เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 215
โม่ฮุ่ยหลิงเห็นว่าเฉินอวี่เฉิงเองก็อยู่ด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะร้องถามด้วยความประหลาดใจ
“หมอเฉิน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
ในสายตาของโม่ฮุ่ยหลิง เฉินอวี่เฉิงเป็นเพียงนักวิจัยที่ไม่ชอบสังสรรค์เสวนากับผู้คน รวมถึงไม่สุภาพกับใครทั้งสิ้นด้วย
เขาไม่เคยปฏิบัติตัวกับเธอดีๆ เลยซักครั้ง
ที่น่าหงุดหงิดไปกว่านั้นก็คือ กู้จิ้งเจ๋อก็ยังยอมให้เฉินอวี่เฉิงทำกับเธอแบบนั้นอยู่นั่นเอง นั่นเป็นเพราะเฉินอวี่เฉิงเป็นแพทย์ประจำตัวของเขา และยังเป็นนักวิจัยเพียงคนเดียวในโลกที่ค้นคว้าเกี่ยวกับอาการป่วยของเขา
ด้วยเหตุนี้ โม่ฮุ่ยหลิงจึงต้องจำใจจำทนกับนายแพทย์ผู้นี้ต่อไป ตราบใดที่เขาสามารถรักษากู้จิ้งเจ๋อได้ ก็เท่ากับเธอจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ไปด้วย
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่พบหน้ากัน ทั้งเธอและเขาก็จะไม่พูดคุยอะไรกันมากมาย รวมถึงไม่เคยไปร่วมกินอาหารหรือสังสรรค์ใดๆ ด้วยทั้งสิ้น
แต่วันนี้ วิธีที่เขาพูดคุยกับหลินเช่อดูจะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นพิเศษ
โม่ฮุ่ยหลิงจึงมองดูด้วยความพิศวงและสงสัย ว่านังหลินเช่อนี่ใช้อุบายแบบไหนถึงได้รับมือกับบรรดาคนของกู้จิ้งเจ๋อได้ดีขนาดนี้
คงมีแต่กู้จิ้งเจ๋อนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร และคิดว่าหลินเช่อเป็นสาวใสซื่อไร้เดียงสา
ถ้าหากว่าหล่อนไม่ใช้เล่ห์เพทุบาย แล้วหล่อนจะกลายเป็นที่ชื่นชมสนิทสนมกับคนอื่นทั่วไปหมดแบบนี้ได้ยังไง
หล่อนคงจะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในบรรดาคนของกู้จิ้งเจ๋อทีละน้อย โดยที่กู้จิ้งเจ๋อเองไม่รู้ตัว
เมื่อคิดเช่นนี้ โม่ฮุ่ยหลิงก็มองหน้าหลินเช่อด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม
โดยเฉพาะเมื่อกู้จิ้งเจ๋อบอกเธอว่า เขาและหลินเช่อมีอะไรกันแล้ว
นังนี่มันร้ายกาจจริงๆ
โม่ฮุ่ยหลิงกัดฟันแน่นและยิ้มเย็นให้เมื่อเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
หลินเช่อเองก็ระมัดระวังตัวขึ้นทันที เธอมองหน้าโม่ฮุ่ยหลิงและทักขึ้นว่า “คุณโม่ บังเอิญจังเลยนะคะที่ได้มาพบกันที่นี่”
โม่ฮุ่ยหลิงว่า “ฉันมาฉลองวันเกิดกับน้องสาวน่ะ ก็เลยมาสนุกกันที่นี่ แต่ฉันไม่เคยลงมาใช้บริการห้องด้านล่างนี่มาก่อนเลยนะ หลินเช่อ ฉันขอแนะนำว่าเธออย่าอยู่ที่นี่นานนักล่ะ แถวนี้มีแต่คนชั้นต่ำเต็มไปหมด ห้องวีไอพีด้านบนดูจะเงียบสงบกว่า อา แต่ว่ามีแต่แขกวีไอพีเท่านั้นที่จะสามารถใช้บริการห้องด้านบนได้นี่นา เธอต้องมีบัตรสมาชิก ที่จะต้องจ่ายค่าสมาชิกปีละหลายล้านต่อปีซะก่อนนะจ๊ะถึงจะมีได้ ฉันเดาว่าพวกเธอคงไม่มีปัญญาจ่ายเงินขนาดนั้นละสิ ใช่มั้ย”
