เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน - ตอนที่ 13
13.ซ่อมบ้าน
ที่พี่ชายจากหมู่บ้านเดียวกันกล่าวมาเช่นนี้ คล้ายว่ามิได้มี เจตนามุ่งร้าย หรือแม้กระทั่งยกยอปอปั้น ทว่าสำหรับหลี่วเจิน เมื่อมาได้ยิน ก็รู้สึกไม่ชอบใจ หญิงสาวจึงพูดขัดขึ้น “ท่านทั้ง สองคนอุตส่าห์ทุ่มเททำงานหนัก ประเดี๋ยวข้าจะไปซื้อเนื้อมา ทำอาหารดี ๆ ให้กินเป็นมื้อเที่ยงนะ”
ฮูหยินของท่านนี้ ออกจากห้องโถงเมื่อไร ก็เข้าครัวเมื่อนั้น รี? “[1] พี่ชายหมู่บ้านเดียวกันเอ่ยเย้าคู่สามีภรรยา พลาง
หัวเราะดังลั่น
หลิ่วเจินระบายยิ้ม แต่พอเห็นกู้หรูเฟิงมีหน้าตาขัดเขิน หญิงสาวจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปอย่างแนบเนียน
..
อาหารที่เก็บสำรองไว้สำหรับครอบครัว คงไม่สามารถ เอาออกมาเลี้ยงรับรองแขกได้แน่ ทว่าเงินสำหรับซื้ออาหารก็ หามีไม่ ดังนั้นหลิ่วเจินจึงไปหาพี่ใช่ นางมีปิ่นปักผมอันหนึ่งซึ่ง ได้มาตอนแต่งงาน ถึงแม้ไม่ค่อยมีราคาค่างวดนัก ทว่าก็ดูสวย ดี
พี่ใช่ออกปากชมชอบปิ่นอันนี้มาหลายหน นางจึงขายให้ผู้ อื่นแต่โดยดี เมื่อได้เงินมา 2 ตำลึง ก็เอาเงินที่ได้ไปซื้อเนื้อและ สุรามา ซึ่งเนื้อกับปลาเป็นของที่แทบไม่เคยพบเห็นในบ้านนี้
ยามประกอบอาหารมื้อเที่ยง หญิงสาวเอามือลูบคลำเงินที่เหลือในตัว จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม หญิงสาวรู้สึกถึง ความเปรี้ยวฝาดในจิตใจ บางทีนั่นเป็นเพราะ นางไม่เคยมีชีวิต ที่น่าเช่นนี้มาก่อน
ยามอยู่ในยุคสมัยใหม่ นางเคยเจอความทุกข์ยากลำบาก มามากมาย ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นความหวังในชีวิต ซึ่งดู คล้ายไม่มีที่สิ้นสุด
ยามนี้หลิ่วเจินกล่าวได้เพียงว่า ตนเองโชคดีนักที่เก็บชีวิต กลับคืนมาได้ เช่นนั้น…จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่เถิด
บ้านหลังน้อยไม่ใหญ่โต มีเนื้อที่น้อยกว่า 40 ตารางหมี่ มี การวางเตียงไว้ชิดผนังด้านทิศตะวันออก ข้าง ๆ เตียงมีโต๊ะ กลมเก่า ๆ ๆ เว้าๆแหว่ง ๆ วางอยู่ และก็ไม่พบสิ่งใดอีก ส่วน ฟากตรงข้ามทำเป็นครัว ที่กล่าวว่าเป็นครัว อันที่จริงก็แค่มีเตา อันหนึ่งตั้งอยู่ และเวลาปรุงอาหารจะมีทั้งเขม่าควันทั้งไอน้ำ ลอยฟุ้งออกมา ยามนี้บริเวณนี้ถูกปรับปรุงใหม่แล้ว มีการก่อ ผนังเล็ก ๆ คั่นกลางไว้ ซึ่งทำให้ดูคล้ายมีการแบ่งส่วนแยกเป็น ภายในและภายนอก
สำหรับตรงมุมของผนังบ้านทั้งสี่ด้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ ๆ ลม ชอบทะลุลอดเข้ามาได้นั้น ก็ถูกขัดจนเรียบ อย่างน้อยที่สุดก็ แน่ใจได้ว่าจะไม่หนาวจนแข็งตายในเหมันต์ฤดูแน่ ส่วนพื้นผิว ผนังก็ถูกเช็ดล้างจนขาวขึ้นมาก และดูเหมือนใหม่เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเนื้อที่ในบ้านจะเล็กแสนคับแคบ แต่โชคดีที่เจิน ยังพึงพอใจ
