เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 238
เธอตั้งใจที่จะคว้าตัวชายหนุ่มผู้นี้มาเพื่อแสดงให้กู้จิ้งเจ๋อได้เห็นว่า ต่อให้ไม่มีเขา ก็ยังมีผู้ชายอีกมากมายที่ยินดีจะเข้ามาข้องแวะกับเธอ และในบรรดาผู้ชายเหล่านั้น ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี้นับว่าเป็นยอดชายคนหนึ่งเลยทีเดียว
ขณะที่คล้องแขนชายหนุ่ม โม่ฮุ่ยหลิงก็ส่งยิ้มให้เมื่อเดินเข้ามาใกล้ทั้งสอง กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วและขยับเท้าก้าวเข้าไปหาเธออย่างลืมตัว
โม่ฮุ่ยหลิงยิ้มให้เขา “ไงคะ จิ้งเจ๋อ มางานเลี้ยงนี่ด้วยเหมือนกันเหรอคะ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เห็นคุณเลยล่ะ”
สายตาของกู้จิ้งเจ๋อจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มข้างตัวหล่อน เขาจำหมอนี่ได้ดี
ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมาก่อนในฐานะหุ้นส่วนธุรกิจ แต่ก็มีอันต้องล้มเลิกไป และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เป็นไปอย่างไม่สู้ดีนักนับจากนั้น
แล้วก็ดูเหมือนว่าโม่ฮุ่ยหลิงเองก็รู้เรื่องนี้ดี เพราะตอนนั้นเธอเองก็เดินทางไปยังประเทศเอ็กซ์พร้อมกับกู้จิ้งเจ๋อ จนทำให้ได้รู้จักกับหลี่หมิงอวี่ผู้นี้
ทว่าตอนนี้ เธอกลับมายืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มผู้นั้นอย่างไม่คาดฝัน
แล้วกู้จิ้งเจ๋อจะยินดีกับเรื่องนี้ได้อย่างไร
ยังไม่พอ หลี่หมิงอวี่ยังเป็นฝ่ายเริ่มต้นที่จะทักทายก่อนอีกต่างหากว่า “ท่านประธานกู้ ไม่ได้พบกันนานเลยทีเดียวนะครับ โอ้ แล้วนี่คุณไปรู้จักสาวสวยคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่จะว่าไปผมก็เข้าใจดีครับ ผมเองก็มีสาวสวยข้างกายเหมือนกัน โอ๊ะ ผมลืมไปสนิทเลย พวกคุณสองคนก็รู้จักกันดีนี่นา”
โม่ฮุ่ยหลิงมองหน้ากู้จิ้งเจ๋อ แล้วเธอก็ได้เห็นประกายตาวูบหนึ่งในดวงตาล้ำลึกของอีกฝ่าย เธอรู้ดีว่าเขากำลังโกรธจัด
เขาโกรธ! ความหวังพุ่งทะยานขึ้นมาในหัวใจของเธอทันควัน พร้อมๆ กันกับความรู้สึกพึงใจที่เกิดขึ้นด้วย เธอดีใจนักที่สามารถทำให้กู้จิ้งเจ๋อโกรธได้เมื่อเห็นเธอควงคู่มากับชายอื่น
ความโกรธของแป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สุดท้ายแล้วเขาก็ยังแคร์เธออยู่
โม่ฮุ่ยหลิงเอ่ยขึ้น “เอาละค่ะ หลี่หมิงอวี่คะ เลิกพูดเล่นซะทีเถอะน่า ตอนนี้ฉันกับจิ้งเจ๋อเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นละค่ะ”
เธอเน้นหนักที่คำว่าเพื่อน และหันไปจ้องหน้ากู้จิ้งเจ๋อชนิดตาไม่กะพริบ
กู้จิ้งเจ๋อไม่สบอารมณ์อย่างหนัก เขาจ้องหน้าหลี่หมิงอวี่โดยที่ไม่พูดอะไร
ส่วนสายตาของหลี่หมิงอวี่นั้นหันมามองยังหลินเช่อ และเขาก็รู้สึกทึ่งไม่น้อยเมื่อได้เห็นเธอ
ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมกู้จิ้งเจ๋อถึงได้ปันใจเมื่อได้พบสาวสวยตรงหน้าผู้นี้
หลินเช่อนั้นเพียงแต่ยืนดูอยู่ข้างๆ และก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร กู้จิ้งเจ๋อก็คว้ามือเธอและลากออกมาจากวงสนทนาเสียก่อน
“นี่ กู้จิ้งเจ๋อ…” หลินเช่อได้แต่ยอมให้เขาลากออกมา
เขาลากหลินเช่อมาจนถึงบริเวณโต๊ะอาหาร และพูดว่า “อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย หาอะไรกินกันดีกว่า”
หลินเช่อหันกลับไปมองคนคู่นั้นอีกครั้งก่อนจะถามว่า “นั่นน่าจะเป็นแฟนใหม่ของคุณหนูโม่ละมั้งคะ”
“ใช่” กู้จิ้งเจ๋อว่า
หลินเช่อพูดต่อ “แล้วคุณจะไม่ถามคุณหนูโม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกหรือคะ ถามเธอซะตอนนี้อาจจะยังไม่สายไปนะคะ”
“ไม่มีอะไรให้ถามนี่ ถึงยังไงเธอก็ควรที่จะได้มีอนาคตของตัวเอง”
“แต่…”
หลินเช่อมองสีหน้าขุ่นใจของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ถนัดนักเมื่อเธอได้ยินเสียงโม่ฮุ่ยหลิงร้องเรียกขึ้นจากทางด้านหลัง “จิ้งเจ๋อคะ”
โม่ฮุ่ยหลิงเดินตรงเข้ามาหา หลินเช่อชะงักและหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังนิ่วหน้า เขายังไม่หายโกรธ
ความโกรธนี้อาจเกิดจากความความริษยาและหึงหวง
เมื่อดูสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว หลินเช่อจึงรีบบอกว่า “โอ้ เชิญพวกคุณตามสบายเถอะค่ะ ฉันจะไปหาอะไรดื่มตรงโน้นก่อนก็แล้วกัน”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อยกชายกระโปรงขึ้นแล้วปลีกตัวออกไป แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ยอมมองหน้าโม่ฮุ่ยหลิง
โม่ฮุ่ยหลิงว่า “จิ้งเจ๋อคะ คุณเป็นอะไรไปน่ะ ที่ไม่ยอมพูดยอมจาแบบนี้หมายความว่ายังไง เราเลิกกันแล้วนี่คะ ไอ้การที่ฉันจะไปคบหาผู้ชายคนอื่นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา”
กู้จิ้งเจ๋อหันขวับมามองหน้าเธอ “ใช่ มันไม่มีปัญหาหรอก แต่เธอก็น่าจะรู้ดีนี่ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉันกับหมอนั่นน่ะ เราเคยมีปัญหากันแล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่คนน่าไว้ใจ ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนะ แล้วทำไมเธอถึงยังไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก”
“ถ้าเขาจะไม่น่าไว้ใจแล้วยังไงคะ ฉันคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาออกนะคะที่ผู้ชายจะใช้เล่ห์เหลี่ยมในการทำธุรกิจน่ะ ฉันว่าเขาน่าประทับใจทีเดียวละ”
“ฮุ่ยหลิง ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้!” กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วและพูดว่า “ในเรื่องธุรกิจน่ะ เล่ห์เหลี่ยมก็คือเล่ห์เหลี่ยม แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีการเล่นสกปรกหรือทรยศหักหลังอย่างที่หมอนั่นใช้ ฉันแค่ไม่อยากให้เธอต้องตกเป็นเหยื่อของเขาหรือถูกต้องถูกหลอก”
กู้จิ้งเจ๋อหลับตาก่อนที่จะมองไปอีกทางหนึ่ง ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ช่างเถอะ ถ้าเธอคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร งั้นก็ช่างมันก็แล้วกัน ฉันก็แค่หวังว่าเธอจะไม่เสียใจเท่านั้นเอง ระวังตัวด้วยล่ะ ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา เธอสามารถขอความช่วยเหลือจากฉันได้เสมอ แต่อย่าปล่อยให้เขาหลอกลวงหรือเอาเปรียบเธอก็แล้วกัน”
หัวใจของโม่ฮุ่ยหลิงพองโตด้วยความยินดีเมื่อได้เห็นความหงุดหงิดหัวเสียอย่างที่นานครั้งจะได้เห็นจากชายหนุ่ม หญิงสาวรู้สึกเป็นปลื้มสุดๆ กับแผนการครั้งนี้ของตัวเอง
“ฉันจะทำอะไรได้คะ จิ้งเจ๋อ จำไว้ด้วยสิคะ ว่าไม่ว่าฉันจะทำอะไร คุณต่างหากที่เป็นฝ่ายทรยศฉันก่อน คุณเป็นฝ่ายทอดทิ้งฉันก่อน เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันจะได้เจอผู้ชายที่วิเศษซักแค่ไหนในอนาคต มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ให้ฉันมองหาผู้ชายที่เหนือกว่าคุณได้ในเมื่อคุณเองก็ไม่ต้องการฉัน ฉันว่าเขาหล่อดีออกค่ะ แล้วก็รวยมาก แล้วก็เก่งมากๆ ด้วย เขาเป็นคนดีที่หาได้ยากคนหนึ่งเลยละ”
เมื่อพูดจบ โม่ฮุ่ยหลิงก็เดินจากไปทันที
กู้จิ้งเจ๋อทำได้เพียงเบือนหน้าหนีและส่ายหน้าอย่างเงียบๆ
ในใจของเขาโกรธจัดทีเดียว ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปหยิบแก้วเครื่องดื่ม หลังจากดื่มน้ำ เขาก็หมุนตัวและออกเดินหาหลินเช่อ
