เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 256
หยางหลิงซินหัวเราะ “คุณยายคะ คุณยายน่ะไม่รู้อะไร ท่านประธานาธิบดีน่ะเป็นพี่ชายของท่านประธานกู้ ตึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศซีนี่ก็เป็นของกู้จิ้งเจ๋อ บ้านหลังงามที่สุดก็เป็นของกู้จิ้งเจ๋อ คนที่รวยที่สุดในประเทศนี้ก็ยังเป็นกู้จิ้งเจ๋อ เพราะฉะนั้นพี่เช่อน่ะไม่มีทางแต่งงานกับคนที่ดีกว่านี้ได้แล้วละค่ะ”
“โอ้ ถ้าอย่างงั้นก็ดีจริงๆ สินะ” หญิงชราไม่ค่อยเข้าใจคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีทางแต่งงานกับคนที่ดีกว่านี้ได้แล้ว’ ซักเท่าไหร่นัก
หล่อนทอดถอนใจด้วยความทึ่งพลางรำพึงรำพันว่า “ฉันไม่เคยได้อยู่บ้านดีๆ แบบนี้มาก่อนเลย นี่มันอย่างกับวังทีเดียวนะ”
แต่หยางหลิงซินไม่อยากจะพูดอะไรด้วยอีกแล้ว เด็กสาวเบือนหน้าหนี สีหน้าของเธอกลายเป็นบึ้งตึงเย็นชา
เมื่อคุณยายยอมอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้น หลินเช่อก็สบายใจ เธอจึงตรงไปที่บริษัทเพื่อจัดการงานบางอย่างกับอวี๋หมินหมิ่นทันที
งานประกาศผลรางวัลแพนด้าทีวีเฟสติวัลนั้นได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออกมาในเวลาไม่นาน และมันก็ถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ต
แล้วทุกคนก็ได้เห็นชื่อของหลินเช่อที่ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในละครโทรทัศน์ ไม่ช้าทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่
แต่ไม่ช้า พวกเขาก็ได้รู้ว่า มู่เฝ่ยหรานเองก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดารานำหญิงด้วยเช่นกัน
ชาวเน็ตจึงพากันพูดไปเสียงเดียวกันว่าน่าเสียดาย หลินเช่อไม่น่าจะมีโอกาสแม้แต่น้อยถ้าหากว่ามีมู่เฝ่ยหรานเป็นคู่แข่ง อันที่จริงเป็นใครก็ไม่มีโอกาสทั้งนั้นนั่นแหละ
แต่ก็ยังมีคนบอกอีกว่า มันก็ไม่แน่เสมอไป บางทีทางแพนด้าทีวีเฟสติวัลอาจจะอยากสร้างเรื่องพิเศษในปีนี้ด้วยการให้หลินเช่อสร้างซีนใหญ่ในงานประกาศผลรางวัลปีนี้เพื่อเรียกความสนใจก็เป็นได้
แต่ถึงอย่างไร คนส่วนใหญ่ในบริษัทก็ไม่ค่อยจะหวังกันนัก ลำพังแค่ได้รับการเสนอเข้าชิงก็ว่ายากแล้ว แต่นี่กลายเป็นว่ามีมู่เฝ่ยหรานกลับได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเดียวกันด้วยแบบนี้ จะเรียกว่าหายนะก็ว่าได้
หลินเช่อปรบมือและร้องบอกทุกคน “เอาละค่ะพี่น้องทุกคน เอาเป็นว่าปีนี้ฉันลองไปชิมลางดูก่อนก็แล้วกัน แล้วปีหน้าเราจะต้องชนะแน่ๆ โอเคมั้ยคะ”
อวี๋หมินหมิ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ กระซิบ “พอที! เนี่ยเหรอวิธีสร้างขวัญกำลังใจของเธอน่ะ บอกว่ายอมแพ้แต่เนิ่นๆ แบบนี้เนี่ยนะ”
หลินเช่อตอบ “ช่างมันเถอะค่ะ ลองมามีพี่เฝ่ยหรานเข้าชิงด้วยแบบนี้ ฉันไม่มีหวังหรอกค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงฉันก็อุตส่าห์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแล้วนี่นา ลองดูรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อสิคะ แต่ละคนล้วนเป็นดาราแถวหน้าด้วยกันทั้งนั้น ได้เบียดเข้าไปอยู่รวมกับพวกนี้ได้น่ะก็นับเป็นเกียรติยิ่งใหญ่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”
