เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 222
เมื่อทั้งคู่ออกมาถึงด้านนอกงาน ผู้บริหารก็ขอตัวกลับเข้าไป
กู้จิ้ิ้งอวี่อยากจะไปส่งเธอที่บ้าน
หลินเช่อหันมองหน้าอีกฝ่ายและถามขึ้นว่า “คุณมางานของบริษัทฉันทำไมคะ”
“ฉันคิดถึงเธอก็เลยมาหาน่ะสิ”
“ช่างเถอะ…” หลินเช่อค้อนใส่
กู้จิ้ิ้งอวี่หัวเราะและถามต่อว่า “ทำไม นี่เธอไม่เชื่อหรือไง ฉันคิดถึงเธอจริงๆ นะ”
“…” หลินเช่อว่า “เอาละ เอาละ เอาละ ฉันปลื้มเหลือเกินละค่ะ”
“ทำตัวให้มันน่ารักหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แหละค่ะ…”
กู้จิ้ิ้งอวี่มองเธอก่อนจะส่ายหน้าและพูดว่า “เมื่อกี้นี้ตอนอยู่ข้างในนั้น เธอถูกพวกนั้นแกล้งเอานะ”
เขาดูออก
จะว่าไปเขาเองก็มีประสบการณ์โชกโชนมาในวงการนี้ไม่น้อย ทำให้สามารถเข้าใจได้ในทันที ด้วยเหตุนี้หลินเช่อจึงได้แต่เพียงยักไหล่และพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่สนหรอก”
“ถ้าเธอจะสู้กับคนพวกนั้น เธอไม่มีทางชนะหรอก เธอเล่นเกมสกปรกสู้พวกเขาไม่ได้แน่นอน จะเป็นการดีกว่าที่จะอยู่ห่างๆ เข้าไว้ สำหรับพวกนั้นแล้ว การขึ้นมาอยู่ ณ จุดที่อยู่ตอนนี้ภายในเวลาไม่กี่ปีไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนตัวเธอเองก็เพิ่งจะได้มีพื้นที่ข่าวและฐานแฟนๆ ที่พวกเขาอิจฉาเธอก็พอจะเข้าใจได้อยู่ พวกนั้นจะคอยหาโอกาสทุกครั้งที่จะได้กระทืบซ้ำแล้วก็กำจัดเธอออกไปให้พ้นทาง และในเมื่อชื่อเสียงของเธอเองก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอ การหลุดออกไปแล้วหาทางกลับเข้ามาจะเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก”
หลินเช่อไม่เคยคิดถึงเรื่องน่ากลัวแบบนี้เลย เธอจึงเอ่ยขอบคุณกู้จิ้ิ้งอวี่ด้วยใจจรง “ขอบคุณมากนะคะ พี่จิ้งอวี่”
“ไม่ต้องมาพูดจาอ่อนหวานแสลงหูแบบนี้หรอกน่า ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะแกล้งเธอซักหน่อย อันที่จริงวันนี้ฉันตั้งใจมาหาเธอโดยเฉพาะ ฉันกำลังจะถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องหนึ่ง และฉันก็อยากให้เธอมาลองบทดูน่ะ เธอจะว่าไงล่ะ”
“หนังฟอร์มใหญ่หรือคะ” ดวงตาของหลินเช่อเป็นประกาย
“มันเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีน่ะ แล้วเราก็ยังไม่มีนักแสดงนำหญิง ฉันคิดว่าบุคลิกเธอน่าจะเหมาะมาก ฉันก็เลยแนะนำเธอให้กับทางทีมงาน ถ้าเธอสนใจ ก็มาลองทดสอบบทได้”
“จริงเหรอคะ แน่นอนสิคะว่าสนใจ!”
แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว หญิงสาวก็เริ่มไม่แน่ใจ “แต่ฉันไม่เคยแสดงหนังมาก่อนเลยนะคะ แล้วพี่ไม่กลัวว่าฉันจะทำเสียเรื่องเหรอ”
“เพราะแบบนี้ไงล่ะเธอถึงต้องมาลองออดิชั่นก่อน ถ้าเป็นเรื่องงานแล้วฉันจริงจังมาก”
“โอ้โห ได้เลยค่ะ ฉันจะไปออดิชั่น”
“แต่ฉันเชื่อว่าเธอน่าจะผ่านนั่นแหละ” ชายหนุ่มยิ้มให้
หลินเช่อมองกู้จิ้ิ้งอวี่อย่างซาบซึ้งในน้ำใจ “ขอบคุณนะคะ กู้จิ้ิ้งอวี่ ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉัน”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันเชื่อสายตาตัวเองน่ะ” ชายหนุ่มว่า
หลินเช่ออดคิดไม่ได้ว่าให้ตายเถอะ เขาช่างเหมือนพี่ชายตัวเองอย่างกับอะไรดี ผู้ชายสองคนนี้ไม่ได้เรื่องในการชื่นชมผู้อื่นเอาซะเลย
เมื่อกู้จิ้ิ้งอวี่โบกมือลากลับไป ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้นกู้จิ้งเจ๋อก็มาถึง
หลินเช่อแปลกใจอย่างมาก เธอเฝ้ามองรถยนต์คันหรูของเขาแล่นเข้ามาเทียบที่ริมถนน แล้วคนของกู้จิ้งเจ๋อก็ออกมาเชิญให้เธอขึ้นรถอย่างนอบน้อม บอกว่าชายหนุ่มนั่งรอเธออยู่ด้านใน
เมื่อได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้มีโอกาสแสดงหนัง หลินเช่อก็อดดีใจไม่ได้ เธอกระโดดขึ้นรถไปหาชายหนุ่มและร้องถามว่า “กู้จิ้งเจ๋อ ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะคะ”
ชายหนุ่มตอบ “ฉันเพิ่งทำงานเสร็จก็เลยอยากจะมารับเธอน่ะ คนที่เพิ่งออกไปนั่น…ใช่กู้จิ้ิ้งอวี่รึเปล่า”
“อา คุณเห็นด้วยเหรอคะ ใช่แล้วละค่ะ”
“ฉันเป็นคนซื้อรถคันนั้นให้เขาเอง ก็เลยจำได้” ว่าแล้วก็หันมาขมวดคิ้วใส่หลินเช่อ “แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ”
หลินเช่อรีบตอบด้วยความตื่นเต้น “กู้จิ้ิ้งอวี่มาชวนฉันไปแสดงหนังฟอร์มใหญ่น่ะค่ะ เขาอยากให้ฉันไปออดิชั่นบทนักแสดงนำหญิง”
หลินเช่อหวนนึกไปถึงตอนที่เธอโดนดูถูกดูแคลนต่างๆ นานาโดยนักแสดงรุ่นพี่ของบริษัทเมื่ออยู่ในงานเลี้ยง เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็รู้สึกว่าเองยังไม่เก่งพอ
เธออยากจะทำงานให้หนักกว่านี้เพื่อที่จะได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อเห็นท่าทียินดีของอีกฝ่าย จึงถามว่า “เธอดีใจที่จะได้เล่นหนังงั้นเหรอ”
หลินเช่อตอบ “ก็ใช่น่ะสิคะ หนังของกู้จิ้ิ้งอวี่น่ะจะต้องออกมายอดเยี่ยมแน่ คุณไม่ได้อยู่ในวงการนี้ คุณไม่รู้หรอกว่าชื่อของเขาน่ะมีพลังมากแค่ไหน แค่มีชื่อกู้จิ้ิ้งอวี่แปะเอาไว้ ก็เชื่อได้เลยว่าตั๋วจะต้องขายหมดเกลี้ยงแน่ เขาเหนือกว่านักแสดงรุ่นเดียวกันทุกคน รับประกันได้ว่าผลงานจะต้องทั้งทำเงินและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางเลยละค่ะ ฉันน่ะเคยแสดงแต่ละครทีวี ผู้กำกับหนังคงจะไม่เลือกนักแสดงอย่างฉันหรอกค่ะ เราอาจจะมีชื่อเสียงก็จริง แต่สำหรับงานภาพยนตร์นั่นมันเป็นอีกมาตรฐานนึงเลยละ”
คิ้วของชายหนุ่มค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน
การได้ยินเธอสรรเสริญเยินยอกู้จิ้ิ้งอวี่แบบนี้ทำให้หัวใจเขารู้สึกอึดอัดแปลกๆ
“มันก็แค่หนัง โลกนี้ยังต้องพึ่งพาเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องแบบนั้น” ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกจากปากไป ชายหนุ่มก็อดเสียใจไม่ได้
