เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 100
ที่บ้านตระกูลหลิน
หลินลี่นั่งดูเทปรายการในช่วงที่หลินเช่อขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับรางวัลแล้วก็โกรธจนหน้าเขียว
แสงสปอตไลต์คอยตามติดขณะที่หลินเช่อก้าวลงจากเวที หล่อนถูกแวดล้อมด้วยผู้คนมากมายที่เข้ามาแสดงความยินดี นักข่าวมะรุมมะตุ้มกันเข้ามาสัมภาษณ์จนหญิงสาวดูเปล่งประกายอย่างน่าภาคภูมิ
หลินลี่หงุดหงิดเสียจนต้องกระแทกถ้วยชาในมือลง
“นังหลินเช่อมันได้รางวัลจริงๆ ด้วย! ”
หันไฉ่อิงเฝ้าดูพลางพยายามปลอบใจหลินลี่ “เอาเถอะ ตอนนี้มันมีกู้จิ้งเจ๋อคอยอยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่าอะไรๆ ก็ต้องไม่เหมือนเดิมแล้ว รอจนกว่าลูกจะได้แต่งงานเข้าตระกูลฉินก่อนน่า แล้วลูกก็จะได้อะไรแบบนี้เหมือนกัน”
หลินลี่กัดฟันแน่น พยายามที่จะเชื่อในสิ่งที่มารดาพูด แต่ถึงกระนั้นระหว่างตระกูลฉินและตระกูลกู้นั้นก็ยังมีบางอย่างที่แตกต่างกันอย่างลิบลับ ยิ่งคิดหลินลี่ก็ยิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีก
ในขณะเดียวกัน…
กู้จิ้งเจ๋อพาหลินเช่อมาที่ภัตตาคารหรูจนหญิงสาวต้องร้องเสียงหลง “ว้าว! ดูท่าทางจะเป็นร้านแพงทีเดียวนะคะ นี่คุณจะให้ฉันเลี้ยงจริงๆ น่ะเหรอ”
ชายหนุ่มมองหน้า “วันนี้เธออุตส่าห์ชนะรางวัลนี่ เพราะงั้นเธอก็ควรเป็นฝ่ายเลี้ยงฉันไม่ใช่รึ”
หลินเช่อทำปากยื่น “ก็ฉันไม่คิดว่าคุณจะเลือกร้านแพงขนาดนี้นี่นา”
ที่นี่เป็นภัตตาคารอาหารจีนที่ไม่ว่าใครที่ได้เห็นจากด้านนอกต่างก็เชื่อกันว่านี่เป็นภัตตาคารระดับสุดหรูอย่างแน่นอน
ทางเข้านั้นได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม แลเห็นลูกค้าเพียงไม่กี่คนที่อยู่ภายใน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีห้องรับประทานอาหารส่วนตัวเสียด้วยสิ แต่ละห้องมีชื่อที่สลักด้วยตัวอักษรงดงามเอาไว้ เมื่อพนักงานเห็นสองหนุ่มสาวเดินเข้ามา พวกเขาก็รีบโค้งคำนับเพื่อทักทายอย่างสุภาพ รอยยิ้มของพวกเธอดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าก็ได้รับการตกแต่งเอาไว้ให้ดูสวยสบายตา แน่ใจได้เลยว่าทุกคนจะต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น
“คุณกู้ครับ เอาเป็นห้องเดิมใช่ไหมครับ เราเก็บห้องนี้ไว้ให้คุณเสมอ”
“ได้เลย”
กู้จิ้งเจ๋อพาหลินเช่อเข้าไปด้านใน ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเขาก็อธิบายว่า “อาหารที่นี่อร่อยมาก ขอแค่เธอได้ลองสักครั้งก็จะรู้เอง พวกเขาปรุงได้เหมือนอาหารโฮมเมดมากๆ ”
หลินเช่อย้อนว่า “ถ้าคุณอยากกินอาหารที่เหมือนกับกินที่บ้านขนาดนั้นแล้วเราจะมาที่แพงๆ แบบนี้ทำไมกันละคะ ทำไมเราไม่กลับบ้านกัน แล้วฉันจะได้ทำอาหารให้คุณกิน”
คนฟังทำหน้าเหยียดหยาม “ถ้าปล่อยให้คนซื่อบื้ออย่างเธอทำอาหารให้ฉันกิน เราคงลงเอยด้วยการนั่งกินเศษอาหารแน่ๆ ”
