เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน - ตอนที่ 22
22.หาเงินเลี้
จ่ายเงิน 20 ตำลึงเพื่อซื้อหยกพกรี เรื่องนี้ไม่มีใครในหมู่บ้าน กล้าทำหรอก
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการย้ำเตือนหลิ่วเจินว่าสิ่งที่ตนเพิ่ง คิดไปถูกต้องจริง ๆ ทว่าเหล่าบัณฑิตล้วนมีความเย่อหยิ่งทะนง ตน กู้หรูเฟิงจะยอมขายตัวอักษรเขียนของตนแบบถูก ๆ ได้รี? หลังส่งพี่ใช่แล้ว หญิงสาวเกิดลังเลอยู่ชั่วขณะ และในที่สุดก็วิ่ง เข้าไปถาม
กู้หรูเฟิงหาได้มีปฏิกิริยาอันใดเป็นพิเศษ เพียงแค่พยัก ตกลง มิได้ปฏิเสธ และมิได้ยินดีอันใด
หลิ่วเจินสุดแสนยินดีปรีดา นางขอให้เขาเขียนซุนเหลียน และผู้จื้อหลายต่อหลายชุด อย่างไรก็ตาม ถึงมิใช่เพราะมีการ ขายของ เขาก็หาได้เคร่งเครียดอันใดไม่ หนึ่งพู่กัน หนึ่งแถวตัว อักษร เขาป้ายลงไปอย่างมีพลัง และกล่าวได้ว่าช่างลื่นไหลเป็น ธรรมชาติ ดังเมฆเคลื่อนน้ำไหล และตัวอักษรที่เขาเขียนนั้นช่าง งดงามน่าอัศจรรย์ใจนัก
หลังจากขายไปเรียบร้อย สามารถฟันกำไรเบ็ดเสร็จ 2 ตำลึงไม่ขาดไม่เกิน เงินที่นางหาได้ก่อนหน้า มักอยู่ในมือไม่ นาน มักมีเหตุต้องใช้จ่ายออกไปจนหมด ทว่าเงินที่อยู่ในมือ ของตนเองยามนี้ ช่างให้ความรู้สึกจริงเสียยิ่งกว่าจริง
พอนึกอีกที นี่ตนเป็นคนมีเงินเก็บแล้วสินะ
“เงินจำนวนนี้เป็นท่านที่หามาได้” แม้ใจอิดออดไม่อยาก ทาเช่นนี้อยู่นิดหน่อย ทว่าหญิงสาวก็ส่งเงินให้กู้หรูเฟิงแต่โดย ดี เหนืออื่นใด อีกฝ่ายถึงกับต้องยุ่งวุ่นวายไปหนึ่งวัน กว่าจะได้ เงินนี้มา
กู้หรูเฟิงสั่นศีรษะ แล้วพูดเรียบเรื่อย “เงินของบ้านทั้งหมด ล้วนให้ฮูหยินเป็นผู้ดูแล”
หลิ่วเงินคลี่ยิ้มกว้าง หญิงสาวรู้สึกยินดียิ่งนักที่ได้เป็นผู้ เก็บเงิน ครั้นแล้วก็ทำหน้าขัดเขินเล็กน้อย “พวกท่านเหล่า บัณฑิตล้วนทำเหมือนเงินเป็นของไม่สะอาด เลยคิดว่าข้าเป็น พวกเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนใช่หรือไม่ จึงได้ทิ้งเงินที่อยู่ ตรงหน้าไป?”
ชายหนุ่มไม่เคยคิดถึงในแง่นี้มาก่อนเลย เพียงแค่ได้มอง อีกฝ่ายนั่งนับเงินที่ละเหรียญ ๆ ก็รู้สึกว่าดูน่ารักน่าเอ็นดูไม่ น้อยทีเดียว ใบหูของชายหนุ่มเริ่มแดงขึ้นมาเรื่อ ๆ ครั้นแล้ว จึงเสหันหน้าไปอีกทาง ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ข้าโตมา มิใช่เพราะดื่มน้ำค้างจากยอดหญ้าเสียหน่อย ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น จะรู้สึกว่าเงินเป็นของต่ำที่ตรง ไหน? มนุษย์ที่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ จะดำรงตนแบบปวงเทพ ได้อย่างไร?”
