เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 247
ในโถงทางเดิน หลินเช่อยังคงยืนสับสนงงงุน แล้วเธอก็ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อที่เดินลิ่วตัวปลิวเข้ามาหา ประกายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด วิตกกังวล สีหน้าดูกำลังเหลืออดเต็มที ดวงตาที่หรี่มองมาวาววับราวกับคมมีด
เขาเดินเข้ามายืนอยู่ข้างตัวเธอ
มือใหญ่ทั้งสองข้างคว้าไหล่ของหลินเช่อไว้ และกวาดมองขึ้นๆ ลงๆ “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึงได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลนี่”
หญิงสาวอึ้งไป ก่อนจะตอบตะกุกตะกักว่า “คะ…คุณยายของฉันอยู่ที่นี่น่ะค่ะ ฉันพาท่านมาส่งที่นี่ ทำไมหรือคะ”
ดวงตาของชายหนุ่มอ่อนแสงลง
ยายของเธอเหรอ
มือของเขาที่จับไหล่เธอแน่นคลายลง สายตาก็เบือนหนีไปอีกทางขณะที่เจ้าตัวคิด ไม่ใช่ตัวหลินเช่อเองหรอกเหรอ
หญิงสาวรีบถามต่อ “ทำไมหรือคะ ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่าคะที่รีบออกมาจากบ้านปุบปับแบบนั้น มันกะทันหันน่ะค่ะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกคุณก่อน แต่ฉันกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาทำงานของคุณ”
“…”
หล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโกรธมากเพราะอยู่ๆ เธอก็หายตัวไปแบบนี้
บางทีด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด คงทำให้ยัยหลินเช่อคิดได้แค่นี้แหละ
สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงและยกมือขึ้นเขกหัวหล่อน “ถ้าเธอยังกล้าหนีออกไปไหนโดยไม่ยอมบอกฉันแบบนี้อีกละก็ จะได้เห็นดีกัน”
หลินเช่อไม่รู้ซักนิดว่าเขาเป็นกังวลขนาดไหนเมื่อได้รู้ว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล
แต่จะบอกไปตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อเธออยากให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้นี่นะ
“ค่ะ…ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันขอโทษด้วย” หลินเช่อรีบบอก
เมื่อได้เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นอะไร เขาก็ยินดีที่จะยกโทษให้เธอโดยไม่ติดใจอะไร นี่เขากลายเป็นคนปล่อยวางง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แต่การได้เห็นหลินเช่อปลอดภัยดี แค่นี้ก็ทำให้เขาโล่งอกมากแล้ว จนเมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาวขึ้นมาได้ เขาก็ถามว่า “หมายความว่ายังไงที่เธอบอกว่ายายของเธออยู่ที่โรงพยาบาลนี่น่ะ”
“อ๋อ” หลินเช่อรีบเล่าให้ชายหนุ่มฟังเกี่ยวกับผู้เป็นยาย
กู้จิ้งเจ๋อรับฟังและบอกว่า “เอาละ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
หลินเช่อกลัวว่าจะทำให้เขาต้องยุ่งยากจึงไม่ได้บอกชายหนุ่มให้รู้ แต่เมื่อได้ยินเขาบอกแบบนี้ เธอก็รีบทัดทาน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่การผ่าตัดเล็กๆ เท่านั้นเอง เดี๋ยวฉันจ่ายเอง…”
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วแน่น เมื่อได้ยินหลินเช่อพูดจาเหมือนคนอื่นคนไกล เขาก็ตวัดสายตาใส่เธอและถามว่า “นี่เธออยากจะมาคิดเล็กคิดน้อยกันตอนนี้นักใช่มั้ย งั้นเราค่อยกลับไปพูดกันให้รู้เรื่องก็ได้ แต่ตอนนี้อะไรสำคัญกว่ากันกันแน่ หัดให้หัวคิดหน่อยสิ”