“ไม่มีทาง…ครั้งล่าสุดนั่นมันเป็นอุบัติเหตุต่างหากละคะ”
กู้จิ้งเจ๋อไม่ยอมเชื่อ เขาอุตส่าห์พาเธอมาถึงที่พิเศษขนาดนี้แต่เธอกลับดูไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่อินังขังขอบกับอะไรเอาซะเลย
“ฉันมาที่นี่บ่อยมาก อาหารเขาอร่อย เดี๋ยวเธอลองกินก็รู้เองนั่นแหละ”
เขาอยากให้เธอชอบที่นี่ด้วย ในใจแล้ว เขาอยากจะให้เธอชอบทุกอย่างที่เขาทำ
ในตอนแรกเขาคิดถึงอาหารอร่อยของที่นี่และก็อยากจะให้เธอลองได้กินบ้าง แต่เธอกลับเอาแต่บ่นเรื่องความแพงของภัตตาคารอยู่นั่น
กู้จิ้งเจ๋อรับผิดชอบในการเลือกสั่งอาหารเพราะเขาคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าและรู้ดีว่าอะไรเป็นจานเด็ด
เขาสั่งอาหารขึ้นชื่อมาแทบทั้งหมด หลินเช่อแทบจะได้ยินเสียงกระเป๋าสตางค์เธอร่ำไห้และหัวใจที่กำลังหลั่งเลือด เพราะมันน่าจะแพงระยับเลยทีเดียว
เพียงครู่เดียวอาหารก็มาถึง
หลินเช่อก้มลงดู มันดูน่ากินเป็นที่สุด
“ลองสิ” กู้จิ้งเจ๋อขยับตัวแช่มช้าด้วยท่าทางละเอียดงดงามราวกับแมวเปอร์เซีย
แต่ฝ่ายหลินเช่อนั้นไม่ได้สนใจมารยาทบนโต๊ะอาหารใดๆ เธอตักมาและส่งอาหารเข้าปากในทันที
มันอร่อยสุดยอดไปเลยจริงๆ
เธอเริ่มกินคำใหญ่ขึ้น กระดกเครื่องดื่มลงคอ รับประทานอาหารอย่างสุขสำราญใจ
กู้จิ้งเจ๋อถึงกับต้องเตือนเบาๆ “กินช้าๆ หน่อยก็ได้”
หลินเช่อตอบ “ก็กินคำใหญ่ๆ มันอร่อยกว่านี่คะ”
ชายหนุ่มส่ายหัว “กินแบบนี้ไม่ดีกับกระเพาะนะ”
หลินเช่อว่า “เรากินเพื่อรสชาติอาหารค่ะ ถ้าจะให้กินเพื่อถนอมกระเพาะ เห็นทีเราคงต้องกินแค่โจ๊กกันทุกวันแน่ๆ ”
“นี่เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรไร้สาระออกมาน่ะ” กู้จิ้งเจ๋อจ้องหน้าอีกฝ่าย
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้เห็นเธอรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยแบบนี้ กู้จิ้งเจ๋อก็รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จทีเดียว ราวกับว่าเขาได้รับการอนุมัติเห็นชอบแล้วในสิ่งที่เขาเห็นว่าดี
ด้วยเหตุนี้เขาจึงนั่งมองเธอกินด้วยความรื่นรมย์
“ช้าๆ สิ เห็นมั้ย ตอนนี้อาหารเลอะปากไปหมดแล้ว” เขาเอื้อมมือออกไปเช็ดมุมปากให้เธอ
“เดี๋ยวฉันกินเสร็จก็ไปล้างเองแหละน่า เอ้า คุณก็กินด้วยสิคะ ฉันยังไม่เห็นคุณขยับเลย” หลินเช่อพูดทั้งที่อาหารเต็มปากนั่นเอง
ขณะเดียวกันที่ด้านนอกนั้นเอง
โม่ฮุ่ยหลิงเดินเข้ามาในภัตตาคารพร้อมกับบรรดาเพื่อนสนิท
ผู้คนรอบตัวโม่ฮุ่ยหลิงต่างก็พากันอิจฉาเธอ เธอสนิทสนมใกล้ชิดกับตระกูลกู้มาตั้งแต่เด็ก และทุกคนก็รู้ดีว่ากู้จิ้งเจ๋อคือคนรักของเธอมาโดยตลอด