หลิ่วเจินซึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะ มือหนึ่งก็ท้าวด้าง ตวงตาก็ทอด มองอีกฝ่าย “อันที่จริงท่านนะ…ดูคล้ายเทพเซียนมากเลยนะ ชายหนุ่มไม่สนใจ พลางยกยิ้มมุมปาก “หากข้าเป็นเทพ เขียนจริง ข้าจะเปลี่ยนเงินสองตำลึงเงิน ให้กลายเป็นสองตำลึงทองให้เจ้า”
หญิงสาวหลุดหัวเราะคิกออกมา มนุษย์ธรรมดาผู้นี้ช่าง
น่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ เลย
ผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ของต่ำของไม่สะอาดไม่ใช่ว่า ไม่ดี เพียงเกรงว่ามนุษย์ที่เป็นอิสระจากของสามัญเช่นนี้ จะไม่ อาจหลีกเลี่ยงทางโลกได้ ตรงกันข้ามกลับชิงชังโลก ก็เพราะ อาหารที่ผู้คนใช้ต่อชีวิตนั้น มีให้กินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็เลย ยิ่งต้องทะเลาะ ต่าทอกัน ฆ่าฟันกัน
เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว พลันได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจาก ด้านนอก
เมื่อสอดสายสายตาออกไป ที่แท้ก็เป็นเซียงเช่านี่เอง เซี ยงเช่าทำหน้าตาไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก บางทีอาจเป็นเพราะ ยังมีความรู้สึกโกรธกรุ่นอยู่ในใจ หลังจากที่มีเรื่องปะทะคารม กันครั้งก่อน
เมื่อหลิ่วเจินเห็นคนผู้นี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นน้อย ๆ แต่ก็มิได้พูด อะไรมาก เหนืออื่นใด นางไม่ใช่พวกที่ชอบหาเรื่องกับเด็กผู้ หญิงตัวเล็ก ๆ เสียหน่อย หญิงสาวขยับตัวเปิดทางให้อีกฝ่าย เดินเข้ามาข้างใน
เชียงเช่าไม่แม้แต่จะหันมามองหลิ่วเจิน เด็กหญิงเอาแต่
จับจ้องกู้หรูเฟิง ด้วยใจนิยมอยู่หน่อย ๆ ทว่าเมื่อนึกย้อนตอน เห็นอีกฝ่ายหมางเมินตนเองเมื่อกระโน้น ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย “ท่านพ่อข้าขอให้ข้ามาที่นี่ ท่านยังมีขุนเหลียนกับฝูจื้อให้บ้านข้าสักชุดหรือไม่?” ว่าแล้วก็วางพวงเหรียญทองแดงลงบนโต๊ะ
กู้หรูเฟิงส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าได้เก็บซุนเหลียงและฝู้จื้อเอา ไว้ให้ผู้ใหญ่บ้านแล้ว คิดจะแวะไปหาและเอาไปส่งให้ด้วยตัว เอง แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะแวะมาเอาให้ ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก เหนืออื่นใด ที่ได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่บ้าน นับว่ามากมายนัก ” ชายหนุ่มหยิบตัวอักษรที่เขียนเก็บไว้ ยื่นส่งให้
ด้วยเหตุนี้เกล่าวได้ว่าเซียงเช่าที่ถือป้ายตัวอักษรอยู่ในมือ ควรไปได้แล้วหลังจากนี้ แต่นางไม่อยากไปเลยจริง ๆ เด็กน้อย จิกซุนเหลียนและฝูจื้อในมือแน่น นางมองหมึกตำบนนั้น ให้ รู้สึกมึนงง ครั้นแล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บช้ำ “ช่างน่าละอาย อะไรเช่นนี้? ท่านพ่อข้าสั่งกำชับ ให้ข้าเอาเงินให้ท่าน หากท่าน ไม่รับไว้ เมื่อกลับไป ข้าก็ไม่อาจรายงานท่านพ่อได้”