เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 197
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก สูดเอากลิ่นกายของเธอเข้าไปจนเต็มปอด เขาสูดลมหายใจโดยแรง แต่ไม่ว่าจะพยายามสูดเข้าไปมากแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ เพราะเมื่อมองลงมายังร่างบอบบางที่อยู่เบื้องล่าง เขาก็ยังอยากจะจัดการกับเธอให้สมใจอยากอยู่ดี
หลินเช่อสับสนอย่างหนัก
เธอยกมือขึ้นปิดหน้า และพยายายามมองลอดนิ้วมือออกมาดูร่างใหญ่ที่อยู่เหนือร่างเธอ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใกล้จะตายด้วยแรงมือเขาในอีกไม่ช้านี้แล้ว
หญิงสาวหวาดผวา เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดที่เธอมาไม่เพียงพอที่จะรับมือกับเขาได้หรอก ถ้าเขาไม่เปิดโอกาสให้ ก็ไม่มีทางเลยที่เธอจะหนีรอดไปได้
ตอนนี้กู้จิ้งเจ๋อเหมือนจะสูญสิ้นสำนึกใดๆ ไปจนหมดแล้ว หนำซ้ำยังมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การต่อต้านขัดขืนใดๆ ของหลินเช่อมีแต่จะจมหายไปอยู่ใต้ร่างใหญ่นั้นจนหมด
หลินเช่อนึกไปถึงการที่จะต้องถูกเขาทรมานอีกครั้ง
เมื่อครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น เธอไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวและเจ็บปวดในหัวใจขนาดนี้
ทั้งหมดนี้เพราะโม่ฮุ่ยหลิงเป็นต้นเหตุ แต่หล่อนกลับไม่ได้ต้องกลายเป็นเหยื่อในตอนท้าย
ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!
“กู้จิ้งเจ๋อ คุณ…ถ้าคุณจำเป็นจะต้องทำแบบนี้ ทำไมถึงไม่ไปทำกับโม่ฮุ่ยหลิงล่ะ ทำไมต้องมาลงกับฉันแบบนี้ด้วย!” หลินเช่อร้องตะโกนอย่างคับข้องใจแม้จะรู้ดีว่ากู้จิ้งเจ๋อคงไม่สนใจฟังอยู่ดี เธอรู้สึกว่า ตอนนี้สติทั้งหมดกู้จิ้งเจ๋อถูกครอบงำด้วยอารมณ์ปรารถนาจนหมดสิ้นและไม่แยแสสิ่งใดอื่นอีกแล้ว
ทว่า ชายหนุ่มได้ยิน และเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ดวงตาของเขาแดงก่ำยามที่จ้องมองมาที่เธอ
แม้จะเกิดขึ้นเพียงครู่เดียว แต่ผิวขาวเนียนของหลินเช่อก็ปรากฏร่องรอยฟกช้ำทั่วไปหมด ร่องรอยจากแรงมือและแรงปากของเขาที่ทิ้งเอาบนตัวเธอ
ร่างบอบบางนั้นยับเยินไปหมดด้วยน้ำมือของเขาเอง
หัวใจของชายหนุ่มปวดหนึบ เขามองหน้าหลินเช่อก่อนจะหลับตาลง
เขารู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นอันหนักหน่วงที่ถูกส่งขึ้นมาเป็นระลอกจนแทบจะครอบงำเขาเอาไว้ ชายหนุ่มหลับตา และผลักหลินเช่อออกไป
“ออกไป ออกไปซะ!” เขาตวาดใส่เธอ
เขาผลักเธอออกไป แล้วกระโดดลงจากเตียงก่อนจะเดินโครมครามเข้าไปในห้องน้ำ
หลินเช่อมองดูเขา ก่อนจะรีบผุดลุกขึ้นและวิ่งตามไป
ประตูห้องน้ำกระแทกปิดดังโครม
เสียงน้ำไหลดังออกมาจากด้านในห้อง
หลินเช่อเคาะประตู “กู้จิ้งเจ๋อ เกิดอะไรขึ้นคะ”
เสียงชายหนุ่มตะคอกดังปะปนกับเสียงน้ำไหลออกมาว่า “ออกไปซะ! ไม่ต้องมาคอยดูแลอะไรฉัน ไปสิ!”