สำหรับลานบ้านเล็ก ๆเช่นนั้น แม้กระทั่งรั้วก็ถูกซ่อมแซมใหม่ให้เชื่อมติดกันอีกครั้ง รั่วทั้งหมดไม่ทรุดโทรมง่อนแง่น และจวนจะพังแหล่มิพังแหล่อย่างแต่ก่อนแล้ว ทั่วทั้งลานเล็ก ๆ เมื่อมองจากด้านนอกเข้ามา แลดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ เรียบร้อยดี ตัวบ้านนั้นยังถูกมุงด้วยกระเบื้องมุงหลังคาอย่าง แน่นหนาเพื่อกันลมเข้า ซึ่งมองดูแล้วคล้ายเกล็ดปลาตามที่เห็น ในบ้านหลังอื่น ๆ
การซ่อมแซมบ้านครั้งนี้ ใช้เวลาสองวันจึงแล้วเสร็จ ช่วง ระหว่างซ่อม พอตกกลางคืนเมื่อถึงเวลาเข้านอน หน้าต่างก็ ต้องเปิดไว้ตลอด เพราะฉะนั้นกล่าวได้ว่า การซ่อมบ้านในฤดู หนาว ช่างทรมาทรกรรมดีแท้
หลิวเจินรู้สึกว่าร่างกายตนเองอึดทนดีไม่เลว เหตุผล ประการหนึ่งก็เพราะ นางคุ้นชินกับความทุกข์ยากมาแต่ไหนแต่ โร
ทว่ากู้หรูเฟิงนั้นต่างออกไป อาศัยความทรงจำที่ไม่ปะติด ปะต่อและจากการสนทนากัน คนผู้นี้คล้ายตระกูลเพิ่งประสบ เคราะห์กรรมมาเพียงไม่นาน ส่วนตัวเขาเองต้องหลบหนีออก มา และระเหเร่ร่อนมาไกลจนถึงสถานที่แห่งนี้
เพราะผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านนี้ เห็นอีกฝ่ายเป็นบัณฑิต จึง ไปเสาะหาบ้านว่างหลังเล็ก ๆ ที่ไม่มีเจ้าของให้เขาอยู่อาศัย เพียงแต่ช่างน่าสงสารนัก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาไม่ทันไร ก็ ถูกหลิ่วเจินผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมถูกตาต้องใจ ตามมาด้วยการ มอมยาจนสลบ แล้วปืนเตียงกู้หรูเฟิง และมีขาวบ้านใน หมู่บ้านมาเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงาน ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว
อนิจจาเพียงผ่านพ้นไปไม่ถึงสองวันครึ่งของช่วงข้าวใหม่ ปลามัน ทั้งสองเริ่มทะเลาะเบาะแว้งกัน นั่นคือ อยู่ในช่วงครึ่ง เดือนที่หลิ่วเจินเดินทางผ่านมาพอดี จนนางได้เข้ามาสวมร่าง ฝ่ายหญิงแทนในที่สุด
ที่บ้านนี้ไม่เลี้ยงสุนัข มีแค่แม่ไก่สองตัวที่ถูกเลี้ยงไว้
ทุก ๆ วันหลิ่วเจินจะคอยเฝ้าดูแม่ไก่สองตัว พร้อมกับ น้ำลายไหลไปด้วย วันนี้หลังออกไปให้
อาหารแม่ไก่มา นางก็ง่วนอยู่กับงานบ้านไปพักใหญ่ ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกว่าวันนี้ไม่เห็นกู้หรูเฟิงเลย
ที่บ้านมีลานหน้าบ้านและหลังบ้าน หลิ่วเจินอยู่ในลาน หน้าบานตลอดเวลา และก็คิดว่า
อีกฝ่ายคงเดินจากไปทางลานหลังบ้าน
หญิงสาวไม่เคยคิดว่าคนผู้นี้จะจากไปอย่างเงียบ ๆเช่นนี้
หลิ่วเจินยืนอยู่ในห้องที่ว่างปล่า หญิงสาวพ่นลมหายใจ ออกมาอย่างขุ่นมัว อันที่จริง แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คนสองคนมี ปฏิสัมพันธ์กันได้ไม่กี่วัน มิตรภาพก็ยังไม่ถึงขั้นลีกซึ้ง หนำซ้ำ
ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้ากันได้ดีไปเสียทั้งหมด การแยกย้ายไปตาม
ทางของตนตั้งแต่เนิ่น ๆ นับว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
(1] เปรียบเปรย ถึงสตรีที่เก่งกาจทั้งงานนอกบ้าน และ
งานในบ้าน