เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 253
หลินเช่อเงยหน้า เธอทำท่าจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่กดไหล่เธอเอาไว้ให้นั่งลงตามเดิน
หญิงสาวจึงหมุนตัวมา และได้เห็นชายหนุ่มที่กำลังตาแดงก่ำทีเดียว สีหน้าของเขายังคงเย็นชาดุจเดิม แต่ดวงตานั้นอ่อนล้าโรยแรงจากการอดนอน ดูเหมือนเขาจะตรงมาที่นี่ทันทีหลังจากที่ทำงานเสร็จ
ก่อนที่หลินเช่อจะทันได้พูดอะไร กู้จิ้งเจ๋อก็จุ๊ปากและชี้ไปที่เตียง เขาดึงตัวเธอขึ้นและพาออกมาด้านนอกอย่างเงียบเชียบ
ที่นอกห้อง เขาปล่อยมือและถามเธอว่า “การผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง”
เสียงนั้นแหบพร่าไปหมดจนหลินเช่อต้องถาม “นี่คุณทำงานทั้งคืนโดยที่ไม่ได้นอนเลยเหรอคะ”
ชายหนุ่มตอบ “มีอีกสองสามเคสถูกส่งเข้ามาน่ะ ฉันก็เลยต้องจัดการทั้งหมด ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็จัดการไปได้ประมาณนึงแล้วละ”
หลินเช่อไม่สบายใจที่เห็นสภาพเขาย่ำแย่ขนาดนี้แต่เธอกลับช่วยอะไรไม่ได้
เธอเกลียดตัวเองที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ จึงไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย
แถมตอนนี้ยังมาสร้างปัญหาให้เขาอีก และถึงจะงานยุ่ง แต่เขาก็ยังมาแสดงความห่วงใยในตัวคุณยายของเธอ
“คุณยายปลอดภัยดีค่ะ การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แต่ผลทดสอบจากห้องแล็ปยังไม่ออกมา” เธอบอก
เขาพยักหน้าและยกมือขึ้นประคองใบหน้าของเธอไว้ “อย่ากังวลให้มากเกินไปล่ะ”
“ค่ะ คุณยายจะต้องไม่เป็นไร คุณเองก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลย แล้วทำไมถึงไม่ไปพักล่ะคะนี่” หลินเช่อมองดูใต้ตาที่เริ่มบวมและดำคล้ำของเขา ถึงแม้ว่าจะทำให้ดูหล่อแบบป่วยๆ แต่มันก็ดูไม่ดีจะดีต่อสุขภาพเลย
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ยังมีงานอีกนิดหน่อยที่ยังไม่เสร็จน่ะ…”
“ยังอีกหรือคะ ไหนคุณบอกว่าทำเสร็จไปประมาณนึงแล้วไงล่ะ”
“ก็ประมาณนึง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดไงล่ะ ยัยบ๊องเอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันเพิ่งจะประชุมในห้องข้างๆ นี่เสร็จไป เหลืออีกไม่มากแล้วละ ยังมีเอกสารที่ต้องดูอีกนิดหน่อยเท่านั้น”
หลินเช่อหันกลับไปดูก็ได้เห็นว่ายายของเธอยังคงหลับสนิท และท่าทางน่าจะยังไม่ตื่นอีกนานเสียด้วย หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นและถามเขาว่า “ถ้างั้นมีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ”
“งั้นก็มาคอยนั่งมองฉันอยู่ข้างๆ นี่แล้วกัน” เขาไม่คิดว่าด้วยระดับสติปัญญาของเธอ หลินเช่อจะช่วยอะไรได้
“ไม่เอาสิคะ ให้ฉันทำอะไรซักอย่าง ฉันสามารถ…ทำพวกงานจับฉ่ายในออฟฟิศได้นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ฉันช่วยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาหรืออะไรพวกนี้ได้ อย่าดูถูกกันสิคะ! นี่ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยมานะ!”
หลินเช่ออยากจะช่วยไม่ด้วยทางใดก็ทางหนึ่งเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์
กู้จิ้งเจ๋อหันมองอีกฝ่ายและพยักหน้า ตัดสินใจว่าจะให้เธอได้ช่วยงานสมใจ
หลินเช่อลิงโลดด้วยความดีใจ ก่อนจะเข้าไปในห้องข้างๆ พร้อมกับชายหนุ่ม
ทุกอย่างได้รับการจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใช้เป็นห้องประชุมสำหรับกู้จิ้งเจ๋อเรียบร้อยแล้ว ทั้งคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและเอกสารต่างๆ
หลินเช่อเดินเข้าไปดู เอกสารแบบฟอร์มเหล่านั้นเต็มไปด้วยตัวเลขและเธอ…ก็ไม่เข้าใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว
กู้จิ้งเจ๋อถาม “ทำไมเหรอ เธอรู้วิธีจัดการกับเอกสารพวกนี้ด้วยรึ”
หลินเช่อเงยหน้ามองแล้วก็หัวเราะแหะๆ และอ้อมแอ้มแก้ตัวว่า “ฉะ…ฉันไม่ค่อยเก่งเลขเท่าไหร่น่ะค่ะ มีพวกอะไรที่ใช้ภาษามั้ยคะ”
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ถ้างั้น…เธอช่วยแยกเคสพวกนี้ให้เป็นภาษาต่างๆ ทีได้มั้ย”
หลินเช่อยิ้มแป้นแล้วหยิบกองเอกสารนั้นขึ้นมา
ให้ตายเถอะ มีแต่ประโยคแปลกๆ เต็มไปหมด
เธออยากจะเป็นลมให้ได้ “คือ…ฉันไม่เก่งเรื่ององค์ประกอบประโยคขนาดนั้นน่ะค่ะ แค่พอจะจำโคลงกลอนต่างๆ ได้ มีอะไรให้…”
กู้จิ้งเจ๋อมองหญิงสาวที่พยายามจะหาข้ออ้างต่างๆ นานาเพื่อรักษาหน้าตัวเองไปน้ำขุ่น แล้วเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา
รอยยิ้มแรกของวันทำให้ใบหน้าเหนื่อยล้าของเขาดูสดใสขึ้น
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ได้เห็นเขากำลังยิ้ม เรียวปากที่บิดโค้งนั้นทำให้หลินเช่อมองอย่างตะลึงงัน
กู้จิ้งเจ๋อไม่ค่อยจะยิ้มบ่อยนัก แต่เมื่อเขายิ้มมันก็ทำให้เขาดูดีมากจริงๆ
และเพราะรอยยิ้มน่าชื่นตานี้เอง ที่ทำให้เธอยอมให้อภัยที่เขาบังอาจล้อเลียนเธอก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นเขาก็เลิกล้อเลียนเธอ และชี้ไปที่กองข้อมูล “เธอช่วยฉันจัดการเอกสารพวกนี้ก็แล้วกัน”
“ฉันต้องทำยังไงคะ” หลินเช่อตื่นเต้นกับงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย ท่าทีกระตือรือร้นของเธอมีความหมายสำหรับเขาอย่างมาก
“แยกเอกสารออกตามวันที่”
“อา ได้เลยค่ะ ฉันจัดการเอง! อย่างห่วงเลยนะคะ รับรองว่าฉันทำเสร็จแน่!” หลินเช่อคิดว่ามันไม่น่าจะยากอะไร เธอจึงรีบนั่งลงและเริ่มทำงานทันที
หลังจากนั้น กู้จิ้งเจ๋อก็นั่งลง ทำงานในสมุดบันทึกบ้าง พิมพ์ในคอมพิวเตอร์บ้าง บางครั้งก็วิดีโอคอล บางทีก็พูดภาษาต่างประเทศ ทุกอย่างยุ่งเหยิงวุ่นวายจนเขาละมือไม่ได้เลย
หลินเช่อนั่งอยู่ข้างๆ จดบันทึก และจัดเรียงข้อมูลตามลำดับเวลา
นี่เป็นงานที่น่าเบื่ออย่างมาก การทำงานในออฟฟิศนี่ไม่ใช่ของง่ายเลย แม้ว่าการถ่ายทำซีรีส์จะเหนื่อยก็จริง แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีความหมายและไม่น่าเซ็งขนาดนี้
ในที่สุดหลินเช่อก็ทำงานเสร็จ เมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อยังง่วนอยู่กับงานและไม่ได้หันมาสนใจเธอ หญิงสาวจึงนั่งรอ เพียงไม่นาน ความง่วงงุนก็เข้ามาครอบงำจนเธอเกือบจะเผลอหลับไป
กว่าชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาเห็น ใบหน้าของหลินเช่อก็เป็นรอยวงปากกาเต็มไปหมดแล้ว
อารมณ์หงุดหงิดเซื่องซึมจากการอดนอนในตอนแรกของชายหนุ่ม เมื่อได้เห็นสภาพใบหน้าน่าขันของหญิงสาว ก็ทำให้เขาพลอยอารมณ์ดีขึ้นทันที เขามองหน้าเธอและร้องเรียกว่า “หลินเช่อ…”
หลินเช่อสัปหงกหงึก ท่าทางเธอดูน่ารักน่าหยิกที่สุด
แต่…
เธอดันทำน้ำลายยืดนองไว้เป็นวงบนเอกสารที่เธอเพิ่งจัดเรียงเสียดิบดีนี่สิ…
กู้จิ้งเจ๋อขยับเข้ามาและดึงปากกาออกจากใต้คางเธอ
ศีรษะของเธอตกแนบลงไปกับโต๊ะและสะดุ้งตื่นขึ้นทันที เธอลืมตาขึ้นและได้เห็นชายหนุ่มกำลังยืนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ข้างตัว
ให้ตายสิ…
หลินเช่อกระวีกระวาดลุกขึ้นและร้องว่า “กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณทำอะไรน่ะ” เธอยกมือเช็ดปากและรู้สึกได้ถึงความเปียกชุ่ม ด้วยความตกใจ เธอรีบก้มดูที่โต๊ะ นั่นน้ำลายนองเป็นวงเชียว
“ตายแล้ว เอกสารนี่สำคัญหรือเปล่าคะ” หญิงสาวช็อกสนิท คิดว่าตัวเองน่าจะทำพลาดครั้งใหญ่เสียแล้ว
นี่ตกลงเธอจะทำได้ให้ได้เรื่องซักอย่างไม่ได้เลยใช่มั้ยนะ
“ช่างเถอะ ไม่เป็นไรหรอก” กู้จิ้งเจ๋อบอก
หลินเช่อมองหน้าเขา มันจะไม่เป็นไรได้ยังไงล่ะ “บอกความจริงฉันมาดีกว่าค่ะ เอกสารนี่มีมูลค่ามากแค่ไหนคะ”
“ก็ไม่เชิง ข้อมูลพวกนี้ครอบคลุมงานสามโปรเจ็กต์ แต่ละโปรเจ็กต์ก็เป็นเงินลงทุนประมาณสิบสามล้านน่ะ”
“…” นี่ตกลงเธอทำน้ำลายยืดใส่งานไปกี่ล้านล่ะเนี่ย หลินเช่อยิ่งเวียนหัวหนักขึ้นไปอีก
“โอย ฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรอกนะคะเนี่ย ฉันจะต้องทำยังไงคะ กู้จิ้งเจ๋อ ฉันจะต้อง…”
กู้จิ้งเจ๋ออดคิดไม่ได้ว่าหลินเช่อนั้นซื่อบื้ออย่างที่สุด ถ้าเขาไม่ดูแลเธอให้ดี ด้วยสมองอันน้อยนิดนี่มีหวังยัยนี่คงจะต้องถูกหลอกทั้งที่ไม่รู้ตัวแน่
ถึงเขาจะบอกว่าข้อมูลพวกนี้มีมูลค่ามหาศาล แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าราคาของมันขึ้นอยู่กับมูลค่าที่แท้จริงของโปรเจ็กต์ต่างหากล่ะ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็อยากจะแกล้งให้เธอกังวลใจต่อไปอีกหน่อย ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่ทำให้เขาโมโหไงล่ะ
เขายิ้มและขยับเข้ามาใกล้ “นี่เธอเสียใจจริงรึเปล่า”
“จริงสิคะ…” หลินเช่อรู้สึกผิดอย่างที่สุด
แล้วเขาก็คว้าแขนเธอ ลากไปที่โต๊ะทำงาน
หลินเช่อผงะ เธอนั่งลงบนโต๊ะ ขาทั้งสองข้างแยกห่างจากกันเล็กน้อย
และจุดสำคัญของร่างกายเธอก็อยู่ตรงกลางลำตัวเขาพอดิบพอดี…