เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 198
กู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ข้างหน้าต่าง อากาศในช่วงฤดูหนาวของลอสแองเจลิสนั้นเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ เมื่อวานนี้มีพายุ แต่คืนนี้ท้องฟ้ากลับสงบและปลอดโปร่งเป็นอันดี
เขาวางมือข้างหนึ่งลงบนบานหน้าต่าง แต่เขาก็กลับรู้สึกได้แต่เฉพาะอุณหภูมิของร่างกายตัวเอง แทนที่จะเป็นอุณหภูมิของอากาศภายนอก มันเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง
หลินเช่อเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาหา และบอกกับเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า “ให้ฉันช่วยคุณเถอะค่ะ ฉันพูดจริงๆ นะคะ นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว อาการของคุณยังไม่ดีขึ้นเลย…”
ตอนนี้หญิงสาวแน่ใจแล้วว่า ยาที่เธอเคยใช้คงไม่ใช่ชนิดเดียวกันนี้อย่างแน่นอน
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้ยินคำพูดนั้น เขาก็ต้องหลับตาแน่นลง
เงาของเขาสะท้อนอยู่ในกระจกหน้าต่าง เหงื่อเม็ดโตไหลผ่านเปลือกตาที่หลับอยู่ลงมา
ชายหนุ่มหมุนตัวกลับมา เขาควบคุมตัวเองต่อไปไม่ได้แล้ว เขาตะคอกหลินเช่ออย่างรุนแรง “ใครอยากให้เธอช่วยกัน ฉันบอกให้ไปซะไม่เข้าใจหรือยังไง”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ไป กู้จิ้งเจ๋อ ฉันทนเห็นคุณทำร้ายตัวเองไม่ได้หรอกนะคะ!” หลินเช่อแม้จะสะดุ้ง แต่ก็ตะคอกกลับไปเสียงดังไม่แพ้กัน
กู้จิ้งเจ๋อมองผู้หญิงบอบบางผู้ดื้อรั้นไม่มีใครเทียบตรงหน้าอย่างอ่อนใจ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
แต่หลินเช่อกลับขยับเข้ามาหาเขา เธอเขย่งปลายเท้า ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา และประทับริมฝีปากของเธอลงบนปากเขา เธอจูบเขา
หัวใจของชายหนุ่มกระเจิงไปไกล และในอึดใจต่อมาเขาก็ยอมพ่ายแพ้ให้กับความต้องการ เขาโอบร่างของหลินเช่อไว้ ก้มลงจูบตอบและขบเบาๆ ที่ริมฝีปากนุ่มนิ่มนั้น สองร่างกระหวัดโอบรัดกันแน่นเข้า
ด้วยสติเพียงเล็กน้อยที่หลงเหลืออยู่ เขาคลายอ้อมกอดจากเธอ พร้อมลมหายใจที่รุนแรง
ใบหน้าของหลินเช่อแดงซ่าน ริมฝีปากบวมตึงและแดงก่ำราวกับจะมีเลือดหยดออกมาได้
เขามองหน้าเธอและพูดว่า “ฉันทำร้ายเธอไม่ได้ ได้โปรดช่วยฉันด้วยวิธีอื่นเถอะนะ”
“อะไรนะคะ…” หลินเช่อสับสนงุนงงไปหมด
เขาจับมือเธอไว้และเลื่อนมันลงไปข้างล่าง
หลินเช่อเข้าใจได้ในทันที หน้าของเธอยิ่งแดงหนัก
เขาให้เธอนั่งลง ในขณะที่เขาทอดตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ ปล่อยให้มือของเธอสัมผัสเขา
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก
เขากัดริมฝีปากโดยแรงเพื่อบังคับตัวเองเอาไว้
หลินเช่อไม่กล้ามองหน้าเขา ถึงแม้ว่าเธอพอจะมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังอดเขินอายไม่ได้ทุกครั้งที่ทำ
