เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน - ตอนที่ 49
49.หาเครื่องม.
ลงท้ายหลิ่วเจินก็กินเข้าไปอยู่ดี หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล อย่างมากสุดคงมีกองทหารออกมาขัดขวางยายเฒ่าให้นาง
กระมัง
คราวนี้อีกฝ่ายไม่มีทีท่าอย่างที่หลิ่วเจินคิดไว้
หนานเองก็ไม่ได้พูดอะไร
แม่เฒ่า
หลิวเจินออกจากบ้านแม่เฒ่าหนานไปด้วยความโล่งใจ เมื่อกลับไปถึงบ้าน ก็เห็นกู้หรูเฟิงนั่งหลับพิงกำแพงห้องอยู่
ไม่มีสิ่งได้คลุมกายชายหนุ่ม เมื่อเห็นแวบแรกหญิงสาวก็รู้ ว่าอีกฝ่ายคงหนาวอย่างไม่ต้องสงสัย
หลิ่วเจินนำผ้าห่มมาห่มให้กู้หรูเฟิง
ยามปล่อยมือจากผ้าห่ม กู้หรูเฟิงก็ปรือตาขึ้นนิด ๆ แล้ว
ตื่นขึ้น
สายตาของคนทั้งคู่ประสานกัน และต่างฝ่ายต่างเงียบงัน กันเป็นนาน หลิ่วเจินลุกขึ้นกลับมายืนตรง “ท่านนอนไปอีกพัก หนึ่งเถิด” ใบหน้าหลิ่วเจินเห่อร้อนนิด ๆ ขณะขยับตัวออกท่าง จากกู้หรูเฟิง
“ขอบคุณ” กู้หรูเฟิงเอ่ย นอกจากกล่าวขอบคุณแล้ว เขา ยังจะพูดอะไรอื่นได้อีกเล่า?
กู้หรูเฟิงเฝ้ามองหลิ่วเจินเดินออกไปอีกครั้ง มือของชาย 49.หาเครื่องม.
ลงท้ายหลิ่วเจินก็กินเข้าไปอยู่ดี หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล อย่างมากสุดคงมีกองทหารออกมาขัดขวางยายเฒ่าให้นาง
กระมัง
คราวนี้อีกฝ่ายไม่มีทีท่าอย่างที่หลิ่วเจินคิดไว้
หนานเองก็ไม่ได้พูดอะไร
แม่เฒ่า
หลิวเจินออกจากบ้านแม่เฒ่าหนานไปด้วยความโล่งใจ เมื่อกลับไปถึงบ้าน ก็เห็นกู้หรูเฟิงนั่งหลับพิงกำแพงห้องอยู่
ไม่มีสิ่งได้คลุมกายชายหนุ่ม เมื่อเห็นแวบแรกหญิงสาวก็รู้ ว่าอีกฝ่ายคงหนาวอย่างไม่ต้องสงสัย
หลิ่วเจินนำผ้าห่มมาห่มให้กู้หรูเฟิง
ยามปล่อยมือจากผ้าห่ม กู้หรูเฟิงก็ปรือตาขึ้นนิด ๆ แล้ว
ตื่นขึ้น
สายตาของคนทั้งคู่ประสานกัน และต่างฝ่ายต่างเงียบงัน กันเป็นนาน หลิ่วเจินลุกขึ้นกลับมายืนตรง “ท่านนอนไปอีกพัก หนึ่งเถิด” ใบหน้าหลิ่วเจินเห่อร้อนนิด ๆ ขณะขยับตัวออกท่าง จากกู้หรูเฟิง
“ขอบคุณ” กู้หรูเฟิงเอ่ย นอกจากกล่าวขอบคุณแล้ว เขา ยังจะพูดอะไรอื่นได้อีกเล่า?
กู้หรูเฟิงเฝ้ามองหลิ่วเจินเดินออกไปอีกครั้ง มือของชาย หนุ่มจับผ้าห่มที่หลิ่วเจินห่มให้เขา ริมฝีปากระบายยิ้มบาง ไม่รู้
ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากออกมาจากเรือน หลิ่วเจินนิ่วหน้าน้อย ๆ หัวใจ
หญิงสาวพลันเต้นกระหน่ำทันใด นางรู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัด และรู้สึกหายใจไม่ค่อยจะคล่อง ไม่ใคร่สบายตัวเท่าใดนัก
หลังเห็นว่าร่างกายตนสงบลงดีแล้ว หญิงสาวจึงนั่งลงขยับ
ทำงานต่อ
นางจำได้ว่าเมื่อตอนขึ้นเขานั้น ระหว่างทางนางพบโพรง
เล็ก ๆ ซึ่งน่าจะลองเอามาปรับเปลี่ยนได้ หญิงสาวคุ้นเคยกับ เส้นทางขึ้นเขาดี หากทำความเร็วเพียงพอ นางสามารถเดินไป กลับได้สามถึงสี่เที่ยวสบาย ๆ แบบนี้ก็สามารถขนของกลับมา ได้มากมายแล้ว
ทว่ามันจะเป็นอันตรายหรือไม่นะ หากโพรงนั้นมีงูหรือตัว อะไรอยู่? หลิ่วเจินคิดว่า ไม่ว่าผลเป็นอย่างไร นางก็ควรเตรียม ความพร้อมไว้ทุกทาง
และถ้าหากมันปลอดภัยและไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ในนั้น เช่นนั้นแล้วก็หาหญ้าและของที่ใช้ได้มาวางสุมพรางตา ไว้ เท่านี้ก็สามารถใช้เป็นที่เก็บของได้ชั่วคราว โดยไม่ต้อง กลัวว่าจะมีคนมาพบ
เช่นนั้นแล้วนางต้องเตรียมตะกร้าหรือเข่งใบใหญ่ขึ้นสัก
หน่อย
หลิ่วเงินยืนขึ้น เตรียมเข้าไปในเรือนเพื่อดูว่ามีเช่งหรือ หนุ่มจับผ้าห่มที่หลิ่วเจินห่มให้เขา ริมฝีปากระบายยิ้มบาง ไม่รู้
ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากออกมาจากเรือน หลิ่วเจินนิ่วหน้าน้อย ๆ หัวใจ
หญิงสาวพลันเต้นกระหน่ำทันใด นางรู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัด และรู้สึกหายใจไม่ค่อยจะคล่อง ไม่ใคร่สบายตัวเท่าใดนัก
หลังเห็นว่าร่างกายตนสงบลงดีแล้ว หญิงสาวจึงนั่งลงขยับ
ทำงานต่อ
นางจำได้ว่าเมื่อตอนขึ้นเขานั้น ระหว่างทางนางพบโพรง
เล็ก ๆ ซึ่งน่าจะลองเอามาปรับเปลี่ยนได้ หญิงสาวคุ้นเคยกับ เส้นทางขึ้นเขาดี หากทำความเร็วเพียงพอ นางสามารถเดินไป กลับได้สามถึงสี่เที่ยวสบาย ๆ แบบนี้ก็สามารถขนของกลับมา ได้มากมายแล้ว
ทว่ามันจะเป็นอันตรายหรือไม่นะ หากโพรงนั้นมีงูหรือตัว อะไรอยู่? หลิ่วเจินคิดว่า ไม่ว่าผลเป็นอย่างไร นางก็ควรเตรียม ความพร้อมไว้ทุกทาง
และถ้าหากมันปลอดภัยและไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ในนั้น เช่นนั้นแล้วก็หาหญ้าและของที่ใช้ได้มาวางสุมพรางตา ไว้ เท่านี้ก็สามารถใช้เป็นที่เก็บของได้ชั่วคราว โดยไม่ต้อง กลัวว่าจะมีคนมาพบ
เช่นนั้นแล้วนางต้องเตรียมตะกร้าหรือเข่งใบใหญ่ขึ้นสัก
หน่อย
หลิ่วเงินยืนขึ้น เตรียมเข้าไปในเรือนเพื่อดูว่ามีเช่งหรือ ของอื่น ๆ ที่จุได้มากกว่าเดิมหรือไม่ จะอย่างไร ก็ขอให้ใหญ่พอ แข็งแรงพอ สามารถบรรทุกของได้ ก็นับว่าใช้ได้แล้ว กู้หรูเฟิงเฝ้ามองหลิ่วเจินเดินเข้า ๆ ออก ๆ เที่ยวมองหา
ของอะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปถามอีกฝ่ายตรง ๆ
“ทำอันใดอยู่รี?”