พวกเธอมักได้ยินโม่ฮุ่ยหลิงโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ ทำได้แต่เพียงคอยอิจฉาเธอต่อไปเท่านั้น โม่ฮุ่ยหลิงจึงเป็นศูนย์กลางความสนใจตั้งแต่เด็ก และในฐานะหวานใจวัยเด็กของกู้จิ้งเจ๋อ ทำให้ไม่เคยมีใครที่จะสามารถแทนที่เธอในตำแหน่งนี้ได้
แม้กระทั่งตอนนี้ที่ถึงแม้กู้จิ้งเจ๋อจะแต่งงานไปแล้ว แต่ก็เป็นเพียงการแต่งงานแบบลับๆ เท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ อีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้จัดพิธีแต่งงานอะไรด้วย จึงไม่มีใครล่วงรู้เลยว่ากู้จิ้งเจ๋อมีผู้หญิงอีกคนอยู่ข้างกาย
“ฮุ่ยหลิง ที่นี่แพงออกจะตาย เรามากินที่นี่ทีไรเธอก็เลี้ยงพวกเราทุกที ฉันรู้สึกไม่ดีเลยจ้ะ” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
โม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจปกปิดความภาคภูมิในน้ำเสียงเอาไว้ได้ เธอพูดอย่างใจกว้างว่า “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ที่นี่มีห้องประจำของกู้จิ้งเจ๋อที่ร้านสำรองเอาไว้ให้เขาเสมอ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดกู้จิ้งเจ๋อเขาเป็นคนจ่ายให้เองน่ะ”
“จริงเหรอ กู้จิ้งเจ๋อใจดีถึงขนาดที่ยอมให้เธอใช้ห้องส่วนตัวของเขาเชียวเหรอจ๊ะนี่”
“แค่นี้สำหรับเขาน่ะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเองจ้ะ” โม่ฮุ่ยหลิงพูดพลางเดินไปบนรองเท้าส้นสูงของเธอ
คนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังพากันผสมโรงแสดงความเห็น “ก็จริงนะ สำหรับตระกูลกู้แล้ว เงินแค่นี้ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็หาคืนมาได้แล้วละ ฮุ่ยหลิง ฉันละอิจฉาเธอจริงจริ๊ง”
โม่ฮุ่ยหลิงเชิดหน้าอย่างภูมิใจ
พนักงานจำโม่ฮุ่ยหลิงได้ในทันที เธอมาที่บ่อยเสียจนทุกคนจำได้
เมื่อเห็นหญิงสาวเข้า พนักงานก็รีบทักทาย “คุณหนูโม่”
โม่ฮุ่ยหลิงออกคำสั่งทันที “ห้องเดิมนะ วันนี้มากันสี่คน”
เธอพูดพลางทำท่าจะออกเดินไปที่ห้องดังกล่าว
ทว่าพนักงานสาวรีบรั้งเธอไว้เสียก่อน พลางมองเข้าไปในห้องอย่างเป็นกังวลและหันมาบอกอายๆ ว่า “ขอโทษทีนะคะคุณหนูโม่ แต่…คุณกู้กำลังใช้ห้องนี้อยู่ในคืนนี้น่ะค่ะ”
“อะไรนะ” โม่ฮุ่ยหลิงถาม “จิ้งเจ๋ออยู่ที่นี่เหรอ งั้นฉันจะเข้าไปหาเขา”
พนักงานสาวรีบห้ามอีก “แต่…คุณกู้มีแขกนะคะ”
โม่ฮุ่ยหลิงหน้าเสีย
บรรดาเพื่อนสาวรู้สึกได้โม่ฮุ่ยหลิงกำลังเสียหน้าจึงพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น “งั้นเราก็ไปใช้ห้องอื่นกันเถอะนะ จะห้องไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ บางทีพวกเขาอาจจะมาคุยธุรกิจกันก็ได้นะจ๊ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงทำได้เพียงฝืนยิ้มออกมาอย่างแห้งแล้งและยอมตามเพื่อนๆ ไปที่ห้องรับประทานอาหารอีกห้อง
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังอดจ้องมองเข้าไปในห้องดังกล่าวด้วยสายตาใคร่รู้ไม่ได้