อวี๋หมินหมิ่นว่า “เธอก็พูดถูกอยู่นะ เอาเถอะ โอกาสอาจจะไม่มากมายอะไร แต่เราก็ยังจะไปร่วมงานประกาศผลรางวัลกันอยู่นะ พวกเราต้องเตรียมใจให้พร้อมแล้วก็ช่วยกันเตรียมชุดให้หลินเช่อด้วย ไหนดูซิว่าเราพอจะหาสปอนเซอร์เสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ ได้รึเปล่า ฉันเชื่อว่ามันจะช่วยทำให้เธอโดดเด่นสะดุดตา”
เมื่อทุกคนได้ยินหญิงสาวทั้งสองพูดก็เริ่มขยับตัวทำงานกันทันที
ตกกลางคืน เฉินโยวหรานรู้ข่าวว่ายายของหลินเช่ออยู่ที่นี่ เธอจึงรีบตรงมาเยี่ยมในทันที
เฉินโยวหรานกับหลินเช่อกำลังพากันเดินเข้าบ้าน ผู้เป็นเพื่อนมองดูรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ “กู้จิ้งเจ๋อนี่ดีกับเธอเหลือเกินนะ อุตส่าห์ซื้อบ้านหลังโตขนาดนี้ให้ยายเธออยู่ แต่ก็จริงอย่างว่านั่นแหละ บ้านอาจจะเปรียบเหมือนสวรรค์ของเรา แต่ก็อาจจะเกิดแค่ทรัพย์สินอีกแห่งหนึ่งของกู้จิ้งเจ๋อเท่านั้นเอง”
เฉินโยวหรานเป็นคนคุยสนุกและนอบน้อมถ่อมตัว คุณยายจึงประทับใจในตัวเธออย่างมาก แต่เนื่องจากการผ่าตัดทำให้ท่านยังคงต้องการพักผ่อนอยู่มาก ทั้งคู่จึงนั่งอยู่เพียงครู่เดียวก่อนที่เฉินโยวหรานจะเรียกสาวใช้เข้ามารับช่วงดูแลต่อ จากนั้นหลินเช่อและเธอก็ลุกออกมาจากห้อง
ขณะที่กำลังจะแยกกันนั้นเอง เฉินโยวหรานก็ได้รับโทรศัพท์จากที่บ้าน บอกให้เธอรีบกลับเพราะมีธุระด่วนจะคุยด้วย
เฉินโยวหรานหันมาบอกอย่างระอาว่า “แม่กับพ่อฉันกำลังวุ่นวายหาแฟนให้ฉันกันยกใหญ่ ให้ตายเถอะ อย่างกับว่าพวกเขาอยากให้ฉันแต่งงานไปซะพรุ่งนี้งั้นแหละ”
หลินเช่อจึงแนะว่า “ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ฉันว่าคุณหมอเฉินของเราก็ไม่เลวอยู่นะ”
“ลืมไปได้เลย ฉันไม่มีปัญญาตะกายขึ้นไปได้สูงขนาดนั้นหรอกย่ะ เอาละ บ๊ายบาย ฉันกลับก่อนละนะ”
ระหว่างทางกลับบ้าน เฉินโยวหราน นึกกังวลว่าเธออาจจะกลับไปเจอผู้คนที่รอกันอยู่เต็มบ้านอีก จึงหยิบโทรศัพท์โทรหามารดาล่วงหน้าเพื่อถาม
“แม่ ตกลงว่าทำไมถึงอยากให้หนูกลับบ้าน หนูบอกแม่แล้วนะว่าจะไม่มีทางยอมให้แม่จับคลุมถุงชนน่ะ เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดหลอกหนูเชียวนะ”
“ฉันไม่ได้พยายามจะจับคู่แกจริงๆ ฉันได้ยินมาจากน้องสาวแกว่าหัวหน้าแกน่ะร่ำรวยออกจะตาย แถมยังชอบมาส่งแกที่บ้านด้วย ฉันก็เลยอยากบอกแกให้ช่วยขอยืมรถเขามาหน่อยได้มั้ย พ่อแกจะได้ขับกลับไปบ้านเกิดพรุ่งนี้ จะได้ดูมีหน้ามีตากับเขาบ้างยังไงล่ะ”
เฉินโยวหรานไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นเรื่องนี้
หญิงสาวจึงรีบแย้งออกไป “อย่าไปฟังยัยนั่นพูดเพ้อเจ้อสิแม่ ฉันไม่ได้สนิทกับเจ้านายขนาดนั้นซักนิด”
เฉินอวี่เฉิงไม่ได้มาส่งเธอที่บ้านเป็นประจำซะหน่อย แต่เพราะเธอทำงานล่วงเวลาจนดึกเพราะเขาต่างหากเล่า
“ถ้าแกไม่สนิท แล้วเขาจะมาส่งแกทำไมทุกวี่วัน ฉันถามจริงๆ เถอะ นี่เจ้านายแกเขาอยากสานสัมพันธ์กับแกรึเปล่า”