จะให้เธอทิ้งไปตอนนี้ได้ยังไง หลินเช่อเอนตัวแนบประตูพยายามฟังเสียงข้างใน
“กู้จิ้งเจ๋อ ไม่เป็นไรนะคะ ฉันอยู่ตรงนี้นะ โปรดบอกฉันมาเถอะค่ะว่าคุณต้องการอะไร”
“ไป! ฉันบอกให้เธอไปไง ไม่ได้ยินรึ!”
เสียงตวาดดุดันนั้นเกือบจะทำให้หญิงสาวยอมออกไปแล้วจริงๆ
แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว เธอก็ทนทำเช่นนั้นไม่ได้อยู่นั่นเอง หลินเช่อจึงได้แต่นั่งเงียบๆ อยู่บนพื้น คอยฟังเสียงความเป็นไปในห้องน้ำอยู่ตรงนั้นเอง
เสียงน้ำไหลดังอยู่นานจนหลินเช่อเริ่มเป็นกังวล ในที่สุดเธอก็ทนนั่งเงียบต่อไปอีกไม่ไหวและร้องเรียกคนที่อยู่ในห้อง “กู้จิ้งเจ๋อ ตื่นเถอะค่ะคุณหมดสติไปอีกรึเปล่าเนี่ย เป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ เปิดประตูสิคะฉันจะได้เข้าไปดูคุณหน่อย”
ยังคงไม่มีวี่แววความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้น
หลินเช่อเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าห้องน้ำด้วยความร้อนใจ ก่อนจะตัดสินใจยกขาขึ้นเตรียมถีบประตูอย่างสุดแรง
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำเช่นนั้น ประตูห้องน้ำก็เปิดโครมออกเสียก่อน
ข้างในห้องน้ำ ชายหนุ่มอยู่ในสภาพเปียกปอนไปทั่วร่าง เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก ตอนนี้มันจะเปียกลีบติดตัวเผยให้เห็นมัดกล้ามบนร่างกายในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยเห็นร่างกายเขาตอนเปียกน้ำ
ใบหน้าเขาดูน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าเก่า มันแดงก่ำอย่างน่าตกใจ
หลินเช่อมองดูชายหนุ่มและพูดขึ้นว่า “คุณ…เกิดอะไรขึ้นกับคุณคะนี่ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
กู้จิ้งเจ๋อหันมาหาเธอด้วยดวงตาแดงเหมือนสีเลือด ราวกับเป็นเปลวไฟที่จ้องเขม็งมายังใบหน้าของเธอ
หลินเช่อตัวแข็ง แต่ตอนนี้เธอไม่ค่อยรู้สึกกลัวอีกแล้ว เธอสาวเท้าเข้าไปหาเขาและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ”
แต่ชายหนุ่มเดินผ่านเธอเข้าห้องนอนไปโดยไม่แยแส
“กู้จิ้งเจ๋อ อย่าเดินหนีไปแบบนี้สิคะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ บอกฉันสิ”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ไปซะเถอะ เธอต้องไปจากที่นี่และปล่อยฉันไว้คนเดียว” เขารีบบอกขณะยังเดินตรงเข้าห้องนอนไปโดยไม่หันมามองหน้าเธอ
“ไม่ค่ะ กู้จิ้งเจ๋อ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่”
ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าและหันมาคว้าเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เธอสวมอยู่ เขาจับคอเสื้อเธอไว้และจ้องเขม็งมาด้วยดวงตาแดงก่ำ “ถ้าเธอยังไม่รีบไปซะตอนนี้ ฉันอาจจะฝืนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว แล้วอย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”
ดวงตากลมโตของหลินเช่อประสานสายตากับเขาอย่างไม่หวั่นเกรง “กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณ…”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น เหงื่อบางๆ ผุดขึ้นทั้งบนปลายจมูก บนขมับ และลำคอ ก่อนจะรวมกันเป็นหยดใหญ่ไหลลงมาตามร่าง
ริมฝีปากแห้งผากและร้อนผ่าวของเขาขยับพูดต่อไปว่า “ตอนนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอเข้าใจรึเปล่า ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำร้ายเธอละก็ เธอควรจะรีบไปซะเดี๋ยวนี้!”
