เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 37 นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่ไหม
บทที่ 37 นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่ไหม
“ยาเสริมความแข็งแรงของร่างกายสุดยอดจริงๆ”
เมื่อเฉินห้าวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเข้ามาในพื้นที่ยิมก็พุ่งตรงไปที่เครื่องวัดกำลัง มันคืออุปกรณ์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับเครื่องทดสอบกำลังในสวนสนุก สวมนวมชกมวยออกแรงต่อยเสาฟองน้ำ อุปกรณ์นี้สามารถวัดกำลังจากการต่อยของผู้ใช้
เฉินห้าวเห็นสถิติของผู้ใช้ก่อนหน้านี้กำลังวิ่งอยู่บนมิเตอร์ อันดับแรกใช้ชื่อคุณ ABC มีกำลัง 560 กิโลกรัมซึ่งก็อยู่ในระดับนักชกอาชีพแล้ว ถ้าต่อยถูกจุดสามารถทำให้คนสลบหรือถึงกับตายได้ในหมัดเดียว
เฉินห้าวประเมินความแข็งแกร่งของตัวเอง ถ้าสามารถทำลายสถิติของอันดับหนึ่งได้ก็ถือว่าชนะ ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมากสำหรับเขาในฐานะคนธรรมดาที่สามารถมีกำลังเทียบเท่านักมวยได้ในช่วงเวลาอันสั้น
เฉินห้าวสวมนวมทั้งสองข้าง สูดหายใจเข้าลึกๆ และชกเสาฟองน้ำด้วยกำปั้นขวาด้วยกำลังทั้งหมด
“ปัง!”
“เอี๊ยด!”
เสาฟองน้ำส่งเสียงน่าเสียวฟัน หลังจากต่อยเข้าไป เสาที่มีโลหะรองรับอยู่ด้านในผิดรูปไปเล็กน้อย ฟองน้ำก็แตกออกเช่นกัน อานุภาพพลังหมัดของเฉินห้าวนั้นน่ากลัวมาก
เฉินห้าวรู้สึกตกใจเมื่อเห็นหน้าจอมิเตอร์ยุ่งเหยิง ไม่ว่าจะตบยังไงก็ไม่ได้ผล มันถูกหมัดของเฉินห้าวต่อยพังแล้ว
เฉินห้าวรู้ว่าตนเองทำเครื่องพัง เขาจึงถอดนวมชกมวยออกเงียบๆ แล้วเรียกพนักงานบริการของยิมเข้ามา บอกว่าอุปกรณ์ของพวกเขาใช้การไม่ได้ ถึงเวลาตรวจและซ่อมแซมแล้ว
เมื่อพนักงานบริการเผชิญหน้าอยู่กับเสาฟองน้ำที่หักเขาก็ตกอยู่ในภวังค์
เครื่องวัดกำลังเสียไปแล้ว แต่เฉินห้าวยังอยากรู้ระดับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา ยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือการทดสอบกับอุปกรณ์ออกกำลังกายทุกประเภท
เฉินห้าวเดินมาที่ม้านอนยกน้ำหนัก เนื่องจากสามารถปรับน้ำหนักของลูกตุ้มน้ำหนักทุกตัวได้ สามารถใช้ทดสอบกำลังได้
ในโรงยิมสำหรับสมาชิกแห่งนี้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงจึงมีบริการที่ดี จะมีเทรนเนอร์คอยให้บริการอยู่เป็นระยะ เฉินห้าวเรียกเทรนเนอร์ชายคนหนึ่งเข้ามาเพื่อขอปรึกษาจากเขา
“คนทั่วไปนอนยกน้ำหนักได้เท่าไรครับ?”
เทรนเนอร์กล่าวว่า “คนที่ยังไม่เคยฝึกมาก่อนจะได้ประมาณ 40-50 กิโลกรัม เมื่อฝึกฝนไปสักช่วงเวลาหนึ่งก็จะสามารถยกได้ถึง 80-100 กิโลกรัม ถ้า 120 กิโลกรัมถือว่ายอดเยี่ยม คนที่มีกำลังช้างสารจะได้มากกว่า 150 กิโลกรัม ถ้าเป็นนักกีฬามืออาชีพอาจจะได้ถึง 190 กิโลกรัมหรือมากกว่านั้น”
“แล้วสถิติโลกล่ะ?” เฉินห้าวถาม เขาคิดว่าตนเองสามารถท้าประลองได้
เทรนเนอร์ยิ้ม “สถิติโลกอยู่ที่ 480 กิโลกรัม แต่มันเป็นไปได้ยาก คนเหล่านั้นล้วนเป็นมืออาชีพ ปกติจะใช้ยาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ คนปกติถ้ายกได้มากกว่า 100 กิโลกรัมก็เก่งมากแล้ว”
“โอเค เอาให้ผม 150 กิโลกรัมก่อน ผมจะลองดู” เฉินห้าวพูดพลางนอนลงบนเบาะ เหนือศีรษะของเขาเป็นที่สำหรับวางบาร์เบล
“คุณแน่ใจหรือว่าต้องการน้ำหนัก 150 กิโลกรัม?” เทรนเนอร์ถาม
เทรนเนอร์คนนี้เคยเห็นลูกค้าจำนวนมากที่ประเมินค่าตัวเองสูงเกินไป มาถึงก็ต้องการน้ำหนักที่สูงมาก สุดท้ายออกแรงจนหมดแรงก็ยังยกไม่ขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อตึงจนบาดเจ็บได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นเทรนเนอร์จึงไม่อยากปล่อยให้เฉินห้าวยกบาร์เบลหนักแบบนี้
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่” เฉินห้าวกล่าวอย่างหนักแน่น
เขากินยาเสริมความแข็งแรงของร่างกายมาแล้ว ถ้าแค่ 150 กิโลกรัมยังยกไม่ขึ้น คงขายหน้าบรรพบุรุษแย่และทำให้ดอกหงเกินเย่หลันที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วต้องผิดหวังอีกด้วย
เทรนเนอร์จำต้องใส่ตุ้มน้ำหนักให้บาร์เบล 150 กิโลกรัมแล้ววางไว้บนแร็ควางเหนือศีรษะเฉินห้าว
เฉินห้าวนอนลงบนเบาะ สูดหายใจเข้าลึกๆ จับบาร์เบลแล้วยกขึ้น
ดูเหมือนจะไม่รู้สึกว่ามีน้ำหนักเลย ดังนั้นจึงยกบาร์เบลขึ้นได้อย่างสบายๆ
“มันเบาเกินไป เปลี่ยนเป็น 200 กิโลกรัม” เฉินห้าวพูดหลังจากวางมันลง
“ล้อเล่นหรือเปล่า? คุณผู้ชาย 200 กิโลกรัมไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ อาจบาดเจ็บได้ง่าย” เทรนเนอร์เตือนอย่างจริงจัง
“ผมบอกว่ามันเบามาก ถ้าไม่เชื่อคุณลองดูสิ”
ครั้งนี้เฉินห้าวยกบาร์เบลน้ำหนัก 150 กิโลกรัมอย่างรวดเร็วและใช้แรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ระวังครับ ทำแบบนี้จะบาดเจ็บข้อมือได้ง่าย”
ครั้งนี้ทำให้เทรนเนอร์สะดุ้งเช่นกัน เขาคิดว่ามวลกล้ามเนื้อบนร่างกายของเฉินห้าวไม่ได้เด่นชัดมากนัก แต่กำลังของเขานั้นไม่น้อยเลย แข็งแรงกว่าคนส่วนใหญ่ที่มาออกกำลังกายเสียอีก
“เอาล่ะ งั้นผมจะเปลี่ยนเป็น 200 กิโลกรัม แต่ผมต้องคอยช่วยอยู่ข้างๆ ถ้าคุณยกไม่ไหว ผมจะได้คอยประคองบาร์เบล”
เทรนเนอร์เพิ่มน้ำหนักเป็น 200 กิโลกรัมซึ่งเป็นน้ำหนักที่เขาไม่สามารถยกได้ นักกีฬาอาชีพหลายคนยังไม่สามารถยกน้ำหนักนี้ได้ ถ้าสามารถยกได้ 200 กิโลกรัม ในความเป็นจริงสามารถเรียกได้ว่าเป็นจอมยุทธทรงพลังแล้ว
คราวนี้เฉินห้าวกำหมัดแน่น รู้สึกถึงความท้าทายในครั้งนี้ ก่อนจะจับบาร์เบลแน่นแล้วออกแรงยกขึ้น
แม้ว่ามันจะหนักขึ้นมาก ไม่รู้สึกยกได้เบาเหมือนคราวก่อน แต่เฉินห้าวก็ยังยกขึ้นได้สบายๆ และไม่กินแรงใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังยกท่ามาตรฐานได้อีกสิบชุด
“คุณพระ คุณสามารถยกมันได้จริงๆ คุณเป็นนักกีฬาหรือเปล่าครับ?” คราวนี้เทรนเนอร์ถึงกับร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ เสียงของเขาดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามารายล้อมดู
“เก่งมาก เขาดูผอมมาก คิดไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? ผมยกได้ 50 กิโลกรัม เขาทำได้มากกว่าสี่เท่า สงสัยต่อยหมัดเดียวผมก็สลบแล้ว”
ผู้คนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์ อุทานด้วยความทึ่งในความแข็งแกร่งของเฉินห้าว
แต่เฉินห้าวกลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น การยกน้ำหนัก 200 กิโลกรัมได้นั้นยังไม่สะใจ เขาพูดกับเทรนเนอร์อย่างอาจหาญ “ขอบาร์เบลน้ำหนัก 300 กิโลกรัมให้ผม”