เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่246 รู้สึกละอายใจจังเลย
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” จู่ๆ เฉินห้าวก็รู้สึกใจหายขึ้นมา
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกค่ะ แค่ญาติ( ประจำเดือน) มา เลยรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย” โจวซีถงพูดอย่างอ่อนแรง
“ญาติ?”
เฉินห้าวสะดุ้งและเข้าใจทันทีว่านั่นคือ “ป้า(ประจำเดือน) ” ของโจวซีถงมา และการปวดท้องก็เป็นปรากฏการณ์ทางสรีรวิทยาของประจำเดือน
นี่เป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดสำหรับผู้หญิง และช่วงเวลาที่ต้องการการดูแลจากแฟนมากที่สุด และเฉินห้าวจะไม่มีทางใช้วิธีแก้ปัญหาของผู้ชายทั่วไปที่มักจะบอกแฟนสาวที่กำลังปวดประจำเดือนให้ดื่มน้ำร้อนเยอะๆ เขาต้องหาวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการช่วยโจวซีถงผ่านพ้นช่วงเวลาที่เจ็บปวดนี้
จู่ๆ เฉินห้าวก็นึกขึ้นได้ว่าโจ๊กน้ำตาลทรายแดงที่เซี่ยจิ้งทำในช่วงที่เธอมีประจำเดือนนั้น มีประสิทธิภาพในการบำรุงร่างกายอย่างมาก เขาจึงรีบโทรเรียกเธอให้มาช่วยเขาต้มโจ๊กดังกล่าวในทันที
“ทำไมจู่ๆ คุณถึงอยากดื่มโจ๊กน้ำตาลทรายแดงขึ้นมาล่ะ? หรือว่าลุง(ประจำเดือน)ของคุณมา?” เซี่ยจิ้งหยอกล้อเขาผ่านโทรศัพท์
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว มีเพื่อนคนหนึ่งต้องการจะดื่มน่ะ รบกวนช่วยหน่อย
“โอเค ฉันจะส่งไปให้คุณภายในครึ่งชั่วโมง” เซี่ยจิ้งตอบตกลง
“ไม่เป็นไร คุณต้มไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะขับรถไปเอาเอง”
เฉินห้าวจะไม่มีทางปล่อยให้เซี่ยจิ้งนำโจ๊กน้ำตาลทรายแดงไปส่งให้โจวซีถงอย่างแน่นอน เพราะเขาต้องการทำทุกอย่างเพื่อเธอด้วยตัวเขาเอง
“เชอะ ไอ้คนหลายใจ คุณจะเอาไปให้ผู้หญิงที่ชื่อโจวซีถงนั่นดื่มใช่ไหม!”
อย่ามองไปที่ความประมาทตามปกติของเซี่ยจิ้ง แต่เธอก็เดาจุดประสงค์ของ เฉินห้าวได้ในทันทีด้วยความคิดอย่างรอบคอบของเธอ
เธอใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้ออัดแรงดัน จากนั้นก็หยิบเกลือถุงหนึ่งไว้ในมือและยิ้มอย่างมีเลศนัย: “หึ ฉันจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นด้วยเกลือ!”
แต่วินาทีที่เธอกำลังจะเทเกลือทั้งถุงลงในหม้อนั้น เธอก็หายโกรธในทันทีเธอจึงโยนเกลือทิ้งและพูดกับตัวเองว่า: “ช่างเถอะ วิญญาณพ่อครัวของฉันไม่ยอมให้ฉันทำอาหารที่ไม่อร่อย วันนี้ก็ถือว่าเธอโชคดีไป”
แม้ว่าปกติเซี่ยจิ้งจะชอบทำตัวซุกซน แต่เธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจงดงามอยู่เสมอ และเรื่องที่จะเทเกลือใส่หม้อโจ๊กนั้นเธอก็แค่พูดไปอย่างนั้น ต่อมาเธอก็กดสวิตช์ตามขั้นตอนการทำอาหาร
เซี่ยจิ้งฮัมเพลงอย่างมีความสุขในขณะที่ทำอาหาร ถ้ามีใครสักคนสามารถเข้าใจถึงความในใจของเธอได้ เขาจะได้ยินบทสนทนาต่อไปนี้: “เชอะ ถึงแม้ว่าหล่อนจะทั้งสวยทั้งรวยและอ่อยผู้ชายเป็นแล้วไง ฉันต่างหากที่เป็นเมียหลวงที่อาศัยอยู่ในหมู่คฤหาสน์จงหัวเป็นคนแรก ในอนาคตฉันจะให้หล่อนเรียกฉันว่าพี่ให้ได้! ”
เมื่อเฉินห้าวมาถึงที่ร้านอาหารฝรั่งเศสเซี่ยจิ้งได้ปรุงโจ๊กน้ำตาลทรายแดงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอใส่โจ๊กลงในกล่องอาหารที่สามารถเก็บความร้อนได้ แล้วส่งให้เฉินห้าวอย่างน่าเอ็นดู
“ฉันทำเสร็จแล้ว น่ารักป่ะ?” เซี่ยจิ้งจงใจบีบเสียงและถามอย่างอ่อนโยน
“อืม ดีมากเดี๋ยวจะเพิ่มเงินเดือนให้นะ” เฉินห้าวตอบเพียงสั้นๆ คำเดียวก็กะจะเดินออกไป
“อะไรกัน แค่นี้เองเหรอ? อย่างน้อยก็ควรมีเนื้อหาที่เป็นจริงบ้าง” เซี่ยจิ้งชี้ไปที่แก้มขาวๆ ของเธอซึ่งหมายความว่า: “มาจูบฉันสิ”
เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีผู้หญิงสวยเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อน แต่เฉินห้าวขมวดคิ้ว เพราะท่าทางที่กระตือรือร้นของเซี่ยจิ้งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกเอาเปรียบมากกว่า
“ไว้คราวหน้าแล้วกัน” เฉินห้าวหาข้ออ้างเพราะเขาไม่อยากจูบเธอ
“ไม่ได้ ครั้งนี้ต้องทำให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นฉันจะสร้างปัญหาให้คุณ คุณหลอกลวงพนักงานของตัวเองเพราะฉะนั้นฉันจะลาออก!” เซี่ยจิ้งเริ่มทำตัวก้าวร้าวเหมือนคุณหนู
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงกลยุทธ์ของเธอเท่านั้น ตอนนี้เธอกินดีอยู่ดีอย่างมากไม่เพียงแต่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์และมีเงินเดือนสูง แถมยังมีรถหรูให้ขับด้วยเธอจึงไม่มีทางที่จะลาออกอย่างแน่นอน
เฉินห้าวรู้สึกหนักใจกับเธอมาก แต่เขาก็ไม่อยากโดนเอาเปรียบเหมือนกัน เขาจึงประนีประนอมและพูดว่า: “ก็ได้ แต่เธอต้องหลับตาแล้วหาที่ที่ไม่มีใครอยู่”
“อุ๊ย ไม่คาดคิดว่าคุณยังเป็นเด็กไร้เดียงสาอีกด้วย?” เซี่ยจิ้งพูดด้วยรอยยิ้ม
“หยุดพูดจาไร้สาระเถอะ คุณจะมาไหม? ถ้าคุณไม่มา ฉันจะไปแล้วนะ” เฉินห้าวจงใจทำสีหน้าเย็นชา เพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับเซี่ยจิ้งมากไปกว่านี้แล้ว
“แน่นอน มาสิ!”
เมื่อทั้งสองมาถึงมุมของร้านอาหารที่ไม่มีใคร เซี่ยจิ้งหลับตาลงอย่างคาดหวังจากนั้นก็เม้มริมฝีปากสีแดงของเธอเพื่อให้เฉินห้าวสามารถจูบเธอได้
เฉินห้าวทำท่าเหมือนสองมังกรชิงแก้ว จากนั้นก็สอดแทรกเข้าไปในดวงตาของเซี่ยจิ้งอย่างดุเดือด นิ้วของเขาค้างอยู่บนเปลือกตาของเซี่ยจิ้ง ถ้าเป็นคนธรรมดาจะต้องหวาดกลัวจนหลบหนีอย่างแน่นอน แต่เธอกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย
เฉินห้าวรู้สึกโล่งใจทันที ดูเหมือนว่าเซี่ยจิ้งจะหลับตาลงแล้ว เขาแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในทันที จากนั้นเขาเช็ดน้ำลายที่นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวาแล้วเอานิ้วทั้งสองเข้าหากันเพื่อแสร้งทำเป็นริมฝีปาก จากนั้นก็กดลงบนริมฝีปากสีแดงของเซี่ยจิ้งอย่างแผ่วเบา
“โอเค จูบเสร็จแล้ว ฉันจะไปแล้ว”
เฉินห้าวไม่รอให้เซี่ยจิ้งเห็นเบาะแส เขารีบวิ่งออกไปพร้อมกับกล่องอาหารในทันที
เซี่ยจิ้งรู้สึกเย็นและชุ่มชื้นที่ริมฝีปากของเธอ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกโลกนี้เต็มไปด้วยความหวาน และหลังจากที่เธอลืมตาขึ้นมาจากความหวานที่ค้างอยู่ในคอนั้นเฉินห้าวก็หายไปแล้ว
“เชอะ ปกติชอบสร้างภาพให้คนอื่นเข้าใจว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ ที่แท้ก็เป็นผู้ชายแรดเงียบนั่นเอง ฉันแค่หลอกล่อเล็กๆ น้อยๆ คุณก็จูบฉันจริงๆ อย่างนั้นเหรอ ต่อไปนี้ถ้าฉันบอกให้คุณจูบตรงไหน คุณก็จะจูบตรงนั้นหรือไง!”
หัวสมองของเซี่ยจิ้งไปไวมากเผลอแป๊บเดียวเธอก็จินตนาการไปถึงเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กแล้ว ทันใดนั้นเธอก็เอามือปิดแก้มสีแดงของเธอและพึมพำกับตัวเองว่า: “อุ๊ย นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย น่าละอายใจจริงๆ เลย!”
เซี่ยจิ้งรู้สึกเขินมาก เธอวิ่งกลับไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพนักงานในร้านเห็นเธอหน้าแดง จึงถามเธอว่า: “พี่เซี่ยทำไมคุณหน้าแดงจังเลย?”
“ฉันหน้าแดงเพราะอากาศมันร้อนน่ะ เป็นเพราะอุณหภูมิในห้องสูงเกินไปแน่เลย ยังไม่รีบไปปรับอุณหภูมิแอร์ให้เย็นลงกว่านี้อีก!”
เซี่ยจิ้งที่เกือบโดนจับได้โกรธและคำรามในทัน ทำให้พนักงานชายตกใจจนวิ่งไปปรับอุณหภูมิแอร์ทันที เซี่ยจิ้งไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เรียบร้อยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เธอน่ารักกับเฉินห้าวเพียงผู้เดียวเท่านั้น ในสายตาของคนอื่นเธอเป็นสาวน้อยผู้หยิ่งผยองและดุร้ายคนนั้น