หลินเช่อชะงัก กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองเธอและส่งสัญญาณบอกให้คนของเขาเข้ามาจัดการเดินเรื่องต่างๆ
หญิงสาวคิดอย่างขมขื่นอยู่ในใจ เธออยากทำทุกอย่างให้ชัดเจนถี่ถ้วนน่ะสิ ก็ในเมื่อเธอกับเขาจะต้องแยกทางกันในไม่ช้าก็เร็วนี้แล้ว จะมาปล่อยทุกอย่างให้สับสนปะปนไปทำไมกัน
แต่ที่เขาตำหนิเธอมาก็มีส่วนถูก เรื่องของคุณยายสำคัญกว่าในตอนนี้ และเธอก็ควรจะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ก่อน
เพียงครู่เดียว กู้จิ้งเจ๋อก็หายตัวไป
หลินเช่อพยายามจะตามหาเขา แต่อวี๋หมินหมิ่นเดินออกมาถามเสียก่อนว่า “มัวแต่มองอะไรอยู่น่ะ ท่านประธานกู้เข้าไปเยี่ยมคุณยายในห้องพักแล้วนะ”
อะไรนะ
ทันทีที่ได้ยิน หลินเช่อก็วิ่งเข้าไปข้างใน
หยางหลิงซินเพิ่งก้าวออกมาจากห้องเมื่อเธอเห็นหลินเช่อ เด็กสาวร้องด้วยความประหลาดใจ “พี่อวี๋บอกฉันว่านั่นคือกู้จิ้งเจ๋อ แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าพวกพี่สองคนแต่งงานกันแล้ว…พี่หลินเช่อ พี่แต่งงานแล้วจริงๆ หรือคะ”
หน้าของเด็กสาวยังแดงเรื่อ ซึ่งหลินเช่อก็ชินเสียแล้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงทุกคนที่ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อจะพลอยมีอาการเช่นนี้กันไปหมด ไม่ว่าจะได้เจอเขาซักกี่ครั้ง ทุกคนก็ยังคงคิดว่าเขาหล่อเสียจนพวกเธอต้องหน้าแดง
หลินเช่อยิ้มแหยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก รีบเดินเข้าห้องไปดูคุณยาย
ข้างในห้อง ชายหนุ่มกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วย
ยายของเธอนอนอยู่บนเตียงพลางมองดูเขา ยิ้มกว้างด้วยความยินดีเสียจนตาหยีเป็นเส้นตรง เมื่อได้ยินเสียงหล่อนก็ลุกขึ้นและได้เห็นหลินเช่อที่ยืนตัวแข็งอยู่ที่ประตู ยายของเธอจึงพูดว่า “เสี่ยวเช่อ ไม่เห็นบอกยายเลยว่าหลานแต่งงานแล้วน่ะ”
หลินเช่อยิ่งช็อกหนักกว่าเก่า เธอหันไปดูกู้จิ้งเจ๋อที่มองตรงมาทางเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอจึงรีบเดินเข้าไปอธิบาย “ยายคะ…หนูไม่ทันได้บอกน่ะค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อคิดอยู่ในใจ ว่ามันไม่ใช่เพราะเธอไม่ทันได้บอกหรอก แต่เพราะว่าเธอไม่อยากจะบอกให้รู้ต่างหากล่ะ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนอย่างเขา กู้จิ้งเจ๋อ กลายเป็นสามีที่ไม่มีใครอยากป่าวประกาศให้คนอื่นรู้
ตอนนี้เขาอยากจะบีบคอหลินเช่อนัก
ยายของเธอพยักเพยิดให้หญิงสาวเข้ามาใกล้ๆ “โอ้ เสี่ยวเช่อ สามีของหลานหล่อเหลาเหลือเกิน จนยายแก่ปูนนี้แล้วก็ยังไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต นี่เขาเป็นดาราหนังหรือไงจ๊ะ เขาดูดีกว่าพวกคนที่อยู่ในโทรทัศน์อีกนะเนี่ย”
หลินเช่อหันไปมองคนที่กำลังตีหน้าเย็นชา ท่าทีที่ดูอ่อนโยนลงในวันนี้ทำให้เขาดูดียิ่งกว่าปกติ แต่ไม่ว่าจะมีสีหน้าแบบไหนเขาก็สามารถหักอกผู้หญิงได้อยู่ดีนั่นเอง
ยายของหลินเช่อพูดต่อไปอีก “โอ้ จริงสิ สามีของหลานเป็นคนดีมากจริงๆ เขาบอกว่าอยากจะช่วยยายรักษาอาการป่วย นั่นจะไม่เป็นภาระให้กับพวกเธอทั้งสองคนจนเกินไปหรือจ๊ะ”
