เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 205
เขาแตะเธอแผ่วเบา ใบหน้าของหลินเช่อก็หันไปหาเขาก่อนที่ร่างกายของเธอจะขยับตามไป ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดูเหมือนว่าเธอจะกล้ากว่าปกติ น้ำเสียงก็ทอดอ่อนหวานกว่ายามปกติธรรมดา
เสียงครางของเธอทำให้ร่างกายของเขาแทบหลอมละลาย
เมื่อมองดูหลินเช่อ ชายหนุ่มก็ทนฝืนต่อไปไม่ไหว เขาเอนเบาะนั่งและวางร่างเธอลง
หลินเช่อรู้สึกเหมือนเนื้อตัวเธอกำลังอ่อนเหลวเหมือนเยลลี่ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะร้องครางออกมาเป็นระยะ เธอรู้สึกได้ถึงทุกสัมผัสของเขาในขณะที่ร่างกายของเธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
ทุกนาที ทุกวินาทีเป็นเหมือนความฝันอันสดสวย หลินเช่อไม่อยากลืมตาเ เธอไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย
กู้จิ้งเจ๋อเมื่อได้เห็นสีหน้าของหญิงสาว ก็อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจที่สามารถทำให้เธอเป็นสุขได้
ดูเหมือนเขาจะชอบที่จะได้เห็นเธอกล้าเผยอารมณ์ที่แท้จริงออกมาเช่นนี้ และไม่อาจต้านทานสิ่งที่เขามอบให้ได้
มันเป็นเหมือนกับคำชมที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา น่าพึงใจเหนือสิ่งอื่นใดที่เคยได้รับมา
และตอนนี้ เขาก็รู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่จะทำให้เธอยิ่งสุขสมและสบายมากยิ่งขึ้นไปอีก
กู้จิ้งเจ๋อจึงผลักเธอให้นอนลงและระดมจูบไปทั่วร่าง ริมฝีปากของเขาลากเรื่อยต่ำลงไป…
หลินเช่อไม่อาจจินตนาการถึงความรู้สึกนี้ได้ และทำได้แต่เพียงยึดร่างเขาเอาไว้จนแน่น “คุณกำลังจะทำอะไรคะ…”
“ชู่ว ให้รางวัลเธอไงล่ะ…”
“ระ…รางวัลอะไรคะ…”
“ฉันกำลังปรนเปรอเธออยู่นี่ ไม่เรียกว่าเป็นรางวัลหรือไงล่ะ”
“ไม่ค่ะ ไม่ คุณ…”
หลินเช่อยึดเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้เคลื่อนต่ำลงไปมากกว่านั้น
เขาจะทำอย่างนี้ได้ยังไง…
แต่กู้จิ้งเจ๋อจับขาเธอไว้แน่น
“อย่าขยับ!”
“แต่ฉันทำไม่ได้ ทำไม่ได้ค่ะ!” หลินเช่อคิดว่านั่นคือพื้นที่ส่วนตัวอย่างที่สุด เธอจะเปิดเผยมันให้ผู้ชายเห็นได้ยังไงกัน
แถมยังเป็นผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อเสียด้วย
เขาจับแขนเธอไว้ มองดูใบหน้าของเธอ “เป็นเด็กดีสิ หลินเช่อ มองหน้าฉันนี่”
หน้าของหญิงสาวแดงก่ำ ทั้งแดงและเหมือนจะบวมตึง เหมือนกับว่าไม่มีผิวคอยห่อหุ้มมันเอาไว้
“เธอช่วยฉันมาตั้งหลายครั้งแล้ว คราวนี้ฉันอยากจะช่วยเธอบ้างซักครั้ง”
“ไปให้พ้น ฉัน…ไม่ต้องการให้คุณช่วย…”
“ถ้าเธอไม่ลอง เธอจะรู้ได้ยังไงว่าต้องการหรือเปล่า”
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตา มองเธออย่างยั่วเย้าหยอกล้อ
หลินเช่อมองตอบเขา และคิดว่าเขาน่าจะยอมแพ้แล้วละมัง
ทันใดนั้นเขาก็คว้ามือเธอไว้แน่น
หลินเช่อที่เพิ่งจะคลายใจจึงไม่ทันได้ระวังตัว หนำซ้ำเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดที่เธอมีก็ไร้ประโยชน์ที่จะต้านทานเขาอีกต่างหาก
หญิงสาวรู้สึกได้ว่าร่างทั้งร่างสั่นระริก เธอไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกอันซาบซ่านเช่นนี้มาก่อน ราวกับว่ามันแล่นเข้าสู่หัวใจและเบ่งบานอยู่ในความคิด ดวงดาวนับร้อย ดอกไม้ไฟนับพันปะทุแข่งกันนับไม่ถ้วนอยู่ในหัวของเธอ
หลินเช่อทำได้เพียงดึงมือของชายหนุ่มเอาไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เพราะนิ้วมือของเขายังคงจุ่มจมอยู่ในผิวเนื้อของเธอ
เพียงไม่นาน หญิงสาวก็หลอมละลายอยู่ในมือเขา เธอยังแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทำไมเธอถึงปล่อยให้ผู้ชาย…จูบเธอในจุดที่ไม่ควรจะถูกจูบแบบนี้นะ
หนำซ้ำผู้ชายคนนี้…ยังเป็นกู้จิ้งเจ๋อผู้ยิ่งใหญ่อีกต่างหาก…
เมื่อหลินเช่อเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง เธอก็ยกมือขึ้นปิดหน้า ไม่กล้าสบตาใครทั้งสิ้น
“พระเจ้า ให้ตายสิ…ทำไมนะ…” เสียงพูดของเธอขาดเป็นห้วงๆ
แต่ตัวเขากลับดูสบายใจอย่างที่สุด
ส่วนนั้นของเขายังคงเต่งตึงและเต้นตุบ เขาปรนเปรอให้เธอแต่กลับไม่ได้ปลดปล่อยให้ตัวเอง
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนจากเธอ คลื่นอารมณ์รุนแรงที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนตัวเขามากมาย
เขารู้ดีว่าเป็นเพราะหลินเช่อลืมไปหมดสิ้นทุกอย่าง เพราะแบบนี้เธอจึงเผลอฝากรอยแผลเอาไว้บนตัวเขา เพราะแบบนี้ ชายหนุ่มจึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ได้รู้สึกแย่กับอะไร
มันเหมือนกับว่าเขาได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เธอได้เป็นสุขและอิ่มเอม
หลินเช่อหน้าแดงเมื่อเขายอมปล่อยมือจากเธอ หญิงสาวหลับตาและพึมพำว่า “คุณนี่นะ…คุณทำแบบนี้ได้ยังไง มันไม่ได้สบายสำหรับคุณเลยนะคะ คุณ…คุณไม่นึกรังเกียจบ้างหรือไงนะ…”
“ทีเธอยังไม่รังเกียจฉันเลย”
“…” เธอน่ะแค่ใช้มือ แต่เขานี่สิ…
กู้จิ้งเจ๋อพูดต่อไปว่า “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะให้รางวัลเธอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รางวัลสมใจพอมั้ย”
หลินเช่อรีบส่ายหน้า
กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ “ยังไม่พออีกเหรอ”
ขณะที่พูด ร่างใหญ่ก็ทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้อีก หลินเช่อถึงกับช็อกและรีบบอก “พอแล้วค่ะ พอแล้ว”
“งั้นบอกฉันมาสิ ว่าชอบหรือเปล่า”
“คุณ…”
“บอกมา!”
“ชอบค่ะ ชอบ พอใจรึยัง…”
ใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
หลินเช่อโกรธจนอยากจะกระทืบเท้า แบบนี้หมายความว่ายังไงกัน
แต่ชายหนุ่มกลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
เขาเพียงแค่อยากให้เธอรู้สึกดีและมีความสุข เพียงง่ายๆ แค่นั้น
ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนอยู่ด้านนอก
หลินเช่อรีบร้องขึ้น “พระเจ้า หวังว่าจะไม่มีใครเห็นอะไรนะคะ…”
“ใจเย็นน่า กระจกนี่เคลือบเงา คนมองมาจากด้านนอกไม่เห็นหรอก”
“แต่…”
“เธอลองถามคนที่อยู่ข้างนอกนั่นสิ ว่ากล้ามองเข้ามาหรือเปล่า”
หลินเช่อยังคงไม่เชื่อ เธอรีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และมองเขาตาเขียวปั้ด ก่อนจะเปิดประตูรถและพุ่งลิ่วออกไปโดยเร็ว
กู้จิ้งเจ๋อเจ็บแปล๊บขึ้นมา ด้วยตอนที่ลงจากรถไป หลินเช่อหันมาเตะเขาเข้าโครมใหญ่ด้วย
เขาก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเอง มันยับยู่ยี่ไปหมดเพราะหลินเช่อ แต่ชายหนุ่มก็เพียงแต่ส่ายหน้า
และเมื่อก้มลงดูร่างกายของตัวเองที่ยังคงไม่เป็นปกติ กู้จิ้งเจ๋อก็ต้องถอนใจ หลินเช่อนี่นะ…
ก็รู้แหละว่าสบายตัวไปแล้ว แต่ก็ไม่น่าที่จะทิ้งเขาเอาไว้ทั้งแบบนี้นี่นา…
สงสัยว่าคืนนี้เขาคงต้องอาบน้ำเย็นๆ ซะแล้ว
ในขณะเดียวกัน ในห้องนอน หลินเช่อรู้สึกได้ว่าเนื้อตัวเธอกำลังร้อนผ่าวราวกับว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไม่หมดไป
ทำไมนะ ทำไมเขาถึงจะต้องทำแบบนี้เพื่อเธอด้วย ทำไมเขาจะต้องไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นเพื่อเธอด้วย
หลินเช่อไม่เข้าใจ และรับรู้เพียงแต่ว่า หัวใจของเธอกำลังรู้สึกสับสนอย่างที่สุด
เธอยังคงจดจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้จนถึงตอนนี้ ทั้งไม่อยากจะเชื่อ ทั้งเขินอายไปพร้อมกัน
ในที่สุดเธอก็ทำได้แค่เพียงยกมือขึ้นปิดหน้า และมุดไปซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม
ในความฝันของเธอนั้น มันทั้งอ่อนหวานและแสนเศร้า
ละครของหลินเช่อถูกกำหนดให้ออกอากาศในช่วงต้นปี เพื่อให้ทันวันหยุดช่วงฤดูหนาว ด้วยเหตุนี้ หลังจากการถ่ายทำเสร็จสิ้นลง ทุกคนก็เริ่มตัดต่อและทำงานกันอย่างเคร่งเครียด และเพียงหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็พร้อมสำหรับงานอีเวนต์เพื่อโปรโมตผลงานก่อนจะออนแอร์
ช่วงนี้ โทรทัศน์ถูกยึดครองไปด้วยข่าวของฉินหวานหว่าน ด้วยละครที่เธอแสดงกับกู้จิ้ิ้งอวี่นั้นถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว และด้วยผลงานชิ้นนี้เองที่ทำให้เธอคว้ารางวัลสำคัญประจำปีไปได้อีกด้วย อวี๋หมินหมิ่นบอกว่า ละครของหลินเช่อนั้นออกอากาศไม่ทันเวลา หากไม่อย่างนั้นแล้ว เธอก็น่าจะไดรับการเสนอชื่อเข้าชิงด้วยเช่นกัน
แต่หลินเช่อก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอคิดว่าถึงไม่ทันก็ไม่เป็นไร ยังมีโอกาสอีกมากมายในอนาคต เธอจะยังคงแสดงละครและทำงานหนักต่อไป ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงพยายามเลี่ยงที่จะไม่ต้องไปต่อสู้แย่งพื้นที่ข่าวกับฉินหวานหว่าน ด้วยการรออีกสองสามวันก่อนที่จะเริ่มทำการโปรโมต
ในช่วงให้สัมภาษณ์เพื่อโปรโมตละคร เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะพากันถามถึงอุบัติเหตุในการถ่ายทำของหลินเช่อ กู้จิ้งเจ๋อหาตัวแพทย์มือเยี่ยมได้ และหลินเช่อก็มีรอยเย็บเพียงเล็กน้อยที่ศีรษะเท่านั้น และตอนนี้รอยเย็บเหล่านั้นก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว หลังจากลงรองพื้นไป ก็มีเพียงรอยแผลเป็นบางๆ เหลืออยู่เท่านั้น หลินเช่อยังถูกถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฉินหวานหว่านด้วย ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าฉินหวานหว่านก็ถูกถามด้วยคำถามเดียวกัน และฉินหวานหว่านก็ตอบไปว่าพวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ด้วยเหตุนี้หลินเช่อจึงยิ้มและตอบว่า พวกเธอทั้งสองต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับรางวัลที่ฉินหวานหว่านได้รับ แต่เพราะทั้งคู่ต่างก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการโปรโมตผลงาน จึงทำให้ไม่ได้พบหน้ากันมาได้พักใหญ่แล้ว
ไม่ช้างานแถลงข่าวก็จบลง หลินเช่อเดินออกมาพร้อมกับอวี๋หมินหมิ่น แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็โทรมา