แม้ว่าเขาจะเคยอยากให้โม่ฮุ่ยหลิงได้พบผู้ชายคนใหม่และได้มีชีวิตใหม่มากเพียงใด แต่มันก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น เมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเข้าจริงๆ แล้ว มันกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
อีกอย่าง เขารู้สึกได้ว่าฮุ่ยหลิงยอมสละอนาคตของตัวเองเพื่อทำเรื่องแบบนี้ คือคบหากับผู้ชายที่จะทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาได้
ทำไมหล่อนถึงได้เป็นคนไร้เหตุผลและทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ได้นะ
เขาทั้งโกรธและผิดหวังในตัวโม่ฮุ่ยหลิง และความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็เริ่มที่จะมีความสับสนซับซ้อนขึ้นมาชั่วขณะ
เมื่อได้ล้างแค้นกู้จิ้งเจ๋อสมใจแล้ว โม่ฮุ่ยหลิงก็รีบกลับไปหาหลี่หมิงอวี่
หลี่หมิงอวี่ว่า “นี่เธอเลิกกับกู้จิ้งเจ๋อแล้วจริงๆ น่ะเหรอ เธอกล้าทำแบบนั้นได้ยังไงกันน่ะ ก็ไหนเมื่อก่อนเธอเคยบอกฉันว่า กู้จิ้งเจ๋อน่ะมีทั้งเงิน ทั้งอำนาจ หนำซ้ำยังหล่อเหลาอีกต่างหาก เธอบอกเองด้วยซ้ำว่าเขาคือผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก และเธอก็มั่นใจว่าเธอจะได้แต่งงานกับเขา แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ยอมแพ้เสียล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณหรอกน่ะ” โม่ฮุ่ยหลิงพูดอย่างโกรธๆ “เขาก็แค่โง่เง่าแล้วก็หลงลมไปชั่วคราวเท่านั้นแหละ ดูนังผู้หญิงที่ควงมากับเขานั่นสิ หล่อนทั้งอัปลักษณ์ ทั้งน่าขยะแขยง แถมยังไร้รสนิยมอีกต่างหาก เป็นผู้หญิงชั้นต่ำขนานแท้เลยเชียวละ หล่อนกำลังฉุดจิ้งเจ๋อให้พบกับความพินาศ ซักวันเขาจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้แน่”
ตรงกันข้าม เมื่อหลี่หมิงอวี่หันไปมองหลินเช่อที่กำลังสนทนาอย่างน่าเริงกับคนอื่นอยู่ ก็พูดขึ้นว่า “ไม่หรอกน่า ฉันคิดว่าหล่อนสวยดีออก หน้าหล่อนน่ะสวยแปลกไม่เหมือนใคร น่ามองออกจะตายไป”
“นี่คุณ…” โทสะของโม่ฮุ่ยหลิงพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันทีที่เธอได้ยินผู้ชายคนนี้เอ่ยชมหลินเช่อ “แต่มันก็เป็นแค่ผู้หญิงพื้นๆ ผู้หญิงพื้นๆ น่ะเข้าใจมั้ย ก็แค่ผู้หญิงแพศยา ฉันละอยากรู้นักว่าหล่อนไปทำหน้ามาที่ไหน” โม่ฮุ่ยหลิงพ่นลมพรืดอย่างหัวเสีย
“โอเค โอเค โอเค หล่อนเป็นแค่ผู้หญิงพื้นๆ ฉันเข้าใจแล้ว”
โม่ฮุ่ยหลิงมองหน้าชายหนุ่ม
แน่ละว่าที่เธอเข้าหาเขาในตอนแรกนั้น เป็นเพราะว่าเขาและกู้จิ้งเจ๋อเคยมีเรื่องบาดหมางกัน เธอคิดว่าผู้ชายที่เคยมีความสามารถขนาดกล้ามีเรื่องกับกู้จิ้งเจ๋อได้น่าจะเป็นคนเก่งกาจไม่น้อย
แต่เมื่อเธอมองดูเขาในตอนนี้แล้ว เขากลับไม่ได้มีอะไรชวนให้หลงใหลเหมือนกู้จิ้งเจ๋อเลยแม้แต่น้อย ถึงเขาจะทรงอิทธิพลอย่างมากในประเทศเอช แต่ประเทศเอชนั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับประเทศซีเลยแม้ซักนิด ยิ่งพูดถึงความมั่งคั่งแล้ว ก็ยิ่งไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง
เวลาที่ไม่ได้ยืนอยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋อ ข้อเปรียบเทียบนั้นก็ยังไม่เด่นชัดเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอนำผู้ชายสองคนนี้มายืนเทียบกันแล้วละก็ เธอก็รู้สึกได้ทันทีว่า การที่จะมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบและทรงอำนาจขนาดกู้จิ้งเจ๋ออยู่บนโลกนี้ นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ
แต่ตอนนี้ กู้จิ้งเจ๋อกลับไปยืนเคียงข้างหลินเช่อเสียนี่