หลินเช่อเหลือบมองกู้จิ้งเจ๋อก่อนจะตอบว่า “คุณยายคะ คุณยายจะเป็นภาระของหนูได้ยังไงล่ะคะ อย่ากังวลไปเลยค่ะ กู้…จิ้งเจ๋อจัดการนัดหมายแพทย์เรียบร้อยแล้วละค่ะ”
หลินเช่อหันไปมองเขาอย่างนึกขอบคุณ แต่อีกฝ่ายกลับมีเพียงสายตาเย็นชาตอบกลับมา
หญิงสาวทำปากยื่นและคิดว่า อีกหน่อยก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ยังจะมาทำสายตาเย็นชาใส่เธออีกทำไมล่ะเนี่ย
เนื่องจากกู้จิ้งเจ๋อเป็นธุระจัดการทุกอย่างให้ทั้งหมดแล้ว ไม่นานหลังจากนั้น คุณยายก็ถูกนำตัวขึ้นรถเพื่อย้ายไปยังโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ดีกว่า
ในขณะเดียวกัน กู้จิ้งเจ๋อก็คอยเฝ้ามองแต่ใบหน้าของหลินเช่อ ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธ แต่เขาก็ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานใจของเธอ เขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างปลอบประโลม “เอาละ หลินเช่อ ฉันสอบถามหมอมาแล้วเรื่องอาการป่วยของยายเธอ ร่างกายของท่านแข็งแรงกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ท่านน่าจะทนการผ่าตัดไหวอย่างแน่นอน”
หลินเช่อยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าเธออยากขอบคุณจริงๆ ละก็ คราวหน้าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ได้ยินรึเปล่า” เขาว่า
หลินเช่อรับคำ “ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ค่ะ ท่านซีอีโอ ดิฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดลงโทษดิฉันด้วย”
นี่เธอจะยอมให้เขาลงโทษเธอจริงๆ น่ะรึ
สายตาของชายหนุ่มกวาดไปทั่วส่วนเว้าโค้งของเรือนร่างเธอ เขาอยากจะผลักเธอลงบนเตียงของโรงพยาบาลแล้วกระชากเสื้อผ้าเธอออกซะเดี๋ยวนั้น
แต่ถึงอย่างไร เขาก็คงทำได้แค่มองเท่านั้น
“เอาละ ไปกันเถอะ”
ตอนนั้นเอง อวี๋หมินหมิ่นก็เดินตามมาทางด้านหลังและบอกว่า “ท่านประธานกู้ คุณผู้หญิง เราจะกลับกันก่อนละนะ”
หลินเช่อบอกว่า “ทั้งสองคนเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวเราไปส่งดีกว่าค่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นอยากจะปฏิเสธ แต่กู้จิ้งเจ๋อรีบสำทับเสียก่อนว่า “จริงด้วย ไปพร้อมกันทั้งหมดนี่นั่นแหละ ฉันจะไปส่งพวกเธอที่บ้านเอง”
โดยปกติอวี๋หมินหมิ่นก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธอะไรกู้จิ้งเจ๋ออยู่แล้ว เธอจึงได้แต่พยักหน้าแต่โดยดี
ส่วนหยางหลิงซิน เมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อปลีกตัวออกไปก่อน เธอก็รีบเดินเข้ามาหาหลินเช่อ “พี่หลินเช่อคะ พี่ไม่เห็นเคยบอกฉันเลยว่าพี่เป็นคุณนายกู้น่ะ”
หลินเช่อมองหน้าเด็กสาว “เธอรู้ด้วยเหรอว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นใคร”
“รู้สิคะ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ฉันน่ะอยากเรียนเศรษฐศาสตร์แล้วก็เข้าทำงานที่กู้ อินดัสทรี่ออกจะตาย…แต่ฉันก็เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ฉันรู้ดีค่ะว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นใคร แต่เขาค่อนข้างจะลึกลับน่ะ ฉันก็เลยไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง”