็นคนนอกวงการก็ไม่ไปสั่งมั่วดีกว่า
เมื่อถึงเวลาเที่ยง เฉินห้าวเพิ่งขับรถออกจากไซต์ก่อสร้าง ก็ได้รับสายจากโจวซีถง น้ำเสียงของเธอฝั่งนั้นดูร้อนรนมาก