ยามนี้ หลิ่วเจินกำลังพลิกหาข้าวของที่กองสุมตรงมุมห้อง และไม่อาจหาเข่งใส่ของที่มีขนาดตามต้องการพบ ดังนั้นนาง จึงอยากหาเครื่องมือมาปรับปรุงเข่งสะพายหลังใบเดิม หรือ ของที่คล้าย ๆ กัน
หลิ่วเจินสะดุ้งตกใจเมื่อโดนกู้หรูเฟิงถาม หญิงสาวไม่ ได้ยินเสียงฝีเท้าชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาเลย จู่ ๆ ก็มีคนพูดขึ้น ใกล้ ๆ จะไม่ตกใจได้หรือ?
“เฮ้ย! ท่านนี่จริง ๆเลย…เดินมาก็ไม่รู้จักให้สุ้มให้เสียง!” หลิ่วเจินหลุดปากออกมาด้วยความตกใจ
กู้หรูเฟิงเห็นว่าเขาทำหลิ่วเงินสะดุ้งตกใจ ก็ให้รู้สึกสียใจ นัก ชายหนุ่มมองหลิ่วเจินอย่างขออภัย เขาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แต่ไม่นึกว่าหลิ่วเจินจะขวัญอ่อนปานนี้
“เจ้ากำลังมองหาอันใดอยู่รี?” กู้หรูเฟิงถาม
เขาไม่อาจตามอีกฝ่ายขึ้นเขาได้ แต่เมื่อเห็นหลิ่วเจินกำลัง ยุ่งวุ่นวายทำสิ่งเหล่านี้ บางทีเขาอาจช่วยเร่งงานให้เร็วขึ้นบ้าง หลิวเจินยังคงนั่งยอง ๆมองหาของอยู่ “หากสามารถยึด
เข่งใบเล็กสองใบเข้าด้วยกัน แล้วสามารถแบกไปง่าย ๆ ซ้ำยัง ของอื่น ๆ ที่จุได้มากกว่าเดิมหรือไม่ จะอย่างไร ก็ขอให้ใหญ่พอ แข็งแรงพอ สามารถบรรทุกของได้ ก็นับว่าใช้ได้แล้ว กู้หรูเฟิงเฝ้ามองหลิ่วเจินเดินเข้า ๆ ออก ๆ เที่ยวมองหา
ของอะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปถามอีกฝ่ายตรง ๆ
“ทำอันใดอยู่รี?”
ยามนี้ หลิ่วเจินกำลังพลิกหาข้าวของที่กองสุมตรงมุมห้อง และไม่อาจหาเข่งใส่ของที่มีขนาดตามต้องการพบ ดังนั้นนาง จึงอยากหาเครื่องมือมาปรับปรุงเข่งสะพายหลังใบเดิม หรือ ของที่คล้าย ๆ กัน
หลิ่วเจินสะดุ้งตกใจเมื่อโดนกู้หรูเฟิงถาม หญิงสาวไม่ ได้ยินเสียงฝีเท้าชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาเลย จู่ ๆ ก็มีคนพูดขึ้น ใกล้ ๆ จะไม่ตกใจได้หรือ?
“เฮ้ย! ท่านนี่จริง ๆเลย…เดินมาก็ไม่รู้จักให้สุ้มให้เสียง!” หลิ่วเจินหลุดปากออกมาด้วยความตกใจ
กู้หรูเฟิงเห็นว่าเขาทำหลิ่วเงินสะดุ้งตกใจ ก็ให้รู้สึกสียใจ นัก ชายหนุ่มมองหลิ่วเจินอย่างขออภัย เขาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แต่ไม่นึกว่าหลิ่วเจินจะขวัญอ่อนปานนี้
“เจ้ากำลังมองหาอันใดอยู่รี?” กู้หรูเฟิงถาม
เขาไม่อาจตามอีกฝ่ายขึ้นเขาได้ แต่เมื่อเห็นหลิ่วเจินกำลัง ยุ่งวุ่นวายทำสิ่งเหล่านี้ บางทีเขาอาจช่วยเร่งงานให้เร็วขึ้นบ้าง หลิวเจินยังคงนั่งยอง ๆมองหาของอยู่ “หากสามารถยึด
เข่งใบเล็กสองใบเข้าด้วยกัน แล้วสามารถแบกไปง่าย ๆ ซ้ำยัง สามารถถอดวางไว้ได้โดยไม่โดนใครพบ รวมทั้งมีน้ำหนักเบา ลงสามารถแบกได้ง่ายขึ้นก็นับว่าดี”
กู้หรูเฟิงเปล่งเสียงในลำคอ “อึม” และแล้วก็มองไปที่ข้าว ของที่หลิ่วเจินนำออกมา สมองเขาหมุนติ้วไม่หยุด กำลังคิดหา วิธีทำเข่งที่มีคุณสมบัติตรงตามที่หลิ่วเจินต้องการ
หลิ่วเจินลองหยิบจับข้าวของทุกชนิด พลิกขึ้นพลิกลงทุก รูปแบบ และในที่สุดหลังใช้เวลาเป็นนาน หญิงสาวก็นั่งบน เก้าอี้ และมองกองข้าวของระเกะระกะบนพื้น ทันใดนั้นก็คิดว่า มิสู้ละทิ้งแนวคิดดั้งเดิมไปน่าจะดีกว่ากระมัง
จะสร้างอะไรสักที ก็ช่างยากลำบากจริง ๆ แถมยังไม่มี เครื่องมือที่ทันสมัย หากมีสักหน่อย อยากจะทำของใช้ให้ใหญ่ ให้เล็กแค่ไหน ให้แข็งแรงปานใด ก็สามารถทำได้ตามใจนึก ช่างสะดวกสบายเป็นที่สุด สรุปสั้น ๆ แค่จะมีใช้ก็ยังเป็นไปไม่ ได้ นางคงได้แต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ สามารถถอดวางไว้ได้โดยไม่โดนใครพบ รวมทั้งมีน้ำหนักเบา ลงสามารถแบกได้ง่ายขึ้นก็นับว่าดี”
กู้หรูเฟิงเปล่งเสียงในลำคอ “อึม” และแล้วก็มองไปที่ข้าว ของที่หลิ่วเจินนำออกมา สมองเขาหมุนติ้วไม่หยุด กำลังคิดหา วิธีทำเข่งที่มีคุณสมบัติตรงตามที่หลิ่วเจินต้องการ
หลิ่วเจินลองหยิบจับข้าวของทุกชนิด พลิกขึ้นพลิกลงทุก รูปแบบ และในที่สุดหลังใช้เวลาเป็นนาน หญิงสาวก็นั่งบน เก้าอี้ และมองกองข้าวของระเกะระกะบนพื้น ทันใดนั้นก็คิดว่า มิสู้ละทิ้งแนวคิดดั้งเดิมไปน่าจะดีกว่ากระมัง
จะสร้างอะไรสักที ก็ช่างยากลำบากจริง ๆ แถมยังไม่มี เครื่องมือที่ทันสมัย หากมีสักหน่อย อยากจะทำของใช้ให้ใหญ่ ให้เล็กแค่ไหน ให้แข็งแรงปานใด ก็สามารถทำได้ตามใจนึก ช่างสะดวกสบายเป็นที่สุด สรุปสั้น ๆ แค่จะมีใช้ก็ยังเป็นไปไม่ ได้ นางคงได้แต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