เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน - ตอนที่ 32
32.ถูกบังคับ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ลูกสาวนางและนางต้องการตอนนี้ก็คือ ต้องยืนยันให้ได้ว่าเซียงเช่าถูกบังคับขืนใจ และมิได้ไปยั่วยวน ฝ่ายขายก่อน หากรูปการณ์เป็นเช่นนี้ ลูกสาวนางจะได้ไร่ ยางอายน้อยกกว่าหลิ่วเจิน อีกทั้งชื่อเสียงของนางย่อมไม่เสีย หายมากนักเป็นแน่
และหากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมา พวกนางจะแก้ตัวไม่ขึ้น
เลย
“ไม่มีทาง!” มีฟ้าดินเท่านั้นที่รู้ว่าเชียงเช่าของข้าถูกเจ้า บังคับให้สูญเสียความบริสุทธิ์ !” หัวเด็ดตีนขาดภรรยาผู้ใหญ่ บ้านก็ไม่ยอมตกลงด้วย นางสู้อุตส่าห์วางแผนมาเป็นอย่างดี จนมาเจอเซียงเช่าลงมือไม่สำเร็จ แล้วหลิ่วเจินดันเสนอวิธีให้ ตรวจร่างกายขึ้นมา
หลิวเจินยกมือขึ้นกอดอก พลางยกยิ้มมุมปาก ส่วนคนอื่น ๆเห็นแล้วรู้สึกว่าใบหน้านางมืดดำลงไปอีก
“ข้ารี? ข้าอยากได้ความบริสุทธิ์ของเซียงเช่าไปทำซากอัน ใดเล่า? หรือเพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกท่านโยนข้อหาไร้ สาระใส่หัวสามีข้ารี? ข้าไม่เหมือนป้าอย่างท่านหรอกนะ ที่ทำ ตัวชื่อบื้ออ่อนแอให้คนสงสารน่ะ” พอกล่าวจบ ก็หัวเราะห ๆ อย่างเย้ยหยัน
ข้าไม่เหมือนท่านหรอก ที่ทำตัวชื่อบื้ออ่อนแอให้คนสงสาร
“ที่เจ้าพูดมานี่หมายความว่าอะไร? เซียงเช่าเป็นเด็กสาว มีพ่อมีแม่นะ โดนคนมาตรวจร่างกายแบบนี้ ชื่อเสียงภายหน้า จะเป็นอย่างไร! โดนผู้ชายบ้านเจ้าทำลายไปแล้ว แล้วยังโดน เจ้ารังแกอีก อย่าเห็นว่าพอพวกเราใจดีให้พึ่งพา ก็มารังแก พวกเราเช่นนี้!” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านดึงตัวเชียงเช่ามาไว้ข้างหลัง นาง ด้วยกลัวว่าหลิ่วเจนจะมาบังคับลากตัวเซียงเช่าไปตรวจ ร่างกาย
หลิ่วรู้สึกข่ามาก นี่แสดงว่ากำลังกลัวโดนเปิดโปงใช่หรือ ไม่? แล้วไม่กลัวว่าหากกู้หรูเฟิงทนรับข้อกล่าวหานี้ไม่ได้แล้วฆ่า ตัวตายขึ้นมา จะไม่มาตามหลอกหลอนพวกท่านทุกคืนรี?