“เป็นไปไม่ได้หรอกแม่ ฉันจะบอกให้นะ เจ้านายฉันน่ะได้เงินปีละสามสิบล้านแถมยังมีออฟฟิศส่วนตัวอีกต่างหาก เขาเป็นคนที่สุดยอดระดับนี้แล้วเขาจะมาสนใจอะไรลูกสาวแม่ฮึ”
“เก่งขนาดนั้นเลยรึ งั้นเขาคงจะไม่อยากแต่งงานกับแก แต่แค่อยากจะเล่นสนุกกับแกก็ได้ โยวหราน แกอย่าตกหลุมเขาเพราะเห็นว่าเขารวยล่ะ”
“แม่! นี่แม่เป็นแม่หนูจริงๆ รึเปล่าเนี่ย” เฉินโยวหรานบอก “หนูรู้ว่าหนูไม่ได้ดีเลิศคู่ควร แต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ย เอาละ หนูจะวางสายละ แล้วหนูก็จะไม่ยืมรถเขาให้ด้วยเพราะฉะนั้นแม่ลืมไปได้เลย”
บางทีเฉินโยวหรานก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าหลินเช่อนั้นโชคดีที่อยู่ตัวคนเดียวและไม่ต้องอินังขังขอบใดๆ บ้านตระกูลหลิน ในขณะที่เธอต้องอยู่รวมกับครอบครัวในบ้านหลังเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเอาเลย
หญิงสาวขึ้นรถโดยสารและไม่ช้าก็มาถึงตรอกเล็กๆ ใกล้บ้าน แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าประตูไป ชายคนหนึ่งก็คว้ามือเธอไว้
เฉินโยวหรานเกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ใต้เงามืดของต้นไม้ ชายผู้นั้นใช้มือปิดปากเธอไว้และบอกว่า “ชู่ว เงียบก่อน”
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอก็ได้รู้ว่าบุคคลตรงหน้าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้บ้าโจวหมิ่นฮั่นนั่นเอง
เธออัดเขาเสียยับเยินจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อคราวก่อน นี่เขายังจะกล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีกเรอะ
เฉินโยวหรานมองหน้าอีกฝ่าย “นายมาที่นี่อีกทำไม ฉันเตือนนายแล้วนะ…ถ้านายกล้าแตะต้องฉันอีกละก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
พูดจบเธอก็เดินหนีออกมา
แต่โจวหมิ่นฮั่นไล่ตาม “โหยวหราน กว่าฉันจะหาตัวเธอเจอนี่ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ เธอจะไม่กลับไปร่วมงานวันสถาปนาโรงเรียนเหรอ”
“ไม่ละ ขอบใจ”
“อย่าทำแบบนี้สิ เห็นแก่ความหลังของเรา…”
“ความหลังของเรามันจบลงไปตั้งแต่นายไปนอนกับนังแพศยานั่นแล้วละ”
“โหยวหราน ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ ฉันทั้งขอโทษทั้งขอร้องเธอไปแล้ว อย่าดื้อรั้นนักเลยน่า ไม่เห็นหรือไง ฉันมีอะไรไม่ดีตรงไหน ครอบครัวฉันก็ดี หน้าตาฉันก็ไม่ได้แย่ เธอเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วเหมือนกัน เรียนหนังสือก็จบแล้ว ก็ได้เวลาคิดถึงอนาคตแล้วมั้ยล่ะ ถ้าพลาดจากฉันไป เธอจะมีโอกาสได้เจอผู้ชายดีๆ อีกเหรอ”
“ปล่อยเฉินโยวหรานซะ” อยู่ๆ เสียงเยือกเย็นก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง…
โจวหมิ่นฮั่นหันไปแล้วก็ได้เห็นว่า ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือคนที่ไปโรงพยาบาลกับเฉินโยวหรานเมื่อวันก่อนนั่นเอง
วันนั้นเขาไม่ทันมองให้ถนัดตา แต่ตอนนี้เมื่อหรี่ตาพิจารณาดูอย่างจริงจังแล้ว
ผู้ชายคนนี้…เกี่ยวข้องอะไรกับเฉินโยวหราน แล้วทำไมอยู่ๆ เขาถึงได้โผล่มาที่บ้านเธอแบบนี้ได้…