ถึงแม้เขาจะพร่ำบอกให้เธอรีบไปซะ แต่หลินเช่อก็รู้ดีว่าที่เขาพูดแบบนี้ก็เพราะกลัวว่าจะทำร้ายเธอเข้า
เธอจะตอบไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ กู้จิ้งเจ๋อ ถ้าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้…ฉัน…ฉัน…”
หลินเช่อคิดว่าคำพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงไม่ควรพูดออกมา
หญิงสาวจึงก้มหน้าหลบสายตาและเลือดฉีดขึ้นแก้มจนแดงระเรื่อ
ก่อนที่จะค่อยๆ พูดประโยคที่เหลือออกมาในที่สุด
“ฉันช่วยคุณได้นะคะ…”
กู้จิ้งเจ๋อฟังแล้วแทบคลั่ง
ตอนแรกร่างกายเขาเหมือนจะดีขึ้นมาได้เล็กน้อยแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเช่อเข้า สติสัมปชัญญะทั้งหลายก็ดูเหมือนจะสลายตัวไปอีกครั้ง
เขาผลักมือเธอออกและหมุนตัว กัดริมฝีปาก “ไม่ หลินเช่อ ฉันเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้นฉันจะแบกรับผลที่ตามมาของสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้เอง”
หลินเช่อเงยหน้ามอง สีหน้าของชายหนุ่มแน่วแน่มั่นคง “อะไรนะคะ นี่ไม่ได้เป็นเพราะว่าพวกคุณเล่นเกมยั่วสวาทอะไรกันสองคนหรอกหรือคะ”
“ยั่วสวาทงั้นเรอะ” คนถามนิ่วหน้า
“ก็ใช่น่ะสิคะ ก็ประมาณว่าช่วงเวลาอันสุดเร่าร้อนระหว่างพวกคุณสองคนน่ะ…” หลินเช่อว่า
“ไม่ใช่แน่นอน โม่ฮุ่ยหลิงน่ะ…” เมื่อย้อนคิดกลับไป เขาก็ต้องกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ
แม้จะพอเดาได้ว่าเหตุการณ์จริงน่าจะเป็นเช่นไร แต่หลินเช่อก็เพิ่งจะยอมเชื่ออย่างหมดใจเมื่อตอนที่ได้ยินเขาพูดออกมาจากปากตัวเองนั่นแหละ
โม่ฮุ่ยหลิงนี่แปลกคนจริง อยู่ๆ เธอจะนึกอยากวางยาเขาขึ้นมาทำไมกันนะเนี่ย
กู้จิ้งเจ๋อหลับตาลงอีกครั้งและพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายเขา ได้ปรากฏออกมาสู่ภายนอกให้คนอื่นมองเห็นได้เสียแล้ว และมันก็อยู่ตรงหน้าหลินเช่อนี่เอง
หลินเช่อเฝ้ามองร่างใหญ่ที่เดินวนเวียนไปมาไม่ยอมหยุดด้วยความวิตกที่มากขึ้นกว่าเดิม
ปล่อยให้เป็นแบบนี้จะดีหรือนี่
เขาโดนวางยาอะไรกันแน่นะ ทำไมตั้งนานป่านนี้ถึงยังไม่หมดฤทธิ์เสียที
หรือว่าเขาจะต้องหาทางระบายออก อาการจึงจะดีขึ้น
เขาคงทรมานมากถึงขนาดต้องเอาตัวเองไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าแบบนั้น หลินเช่อคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับกู้จิ้งเจ๋อตอนนี้คงจะไม่ดีแน่