เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่241 การ์ดดำ
การโจมตีครั้งแรกมาจากกองทัพเรือแสดงความคิดเห็นโดยมีผู้ให้คำปรึกษาหวงเป็นผู้นำ สื่อหลักทั้งหลายปล่อยข่าวซุบซิบพร้อมกันว่า หรงข่ายกรุ๊ปเจอวิกฤตการเงินและกำลังเตรียมหนี
ในยุคแห่งการระเบิดของข้อมูล ข่าวซุบซิบประเภทนี้จะถูกแพร่กระจายในไม่ช้า และหลายๆ คนอาจไม่เชื่อ แต่มันก็จะถูกฝังลงในใจคนส่วนใหญ่ และนี่แหละที่เขาเรียกกันว่าไม่กลัวเรื่องที่แน่นอนแต่กลัวเหตุไม่คาดฝัน
แน่นอนว่าหรงข่ายกรุ๊ปได้ออกแถลงข่าวเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่มีปัญหาทางการเงินแล้ว และยังเปิดเผยว่าพวกเขาจะลงทุนในโครงการบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าห่วงโซ่ทุนของพวกเขานั้นมีอยู่มากมาย
ในตอนนี้เฉินห้าวจำเป็นต้องขว้างข่าวใหญ่ออกมา มิฉะนั้นเรื่องซุบซิบที่ไม่มีน้ำหนักพอให้เชื่อเหล่านี้จะหายไปในไม่ช้า
“ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้เอง”
เฉินห้าวนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เข้ารหัสซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้ เฉินห้าวเปิด app เงินอุดหนุนหมื่นล้านอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เลือกการ์ดใหม่จากพื้นที่การ์ด
ผลประโยชน์ของการ์ดดำก็คือใช้เพื่อระงับราคาหุ้นของบริษัทที่กำหนด โดยการทำให้ราคาหุ้นลดลงถึงขีดจำกัดเป็นเวลาสามวันซึ่งต้องใช้คะแนนสะสม50แต้ม
นี่เป็นการ์ดที่ทรงพลังมาก และแต้มที่ต้องการก็สูงถึง50แต้ม นอกจากนี้ยังเป็นเพราะแต้มจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นล่าสุดของเฉินห้าว เขาถึงสามารถซื้อการ์ดราคาแพงใบนี้ได้
อย่างไรก็ตามเพื่อกำจัดหนามยอกอกอย่างเฉียนหรงข่ายทิ้ง เฉินห้าวจึงเต็มใจที่จะลงทุนในครั้งนี้ จากนั้นเขาคลิกที่ปุ่มแลกการ์ดดำ และคลิกปุ่มเริ่มใช้งานโดยกำหนดให้บริษัทที่ได้รับผลเป็นหรงข่ายกรุ๊ป
“การ์ดดำเริ่มใช้งานได้แล้ว และราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวจะลดลงในทันที”
หลังจากได้รับการตอบรับจากแอพแล้ว เฉินห้าวก็บอกข่าวที่ราคาหุ้นของหรงข่ายกรุ๊ปกำลังจะลดลงในไม่ช้านี้กับผู้ให้คำปรึกษาหวงทันที
ผู้ให้คำปรึกษาหวงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่โจวซีถงขอให้เขาทำตามที่เฉินห้าวบอกทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งไปตามที่เขาบอกมา ให้ดำเนินการด้านหลักทรัพย์ตามขีดจำกัดของตลาดหุ้น
แม้ว่าภายในประเทศจะไม่อนุญาตให้ขายชอร์ตในตลาดหุ้น แต่ก็สามารถสร้างบทความเพื่อทำกำไรได้จากกรณีที่รู้ว่าหุ้นของอีกฝ่ายจะลดลง
“ผู้ให้คำปรึกษาหวงครับ หุ้นของหรงข่ายกรุ๊ป กำลังตกลงอย่างรวดเร็วจริงๆ เผลอแป๊บเดียวก็ลดลงมากกว่า1 หยวนแล้ว”
ในเวลาต่อมาผู้ค้าก็มารายงานต่อผู้ให้คำปรึกษาหวง
“จริงเหรอ?”