ความบวมพองและร้อนผ่าวที่ทำให้กู้จิ้งเจ๋อต้องอึดอัดแทบขาดใจนี้ มันดูจะใหญ่โตกว่าครั้งที่ผ่านๆ มาเสียด้วยซ้ำ หลินเช่ออดเขินไม่ได้เมื่อคิดไปว่าของสิ่งนี้แหละที่เคยถูกใส่เข้ามาในตัวเธอแล้ว…
มันก็คงจะเจ็บมากจริงๆ
กู้จิ้งเจ๋อคงรู้ดีเรื่องนี้ เขาถึงได้กลัวนักว่าจะทำให้เธอต้องเจ็บ
หลินเช่อเคยคิดว่าผู้ชายคนนี้สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้แม้จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เพียงเพราะว่าเขาไม่อยากจะทำร้ายเธอ…
ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า เธอเป็นคนพิเศษในหัวใจของเขาจริงๆ
หรืออย่างน้อย…เขาก็แคร์ความรู้สึกของเธอ
กู้จิ้งเจ๋อไม่รู้แน่ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะอิทธิพลจากฤทธิ์ยาหรือเป็นเพราะว่าเขาโหยหาต้องการหลินเช่อกันแน่ แต่เมื่อหันไปมองหน้าหญิงสาว เขาก็ได้ปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งแรก
ชายหนุ่มระบายลมหายใจรุนแรง หลินเช่อเองก็โล่งใจและอยากจะปล่อยมือ แต่กู้จิ้งเจ๋อห้ามเธอไว้
เธอเหลือบตามองเขาอย่างขลาดอาย จนเขาขมวดคิ้วใส่เมื่อถามว่า “ทำไมเหรอ”
หลินเช่อถามกลับ “คุณเรียบร้อยแล้วหรือคะ”
เขาเลิกคิ้ว “อย่าบอกนะว่าฉันดูเป็นไก่อ่อนขนาดนั้นในสายตาเธอตอนนี้น่ะ”
“อะไรกัน…”
“นี่เธอคิดว่าฉันเป็นคนอึดได้แค่สั้นๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“…” นี่มันใช่เวลาคิดเรื่องแบบนี้หรือไงนะ ขนาดป่วยจนอาการเพียบหนักขนาดนี้ ยังจะมีอารมณ์ไม่ยอมแพ้อีกงั้นหรือ
เขารั้งมือเล็กๆ ของเธอไปวางบนตัวอีกครั้ง “นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง…”
หลินเช่อยอมเอื้อมมือออกไปแต่โดยดี
สิ่งที่ดูเหมือนจะอ่อนตัวลงแล้วในตอนแรก กลับแข็งขึงและผ่าวร้อนขึ้นมาอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ…
หลินเช่อยิ่งอายหนักขึ้นไปอีก
ทำไมเขาถึงจะต้องให้มีรอบสองด้วยนะ…
หลินเช่อหน้าแดง ก้มหน้าก้มตา และได้ยินเสียงเขากระซิบแผ่วผ่าวว่า “ใช่ แบบนั้นแหละ”
“ดีมาก เธอเก่งมาก…”
คำพูดแสดงความปลาบปลื้มของเขายิ่งทำให้เธอก้มหน้างุดหนักขึ้นไปอีก
นี่มันถือเป็นคำชมหรือไงกันนะ
แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็อดภูมิใจอยู่ข้างในลึกๆ ไม่ได้
ใจหนึ่งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังจะทำให้เธอเสียคนหรือเปล่านะ ทำไมเธอถึงกลายเป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้
ยิ่งมือเธอขยับเร็วเท่าไหร่ กู้จิ้งเจ๋อก็ยิ่งต้องการมากขึ้นเท่านั้น
จนนิ้วของหลินเช่อเริ่มเจ็บ ครั้งที่สองนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งแรก
เธอเริ่มกังวลว่าหรือตัวเองจะทำอะไรผิดไป เธอเงยหน้ามองและถามว่า “ทำไมมันไม่ได้ผลล่ะคะ ฉัน…ฉันควรจะ…”
“ไม่ต้อง แบบนี้ดีแล้ว…ทำต่อไปสิ”
“แต่ว่าทำไมคุณถึงยังไม่…”
“นี่แหละความสามารถที่แท้จริงของฉันละ ทำอย่างกับว่าเธอไม่รู้งั้นแหละ”
เธอไม่รู้ ก็เธอไม่รู้น่ะสิ!