หลิ่วเจินทอดมองเซียงเช่าซึ่งกำลังถูกภรรยาผู้ใหญ่บังตัว ไว้ แถมตอนอยู่ด้านหลังนาง เซียงเช่ายังตัวสั่นด้วยความหนาว เหน็บ หญิงสาวนึกในใจ “ช่างน่าสงสารจริง ๆ ยืนอยู่ที่นี่ โดย สวมเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้นและเฝ้ามองดูมารดาตัวเอง พร่ำพูดว่า ตัวเองถูกขึ้นใจ จุดหลักก็เพราะกระทั่งโอกาสพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ก็ยังมีไม่ได้ หากข้าไม่ช่วยเจ้า สวรรค์ก็คงไม่ยอมปล่อย เจ้าไปอยู่ดี
“รังแกรี? ดูเหมือนว่าป้ากำลังรังแกสามีข้าและข้ามากกว่า นะ ไม่ถูกต้องเลย มาพูดเหมาว่าสามีข้าครอบครองลูกสาวท่าน ซ้ำยังไม่ให้หลักฐานใด ๆ บนเตียงรีก็สะอาดสะอ้าน และไม่มี คราบสีแดงทิ้งไว้เลย เชียงเช่าไม่ได้บอกว่าตัวนางโดนเขา ครอบครองรี ทว่าเตียงที่สามีข้านอนไม่มีรอยแต้มสีแดงเลยสัก นิต ข้าเกรงว่าไม่ใช่ว่านางโดนคนอื่นครอบครอง แล้วมาใส่ความสามีข้า ส่วนตัวนางเองก็บอกความจริงกับใครไม่ได้นะ” หลิ่วเจินพูดเป็นนัย ๆ
ทุก ๆคนต่างมองภรรยาผู้ใหญ่บ้านและเซียงเช่าเป็นตา เดียว เพื่อดูว่าพวกเขาสองแม่ลูกจะโต้กลับอย่างไร ดวง ของพวกเขาเต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนา ความอยาก ซุบซิบนินทาจุดติดแล้ว
“เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร! เชียงเช่าเป็นสาวผุดผ่องประหนึ่งหยกชั้นดีมาตลอด หากมีสิ่งไม่ดีไม่ร้องตะโกนให้คนช่วยได้อย่างไร! อื่นที่ชอบก่อความหายนะเช่นนั้นแน่! ไม่ใช่ว่าทุกคนในต่างก็เห็นเซียงเช่าเติบโตมารี? เซียงเช่าเป็นเด็กจิตใจดี และไม่ เคยทำร้ายใคร ๆเลย” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านแสร้งทำเป็นพูดไป เช็ดน้ำตาไป
ช่างดูน่าเวทนาอะไรเช่นนี้ ชาวบ้านแต่ละคนต่างลังเลสอง
จิตสองใจ
แหมพอโดนตอกกลับเข้าหน่อย ก็ทำท่าบีบน้ำตาเสียแล้ว ทำแค่นี้ก็ดูน่าสงสารแล้วรี? พอนางเอาความจริงอีกเรื่องขึ้นมา พูด เลยทำให้เรื่องนี้ดูคล้ายไม่โกหกไปเลย
เจินจึงย่างเท้าเดินเข้าไปด้านในทันที
ในห้องนอนยามนี้ เย็นเยือกไปทั้งห้องแล้ว ไม่มีร่องรอย หรือกลิ่นคาวความใคร่หลังเหตุการณ์อย่างว่าเลย
เจินสาวเท้าไปและย่างเท้าไปข้างหน้าอีกสองก้าว เพื่อดึงผ้าปูที่นอนบนเตียงขึ้นมา จากนั้นก็เดินออกมา จากห้อง แล้วเหวี่ยงผ้าปูที่นอนลงบนพื้น
“ลองหาดูสิว่ามีร่องรอยอะไรบ้างไหม หากเจอก็จำเอาไว้ ด้วย กินแต่ข้าวไม่กินกับเช่นนี้ ก็อย่าเอามาใช้กล่าวหาผู้อื่นมั่ว ชั่วสิ ” หลิ่วเจินเหลือบมองผ้าปูเตียงบนพื้นแวบหนึ่ง ครั้นแล้ว ก็หัวเราะ เที่ยวกล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้ความเป็นธรรม ธาตุแท้ก็ ไม่ต่างอะไรกับพวกอันธพาลนักหรอก
ภรรยาเสี่ยวซานเดินเข้าไปตรวจดูผ้าปูเตียง นางตรวจดู อย่างละเอียดแทบทุกตารางนิ้ว ทว่าก็ไม่พบแต้มสีแดง ใด ๆ ผ้า ปูเตียงนั้นสะอาดสะอ้าน มีเพียงรอยพับไม่กี่รอย รวมถึงรอย เปื้อนจากหิมะบางส่วนเท่านั้น