ผู้ให้คำปรึกษาหวงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เฉินห้าวพูดนั้นจะเป็นจริง
ราคาหุ้นของหรงข่ายกรุ๊ปนั้นมีไม่มากอยู่แล้ว การที่ราคาหุ้นลดลงมากกว่า1หยวนมันก็สร้างความเดือดร้อนอย่างมากแล้ว ที่สำคัญคือนี่ยังไม่ใช่จุดจบ หุ้นของพวกเขามีการรั่วไหลตลอดเวลา เหมือนน้ำท่วมที่ไม่สามารถหยุดได้
“เอาล่ะ ขายหุ้นของเราไปตามเขา เพื่อสร้างความตื่นตระหนกมากขึ้น” ผู้ให้คำปรึกษาหวงออกคำสั่งไป และสงครามซุ่มยิงทางการเงินกับหรงข่ายกรุ๊ปได้เริ่มขึ้นแล้ว
หรงข่ายกรุ๊ปได้ค้นพบสถานการณ์ที่ผิดปกติในตลาดหุ้นอย่างรวดเร็ว และใช้วิธีการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือตลาดหุ้นของพวกเขา โดยซื้อหุ้นที่มีการขายอย่างดุเดือดในตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น แต่สิ่งนี้ใช้เงินทุนจำนวนมากแต่กลับมีผลเพียงเล็กน้อย ในเวลาไม่นานนักราคาหุ้นของพวกเขาก็ถึงขีดจำกัดแล้ว ซึ่งมันทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรู้สึกสับสนเล็กน้อย การลดลงนี้อธิบายไม่ได้ แต่ความจริงก็คือขีดจำกัด และมันเป็นความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วย
เมื่อเห็นความล่มจมของหรงข่ายกรุ๊ปผู้ให้คำปรึกษาหวงก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฉินห้าวอย่างลับๆ เขารู้สึกว่าประธานเฉินที่หล่อเหลาคนนี้ลึกลับเกินไปแล้ว ราวกับว่าเขาจะคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ความสามารถแบบนี้จะทำให้เขารุ่งเรืองในตลาดหุ้นอย่างแน่นอน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ประธานของบริษัทตัวเองจะบอกให้ตัวเองรับฟังคำสั่งของเขา เขาเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ
วันเวลาผ่านไปอีกสองวัน สำหรับเฉียนหรงข่ายแล้วสองวันนี้ผ่านไปอย่างทรมานเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ ตลาดหุ้นของบริษัทเขาลดลงถึงขีดจำกัดติดต่อกันสามวัน ทำให้ผู้ถือหุ้นหมดความเชื่อมั่นและส่งผลให้เกิดกระแสการขายตัดราคา และกองทุนของบริษัทก็ถูกใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น ไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดการลดลงได้ ตอนนี้หรงข่ายกรุ๊ปไม่มีเงินเหลือแล้ว
ตอนนี้ลิ้นของเฉียนหรงข่ายมีตุ่มแดงนูนขึ้น และเหงือกของเขาก็ทั้งบวมทั้งแดงซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเกิดจากความโกรธที่มากจนเกินไปทั้งนั้น
“ทำไมจู่ๆ ราคาหุ้นถึงตกลงมาถึงขีดจำกัดได้? น่าแปลกจริงๆ ตั้งแต่ฉันได้พบกับคนที่มีนามสกุลเฉินนั้น ชีวิตของฉันก็ไม่เคยราบรื่นอีกเลย!”
เฉียนหรงข่ายสาปแช่งอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเพียงสามวันราคาหุ้นของบริษัท ของเขาก็ลดลงกว่า20หยวนแล้ว และมูลค่าตลาดก็ระเหยไปหลายพันล้านบาทในพริบตา และมันเป็นความเจ็บปวดที่สุดจะทนสำหรับเขาอย่างแน่นอน
“ท่านประธานค่ะ เราต้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่” เลขาสาวสุดฮอตเข้ามารายงาน
เลขานุการหญิงคนนี้เป็นเด็กเลี้ยงของเฉียนหรงข่าย ปกติทั้งสองมักจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในห้องทำงานของเขา แต่เวลานี้แม้ว่าจะเป็นเลขานุการหญิงที่แสนเซ็กซี่ก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากเฉียนหรงข่ายได้เลย
จริงอย่างที่เธอพูดหากเขาไม่สามารถหาเงินมาอุดหลุมได้ บริษัทก็จะล่มสลายอย่างแน่นอน และถ้าไม่มีเงินทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำไปก็จะสูญเปล่า
“ตกลงฉันจะไปหาเงินมาเดี๋ยวนี้”เฉียนหรงข่ายพูดอย่างท้อแท้
เขาโทรหาเพื่อนของเขาทันที นอกจากนี้เขายังไปขอสินเชื่อระยะสั้นที่ธนาคารใหญ่หลายแห่ง เพื่อช่วยให้บริษัทผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปก่อนส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
ทุกสายโทรศัพท์ที่เฉียนหรงข่ายได้โทรไปขอความช่วยเหลือนั้น ได้ถูกแฮ็กเกอร์อย่างฉิงจื๋อเทาแอบฟังไปหมดแล้ว จากนั้นเขาก็พูดให้เฉินห้าวฟังในทันที
เฉินห้าวยิ้มเล็กน้อยทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาไม่สามารถก้าวก่ายเรื่องที่เฉียนหรงข่ายจะขายทรัพย์สินของตัวเองได้ แต่เขาสามารถ “เพิ่มแรงไฟ” ให้กับทางด้านธนาคารได้
เฉินห้าวโทรหาผู้อำนวยการอู๋ของธนาคารแห่งประเทศจีน และขอให้เขาส่งต่อข่าวให้กับเพื่อนในสายงานเดียวกันว่า หรงข่ายกรุ๊ปกำลังจะจบลงในไม่ช้านี้แล้ว การกู้เงินให้เขาก็เหมือนกับการเอาซาลาเปาโยนใส่สุนัขมีแต่ไปไม่มีกลับ
“สิ่งที่คุณพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” เมื่อผู้อำนวยการอู๋เห็นว่าเป็นสายโทรจากเฉินห้าวที่เขาพยายามประจบสอพลอมาโดยตลอด เขาจึงให้ความสำคัญกับสายนี้อย่างมาก แต่กับเรื่องที่หรงข่ายกรุ๊ปกำลังจะล้มละลายนั้นเขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“มีอะไรน่าสงสัยอีกเหรอ ฉันบอกคุณเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนเท่านั้นไม่อย่างนั้นถ้าพวกคุณให้เขากู้เงินไป แต่เขาไม่สามารถชำระหนี้ได้มันก็จะกลายเป็นหนี้เสียของพวกคุณ หรือว่าธนาคารของพวกคุณมีเงินมากมายจนไม่สนในเรื่องนี้แล้ว? ”
คำพูดของเฉินห้าวทำให้ผู้อำนวยการอู๋รู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันที ทางธนาคารกลัวหนี้เสียจริงๆ การที่มีหนี้เสียมากเกินไป จะส่งผลให้ธนาคารเสื่อมเสียประสิทธิภาพอย่างมาก
ในสายตาของผู้อำนวยการอู๋นั้น เฉินห้าวเป็นมหาเศรษฐีที่สามารถซื้อหมู่คฤหาสน์จงหัวได้ และยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบริษัทโจวซื่อด้วย นอกจากนี้เขายังมีทรัพยากรทางการเงินที่หนักแน่นและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งอีกด้วย เพราะฉะนั้นคำพูดของเฉินห้าวจึงน่าเชื่อถือมาก และผู้อำนวยการอู๋คิดว่ากันไว้ย่อมดีกว่าแก้เสมอ ดังนั้นเขาจึงบอกข่าวนี้กับเพื่อนในสายงานที่อยู่ในเมืองหลวงของจังหวัดโดยการใช้ความสัมพันธ์ภายในธนาคารของเขาในทันที