เพราะตอนที่มีอะไรกันคราวนั้น…ถึงแม้ว่าจะกินเวลายาวนาน แต่เธอไม่ได้รู้สึกว่ามันนานเลยซักนิด
เขายังคงพร่ำชมไม่ขาดปาก “ดีมาก เธออยากให้เสร็จเร็วขึ้นมั้ยล่ะ”
“อืม…”
“มานี่สิ มาจูบฉันหน่อย มันจะช่วยให้ฉันเสร็จเร็วขึ้น”
หลินเช่อแก้มแดง เธอมองหน้าเขา เลียริมฝีปาก ก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวไป
เขาขบปากเธอเบาๆ และจูบเธออย่างดื่มด่ำ มันไม่ดุดันรุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เช่นกัน
เมื่อจูบเสร็จ ในหัวของหลินเช่อก็พร่ามัวไปหมด
เขาประคองศีรษะของเธอไว้ “เด็กดี…คราวนี้จูบที่ตัวฉันสิ…”
หลินเช่อลดศีรษะลงไปและแตะจูบลงบนแผ่นอกกว้างอย่างไม่เกี่ยงงอน มันอาจจะเป็นเรื่องสัญชาตญาณของมนุษย์กระมัง เพราะหลินเช่อทำทุกอย่างได้โดยไม่ต้องมีใครบอก
ร่างกายเขาเกร็งเขม็งไปหมด
นี่เป็นความทรมานโดยแท้
แต่ก็แสนเย้ายวนไปด้วยพร้อมกัน ชายหนุ่มทนให้หลินเช่อลงมือฝ่ายเดียวต่อไปได้อีกเพียงชั่วครู่เท่านั้น
ในที่สุดเขาก็หมดความอดทน
แล้วทั้งสองสานต่อค่ำคืนนั้นไปพร้อมกัน…หลินเช่อรู้สึกเหมือนว่ามือของเธอแทบจะขาดจากร่าง
ในที่สุดฤทธิ์ยาก็หมดลง และกู้จิ้งเจ๋อก็อ่อนเพลียปางตาย เขากอดตระกองเธอไว้และทั้งคู่ก็ผล็อยหลับสนิทไปพร้อมกัน
เมื่อหลินเช่อตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา เธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกขัดเขินประดักประเดิด
เธอรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั่วร่าง และแขนก็ปวดเมื่อยไปหมด
เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกัน แต่ก็พบว่าเขาหายตัวไปแล้ว หลินเช่อนอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง เสื้อผ้าบนตัวหลุดลุ่ย ส่วนชุดที่ถูกฉีกกระชากจนขาดก่อนหน้านี้ถูกวางทิ้งไว้บนพื้นห้อง
“ตื่นแล้วเหรอ ฉันสั่งคนให้ยกอาหารขึ้นมาแล้ว” ประตูห้องเปิดออก แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็เดินเข้ามา
หน้าของหลินเช่อแดงเหมือนผลมะเขือเทศ เธออายเหลือเกินเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอทำให้เขาในคืนที่ผ่านมา
แม้ว่าจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เธอก็พยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยให้ฤทธิ์ยานั้นบรรเทาเบาบางลง
แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป และเธอได้มาหวนคิดดูแล้ว เธอเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แถมยังยั่วเย้าเขาอีกต่างหาก ช่างน่าอายอะไรอย่างนี้
หลินเช่อไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายกลับเดินเข้ามาหา “มาเถอะ ให้ฉันดูแขนเธอหน่อยว่าเจ็บหรือเปล่า”
หลินเช่อตกใจทำท่าจะถอยหนี แต่เขาเข้ามาถึงตัวเสียก่อน และคว้าแขนเธอขึ้นไปพินิจดู
ภายนอกนั้นดูจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หลินเช่อเจ็บมากเสียจนต้องร้องออกมา
กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้า