นี่เขาเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงได้พูดจาร้ายกาจแบบนี้นะ
แต่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งข้างในกำลังบอกกับเขาว่า เขาไม่ชอบเลยที่เธอแสดงความชื่นชมยกย่องคนอื่น
เขาไม่เคยมีความรู้สึกอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผู้หญิงคนไหน แต่สำหรับหลินเช่อแล้ว เขาอยากจะผูกขาดความคิดทั้งหมดของเธอไว้แต่เพียงผู้เดียว
การจะไปชื่นชนคนอื่นนับเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
เขาคิดถึงว่าหากเธอชื่นชมเขาแบบนั้นบ้าง เขาคงจะพึงใจไม่น้อย แต่หลินเช่อกลับไม่ได้ทำเช่นนั้นกับเขาเพียงคนเดียว เขารู้ดีว่าการคิดเช่นนี้เป็นเรื่องผิด ไร้เหตุผลและไร้จริยธรรม แต่ถึงกระนั้นเขาก็ควบคุมความคิดที่ว่าไม่ได้อยู่ดี
แล้วเขาโพล่งออกมาอีก “ในเมื่อเธอแต่งงานกับฉันแล้ว การจะไปเล่นหนังกับกู้จิ้ิ้งอวี่นั่นมันจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่าหรือเปล่า”
“หา” หลินเช่อไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะไม่ยินดีกับเรื่องนี้จนสีหน้าเคร่งขรึมไป “มันก็แค่หนังเองนะคะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรซักหน่อย”
“หมายความว่ายังไงที่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จิ้งอวี่กับฉันเป็นพี่น้องกัน ถ้าเธอทำแบบนั้นก็เท่ากับผิดศีลธรรมมั้ยล่ะ เธอแต่งงานกับฉัน แต่ก็ยังไม่รับบทเป็นคนรักของเขา แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน”
หลินเช่อผงะ ทีแรกเธอคิดว่าการได้เล่นหนังเรื่องนี้คงจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ทีมงานของกู้จิ้ิ้งอวี่ล้วนเป็นคนเก่งมีความสามารถ เธอไม่มีทางยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปแน่ แต่ตอนนี้เมื่อถูกเขาตำหนิเอา เธอก็เริ่มไม่สบายใจ
อันที่จริงเขาก็พูดถูกนะ
มันเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่จริงๆ นั่นแหละ
ดวงตาของเธอเริ่มแดง และถึงแม้ว่าจะทนรับความคิดนี้ไม่ได้ แต่หญิงสาวก็ยังพูดออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ไปเล่นแล้วก็ได้…”
กู้จิ้งเจ๋อตัวแข็งเมื่อเห็นหลินเช่อตาแดงก่ำไปหมด เมื่อเห็นเธอเป็นฝ่ายยอมถอยให้ เขาก็ทนดูไม่ได้
อยู่ๆ ความหงุดหงิดทั้งมวลที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้คุ้มค่ากันเลยกับที่ทำให้เธอต้องทุกข์ใจ
“ฉันขอโทษ เมื่อกี้ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้น่ะ ถ้าเธออยากจะไปเล่นหนัง ก็ไปเถอะ ฉันก็แค่พูดไปอย่างงั้นเอง”
เขายกมือลูบแก้มเธอแผ่วเบา ไม่อยากจะเห็นความผิดหวังเสียใจใดๆ บนใบหน้านั้นแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะเมื่อเขาคือสาเหตุของความผิดหวังนั้นเสียเอง
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมอง “จริงหรือคะ แต่…พอลองคิดๆ ดูแล้ว มันก็ดูจะไม่ถูกต้องอยู่เหมือนกันจริงๆ นั่นแหละ”
“ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ไม่ได้มีฉากเข้าพระเข้านางมากเกินไปน่ะ”
“เรื่องนี้สามารถขอกับผู้กำกับค่ะ ถ้าฉันสามารถผ่านการทดสอบบทได้น่ะนะคะ”
“ก็ควรจะเป็นแบบนั้น”
หัวใจของหลินเช่ออบอุ่นขึ้นมาทันที “ขอบคุณนะคะ กู้จิ้งเจ๋อ”