หลินเช่อหัวเราะ “ฉันแค่มาสนุกกันที่นี่เท่านั้นเองค่ะ จะที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก”
โม่ฮุ่ยหลิงหันไปมองเฉินอวี่เฉิง “หมอเฉิน แล้วคุณล่ะคะมาทำไมที่นี่ ฉันคิดว่าปกติแล้วคุณหมอจะไม่ยอมมาเกลือกกลั้วในสถานที่สกปรกแบบนี้ซะอีก”
ระหว่างที่พูด เธอก็กวาดตามองไปรอบๆ อย่างรังเกียจ
เฉินอวี่เฉิงเกลียดหล่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และโม่ฮุ่ยหลิงก็ไม่เคยยินดีที่จะได้พบเขาด้วยเช่นกัน
กู้จิ้งเจ๋อเป็นนายจ้างที่ฉลาด เขารู้ดีว่าเฉินอวี่เฉิงไม่ชอบหน้าโม่ฮุ่ยหลิง แต่เขาก็ไม่ใส่ใจในข้อนั้น ตราบใดที่เฉินอวี่เฉิงยังคงรักษาความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ของตัวเองไว้ได้
นายแพทย์หนุ่มจึงตอกกลับไปว่า “ผมคิดว่าที่นี่ก็ใช้ได้ทีเดียว ไม่ได้สกปรกอะไรขนาดนั้น เงินน่ะเป็นของหายาก ต่อให้เรามีเงิน เราก็ไม่ควรที่จะใช้จ่ายทิ้งขว้างเหมือนเศษกระดาษ ถ้าคุณจ่ายเงินให้ที่นี่ได้ทีละหลายล้าน ทำไมถึงไม่เอาไปใช้ช่วยเหลือพวกเด็กนักเรียนยากไร้แทนล่ะครับ ได้บุญดีกว่ามากเลยนะ”
“แก…” นี่เขากำลังจะด่าอ้อมๆ ว่าเธอใช้เงินอย่างไร้สาระงั้นเหรอ
โดยเฉพาะ เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงไม่เคยหาเงินได้เองมาก่อนเลย
ทุกอย่างที่เธอจับจ่ายเป็นเงินมาจากครอบครัวของเธอทั้งสิ้น ต้องขอบคุณที่ครอบครัวเธอมั่งคั่งพอ ไม่อย่างนั้น หากเธอทำตัวแบบนี้ทั้งที่อยู่ในครอบครัวธรรมดาทั่วไปละก็ คงจะเป็นความหายนะอย่างมาก
โม่ฮุ่ยหลิงทำตาเขียวใส่อีกฝ่าย แต่ก็ไม่อยากที่จะตกเป็นเป้าให้เขาแหย่เอาเพื่อความสนุกอีกต่อไป เธอจึงหันไปมองและบอกว่า “ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับหลินเช่อตามลำพังหน่อยน่ะ คงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย”
เฉินอวี่เฉิงหันไปมองหลินเช่อและบอกว่า “ไม่ได้หรอกครับ ความปลอดภัยของคุณผู้หญิงก็เป็นความรับผิดชอบของผมด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่คิดเงินค่าที่ปรึกษาจากท่านประธานกู้แพงขนาดนั้นหรอก”
“นี่แก…”
โม่ฮุ่ยหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและพูดว่า “ปกป้องหลินเช่อเหลือเกินนะ”
เธอหันไปมองหลินเช่ออีกครั้ง “ฉันคงต้องยอมแพ้เธอ เธอมีคนคอยปกป้องเยอะแยะเต็มไปหมดเลยจริงๆ โดยเฉพาะผู้ชาย ฉันเองคงไม่มีความสามารถถึงขนาดนี้แน่”
หลินเช่อตอบว่า “เราทุกคนเป็นเพื่อนกันนี่คะ เพื่อนก็ย่อมต้องคอยระวังแทนเพื่อนอยู่แล้ว คุณอาจจะไม่เคยมีเพื่อนแท้เลยซักคน คุณก็เลยไม่เข้าใจ”
“หลินเช่อจ๊ะ ฉันมีเพื่อนมากมายจ้ะ แต่ไม่มีคนไหนที่เป็นคนชั้นต่ำอย่างเธอเท่านั้น!”
เฉินอวี่เฉิงอยากจะออกรับแทน แต่หลินเช่อหันมาห้ามไว้เสียก่อน “คุณหมอเฉิน ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ว่าคุณโม่อยากจะพูดอะไรกับฉัน เธอก็พูดได้เลย ถ้าเป็นเรื่องดี ฉันก็จะรับฟัง แต่ถ้าไม่ใช่ ฉันก็ไม่เอามาใส่ใจหรอกค่ะ คุณเข้าไปก่อนก็ได้ ถึงยังไงคุณโม่ก็คงไม่ทำอะไรฉันหรอกค่ะ หรือไม่อย่างงั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน คุณก็รู้ดีอยู่แล้วว่าฉันอยู่กับเธอ คุณคิดว่าเธอจะหนีรอดไปได้เหรอคะ เพราะฉะนั้น คนที่ควรจะกังวลเรื่องความปลอดภัยของฉันก็คือคุณโม่นี่มากกว่าค่ะ”
เฉินอวี่เฉิงเมื่อได้ฟังก็พยักหน้า “ถ้ามีอะไรก็ตะโกนเรียกผมนะ”
“โอเคค่ะ”
เฉินอวี่เฉิงตวัดสายตายโสไปทางโม่ฮุ่ยหลิงอีกครั้ง ก่อนที่จะยอมแยกตัวไป
โม่ฮุ่ยหลิงมองท่าทางยโสของอีกฝ่ายแล้วก็พ่นลมพรืดเข้าใส่ เธอหันไปหาหลินเช่อและพูดว่า “หลินเช่อ ฉันพูดจริงๆ นะ เพื่อชื่อเสียงของจิ้งเจ๋อ เธอไม่ควรที่จะเป็นนักแสดงต่อไป ฉันดูผลงานของเธอทุกเรื่อง แต่นักแสดงก็ยังเป็นแค่นักแสดงอยู่นั่นแหละ เป็นอาชีพที่ฟังแล้วแย่เอามากๆ แต่เธอก็ยังคงจะทำงานนี้อยู่นั่น ถ้าเธอไม่มีเงิน ฉันจะให้เงินเธอเองก็ได้ แต่การเอาตัวเองไปเร่ขายเพื่อให้ได้เงินมาแบบนี้น่ะ เธอเคยถามความเห็นของจิ้งเจ๋อบ้างรึเปล่า”
คำพูดเหล่านั้นน่าชังเสียจนอารมณ์ที่กำลังดีๆ อยู่ของหลินเช่อยังแทบทนฟังไม่ได้
“หมายความว่ายังไงคะ ฉันเองก็มีเป้าหมายของตัวเอง แล้วมันก็ไม่เกี่ยวกับเงินด้วย มันเกี่ยวกับอาชีพของฉัน ได้โปรดพูดจาให้เกียรติกันด้วยนะคะ กู้จิ้งเจ๋อไม่เคยพูดอะไรเรื่องนี้ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงงานที่ฉันทำมิทราบ” หลินเช่อโกรธจัดทีเดียวกับคำพูดของโม่ฮุ่ยหลิง ถึงขนาดต้องเสียงแข็งขึ้นมา
“นี่เรียกว่าเป้าหมายเหรอ ผู้หญิงควรจะรู้สิว่าจะต้องทุ่มเทชีวิตให้กับสามีของตัวเองน่ะ เธอไม่คิดบ้างหรือไงว่าพฤติกรรมของเธอจะส่งผลกับจิ้งเจ๋อยังไงบ้างน่ะ หือ เธอไม่มีอะไรคู่ควรเป็นภรรยาของเขาเลยซักนิด ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากอยู่กับคนอย่างเธอ” สุ้มเสียงของโม่ฮุ่ยหลิงแสดงความรังเกียจโดยไม่ปิดบัง
หลินเช่อโต้กลับอย่างเยือกเย็น “ต่อให้แต่งงานกันแล้ว แต่ฉันกับกู้จิ้งเจ๋อก็ยังเป็นคนละคนกันอยู่ เรามีชีวิตของตัวเองที่ต้องใช้ และเราก็ไม่ยอมลดเป้าหมายชีวิตหรืออาชีพการของเราเพียงเพราะว่าการแต่งงานหรอกค่ะ ฉันเชื่อว่าการแต่งงานที่แท้จริงควรจะเป็นแบบนี้ คุณก้าวไปด้วยกันแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นตัวของตัวเองด้วย ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะไม่คู่ควรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“ฮ่า ก็เพราะว่าเธอมันมีความคิดแบบคนชั้นต่ำอย่างงี้ไงล่ะ ฉันรู้นะว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดจาแบบนี้ออกมา แค่เพราะว่ากู้จิ้งเจ๋อแตะต้องเธอได้ เล่นสนุกกับเนื้อตัวเธอได้ เธอก็เลยคิดว่าเขาเป็นของเธอแล้วละสิ ใช่มั้ยล่ะ ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ฝันไปเถอะ!”
หัวใจของโม่ฮุ่ยหลิงอัดแน่นไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อพูดออกมา “อย่าห่วงไปเลย ผู้หญิงในดวงใจของกู้จิ้งเจ๋อน่ะจะเป็นฉันตลอดไปนั่นแหละ ฉันอยู่เคียงข้างเขามาหลายปีแล้ว และเป็นผู้หญิงที่เขารักเพียงคนเดียวตลอดมาด้วย ต่อให้เขาหันไปสนใจเธอชั่วครั้งชั่วคราว แต่เดี๋ยวเขาก็จะต้องเบื่อหลังจากที่ได้เล่นสนุกกับเธอซักพัก เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะเขี่ยเธอทิ้ง แล้วฉันจะคอยดูว่าเธอยังจะปากดีแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน”