เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 259
มู่เฝ่ยหรานนั้นเป็นจุดสนใจของทุกคนเป็นธรรมดาอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีเสื้อผ้ายี่ห้อดังประดับกาย เธอแต่งกายเรียบง่ายแต่ก็ยังคงดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลอยู่นั่นเอง
นี่เป็นคุณลักษณะของคนที่เป็นดาราชั้นนำโดยแท้
หลินเช่อเดินเข้าสู่ห้องจัดงานหลังจากสิ้นสุดการเดินบนพรมแดง เธอทักทายแฟนๆ อย่างอบอุ่น รวมถึงเดินเข้าไปถ่ายรูปด้วยอย่างเป็นกันเอง นั่นทำให้บรรดาแฟนๆ ยิ่งพากันกรีดร้องเสียงดังสนั่น ทำเอาหลินเช่อเองลืมคำเตือนของอวี๋หมินหมิ่นที่บอกว่าอย่าเข้าไปใกล้ชิดกับแฟนละครมากนักเพราะอาจเกิดอันตรายได้ไปสนิทใจ
โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลินเช่อได้ยินเสียงเอะอะ จึงเงยหน้าขึ้นมอง
ขณะเดียวกันที่ด้านนอก
หลินลี่พยายามเบียดแทรกตัวเองผ่านฝูงชนเข้ามาอย่างยากลำบาก เธอมาถึงงานเทศกาลพร้อมด้วยทีมงานเต็มพิกัด แต่ด้วยเหตุที่หญิงสาวได้รับเพียงบทเล็กๆ ในเรื่องเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทีมงานผู้ติดตามของเธอจึงไม่ได้รับการจัดหารถเพื่อมาถึงตัวงานให้ ส่งผลให้เมื่อถึงบริเวณงาน หลินลี่และพรรคพวกจึงไม่ได้ดูมีสง่าราศีเหมือนนักแสดงชื่อดังคนอื่นๆ
เมื่อหลุดจากคลื่นมหาชนเข้ามาได้ เธอก็ตะคอกใส่ทีมงานด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยวว่า “นี่พวกแกเป็นบ้าอะไรกัน ทำไมพวกฉันถึงไม่ได้ขึ้นรถลิมูซีนเข้ามาในงาน ทำไมพวกฉันถึงต้องเดินเข้ามาแบบนี้ด้วยฮึ”
ฝ่ายสตาฟของงานพากันคิดว่า ทีมงานของหล่อนที่พามาด้วยนี่มันมีอะไรวิเศษนักหรือไง ก็แค่อยากจะพามาสร้างบารมีไม่ใช่รึ แล้วก็แน่นอนว่าหล่อนจะไม่ได้นั่งรถของทางคณะผู้จัดงานหรอก
แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังตอบออกไปอย่างระมัดระวังว่า “ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ แต่คุณมีทีมงานมากเกินไปจนนั่งมาด้วยกันในรถคันเดียวไม่หมด”
“ก็ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่จัดรถให้อีกคันแยกกันล่ะ”
สตาฟยิ้มให้อย่างยุ่งยากใจ
หลินลี่จึงกระหน่ำต่ออย่างโกรธจัด “แล้วทำไมนังหลินเช่อถึงทำได้ ทีมงานของนังนั่นก็เยอะเหมือนกัน แล้วทำไมมันถึงนั่งรถมากับนักแสดงนำสองคนได้”
สตาฟอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “นี่คุณเอาตัวเองไปเปรียบกับคุณหลินเช่อหรือครับคุณหลิน คุณหลินเช่อน่ะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม อีกอย่าง…ตอนนี้เธอยังได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ดีที่สุดด้วย”
แต่ที่เขาอยากจะพูดจริงๆ ก็คือ แล้วแกน่ะเป็นใคร คนอื่นน่ะเขาเป็นดาราใหญ่ๆ กันทั้งนั้น
ใบหน้าของหลินลี่เหยเกด้วยความโกรธ
ช่วงนี้อารมณ์เธอไม่ค่อยจะดีนัก นอกจากจะไม่มีอะไรให้ทำแล้ว การหมั้นหมายยังถูกยกเลิกอีกต่างหาก จนทำให้เธอไม่กล้าทำตัวโอ้อวดคุยโตเหมือนเคยมาได้ซักพักแล้ว
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงผู้คนส่งเสียงร้องเรียกชื่อหลินเช่อดังลั่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ได้เห็นว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นแฟนคลับของหลินเช่อ ที่ภายในงาน หลินเช่อกำลังยืนโบกมือทักทายใครต่อใครอย่างงามสง่า
การกระทำนั้นทำให้หลินลี่ยิ่งนึกสะอิดสะเอียนและโกรธจัดหนักขึ้นกว่าเดิม
ให้ตายสิ นังนี่มันมีดีอะไรนักนะ ที่โด่งดังขึ้นมาก็เพราะว่าขายเรือนร่างแท้ๆ!
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหลินลี่จะไม่นึกริษยา
เธอเองก็อยากจะทำแบบเดียวกันกับหลินเช่อ แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับไม่ชายตาแลเธอนี่สิ
หลินลี่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันและคิดอยู่ในใจว่า แกมันก็แค่ลูกนอกคอกที่บังเอิญโชคดีขึ้นมาก็เท่านั้น กล้าดียังไงถึงคิดจะมาเทียบกับฉันยะ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะบดขยี้แกให้แหลกคาเท้าฉันนี่แหละ!
หลินเช่อเพิ่งทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้เมื่อเธอเห็นกู้จิ้งอวี่เดินเข้ามาหา
หลินเช่อรีบร้องทัก “พี่จิ้งอวี่ มาด้วยหรือคะ”
กู้จิ้งอวี่ว่า “อืม ฉันได้เห็นเทปที่เธอไปออดิชั่นเมื่อสองสามวันก่อนแล้วนะ สายตาฉันยังเฉียบคมเหมือนเดิม เธอทำได้ดีมาก ทันทีที่เซ็นสัญญาเรียบร้อย เราจะเริ่มถ่ายทำกันเลย”
ก่อนหน้านี้หลินเช่อไปออดิชั่นบทในภาพยนตร์แฟนตาซีของกู้จิ้งอวี่มา และอวี๋หมินหมิ่นก็ได้แจ้งกับเธอแล้วว่า เธอผ่านการออดิชั่นเป็นที่เรียบร้อย หลินเช่อรู้สึกดีใจที่เธอจะมีโอกาสได้ทำงานกับกู้จิ้งอวี่อีก โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินเรื่องราวที่มู่หว่านฉิงเล่า มันทำให้เธอยิ่งนึกชอบเขามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะเป็นคนอ่อนไหวได้ขนาดนี้
ครู่ต่อมา ฉินหวานหว่านก็เดินเข้ามาหา “หลินเช่อ! ว้าว วันนี้เธอสวยจังเลยนะ”
หลินเช่อยิ้ม “ขอบใจจ้ะ”
ฉินหวานหว่านยังพูดต่อไปอีกว่า “แล้วก็ยินดีด้วยนะที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมน่ะ หวังว่าเธอจะชนะนะจ๊ะ”
หลินเช่อพูดอายๆ “ช่างเถอะน่า เพราะว่าละครของเธอออกอากาศช้าไปหน่อยเท่านั้นแหละ ไม่อย่างงั้นเราก็คงได้เป็นคู่แข่งกันแล้ว”
“ละครเรื่องนั้นคงจะมีโอกาสคว้ารางวัลอื่นได้นั่นแหละ แต่ก็คงเทียบกับแพนด้าทีวีเฟสติวัลไม่ได้หรอกจ้ะ จริงสิ ว่าแต่พวกเธอกำลังพูดถึงหนังเรื่องอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ” ฉินหวานหว่านถามทั้งคู่ด้วยดวงตาเป็นประกาย
หลินเช่อเฉไฉ “อ๋อ จริงด้วยสิ นี่ภาพยนตร์ของเธอออกฉายแล้วใช่มั้ย ฉันเห็นว่ากำลังทำเงินอยู่ในบ็อกซ์ออฟฟิศดีทีเดียว”
“ช่าย ช่วงวันหยุดก็ทำเงินดีอยู่” ฉินหวานหว่านรู้สึกภาคภูมิใจเมื่อได้พูดถึงภาพยนตร์ที่เธอเล่น เพราะมันกำลังได้รับความนิยมไปทั่วทีเดียว
แล้วทั้งกลุ่มก็เปลี่ยนเรื่องคุยกัน ในจังหวะนี้เอง พวกเขาก็เห็นมู่เฝ่ยหรานกำลังเดินตรงเข้ามาหา
“โอ้ กู้จิ้งอวี่ หลินเช่อ มากันแล้วเหรอเนี่ย”
หลินเช่อจับมือทักทายนักแสดงรุ่นพี่
มู่เฝ่ยหรานยิ้มให้กู้จิ้งอวี่ “จิ้งอวี่ นี่เราไม่ได้ร่วมงานกันมานานแล้วนะ ถ้ามีโอกาสก็มาทำงานด้วยกันอีกซักครั้งเถอะน่า”
แต่ชายหนุ่มตอบกลับแบบไม่เกรงใจว่า “พอทีเถอะ ฉันเล่นกับเธอมาตั้งไม่รู้กี่เรื่องจนอยากจะอ้วกตายอยู่แล้ว นี่ยังไม่เบื่อขี้หน้าฉันอีกรึไงนะ”
ทั้งสองสนิทกันเป็นอันดี สุ้มเสียงกู้จิ้งอวี่จึงเต็มไปด้วยความขบขันหยอกล้อ
มู่เฝ่ยหรานทำหน้าเหยียดหยามใส่ “เดี๋ยวนี้เธอมีหลินเช่อแล้วนี่ คงไม่ต้องการฉันแล้วละสินะ แน่ละสิ พอเป็นน้องใหม่ละก็หน้าตาจุ๋มจิ๋ม เก่าๆ อย่างฉันก็ขึ้นสนิมหมดแหละ ว่าแต่นี่เธอจะให้หลินเช่อเป็นนางเอกในหนังเรื่องใหม่ของเธอหรือเปล่า”
ฉินหวานหว่านได้ยินเข้า ก็รีบตวัดสายตามามองทันที
หลินเช่อหัวเราะแหะๆ แทนคำตอบ
กู้จิ้งอวี่จึงแกล้งพูดเล่นๆ ว่า “ไม่ต้องมาสนใจหรอกน่า ลำพังตัวเธอเองก็งานล้นมือไปหมดแล้ว ไปรับรางวัลซะไป๊”
มู่เฝ่ยหรานทำหน้ามุ่งก่อนจะหัวเราะ และหมุนตัวเดินจากไป
หลินเช่อหันมามองกู้จิ้งอวี่ “คุณสนิทกับพี่เฝ่ยหรานดีจังเลยนะคะ”
กู้จิ้งอวี่ว่า “เธอเรียนรู้จากมู่เฝ่ยหรานได้เสมอ เป็นคนที่เธอสามารถเข้าหาได้ เขาเป็นคนดีทีเดียว ฉันรู้จักมู่เฝ่ยหรานมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ก็เลยสนิทสนมกันดี ตอนที่เริ่มต้นงานในวงการใหม่ๆ เขาทำได้แย่กว่าเธอซะอีก แล้วก็ยังเป็นคนอ่อนไหวเอามากๆ อีกต่างหาก เขาปิดเรื่องการแต่งงานเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้และไม่เคยป่าวประกาศให้ใครได้รู้เลย เป็นไงล่ะ”
“ไม่มีทาง! พี่เฝ่ยหรานเนี่ยนะคะปิดเรื่องที่แต่งงานแล้วเอาไว้ ว่าแต่พี่เขาอยากจะปิดเรื่องนี้ไว้หรือคะ” นักแสดงดังๆ ส่วนมากก็มักจะไม่เปิดเผยเรื่องการแต่งงานของตัวเองกันหรอกนะ
กู้จิ้งอวี่ส่ายหน้า “เขาก็ไม่อยากหรอก แต่คนรักของเขาน่ะไม่ใช่คนทั่วไป เธอก็เลยไม่อยากบอกใคร”
“ว้าว เป็นใครเหรอคะ”
“ประธานบริษัทโปรดักชันของพวกเขาเอง”
“…”
หลินเช่อว่า “นี่คุณเชื่อใจฉันมากเลยนะคะเนี่ย ถึงได้เล่าให้ฟังทุกอย่างแบบนี้”
“นั่นก็เพราะว่าถ้าเธอกล้าเอาไปพูดให้คนอื่นฟังละก็ ฉันจะหักขาเธอซะน่ะสิ แขนขาแห้งๆ อย่างเธอแค่เนี้ย คิดว่าจะสู้ฉันได้รึไงฮึ”
หลินเช่อบุ้ยปากและทำตาเขียวใส่อีกฝ่าย
กู้จิ้งอวี่หันมองหญิงสาวจอมซื่อข้างตัว ถึงแม้ว่าหลินเช่อจะไม่ใช่คนหัวไวนัก แต่ก็มีลักษณะพิเศษบางอย่างในตัวของผู้หญิงคนนี้ที่ทำให้คนอื่นๆ เผลอไว้ใจเธอได้โดยไม่รู้ตัว
มู่เฝ่ยหรานสังเกตเห็นฉินหวานหว่านและทักทายเธอ
ขณะที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น พิธีการประกาศรางวัลก็เริ่มต้นขึ้นในที่สุด
จากทางด้านหลัง หลินลี่ถูกจัดให้นั่งอยู่ที่แถวสุดท้าย เธอมองเห็นหลินเช่อที่นั่งอยู่ทางด้านหน้ารวมกับนักแสดงดังระดับท็อปคนอื่นๆ ทั้งกู้จิ้งอวี่ มู่เฝ่ยหราน และนักแสดงชั้นนำอื่นๆ ของวงการตลอดทั้งแถว
ความแตกต่างห่างไกลนี้ช่างใหญ่หลวงนักจนหลินลี่รู้สึกแย่
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นังหลินเช่อมันไต่เต้าขึ้นไปได้สูงขนาดนี้ ในขณะที่เธอยังต้องชะเง้อมองอยู่ข้างล่าง
แน่ละว่าเธอไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองเป็นผู้แพ้ แต่ตอนนี้ที่เธอทำได้ก็เพียงแค่นั่งมองเท่านั้น
เธอเฝ้าคิดถึงหลินเช่อเมื่อครั้งยังเป็นเด็กสกปรกกะโปโล นังลูกนอกสมรสที่ต้องรับช่วงเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ ของเธอมาใส่ แล้วทำไมตอนนี้โลกถึงได้กลับตาลปัตรเช่นนี้
การประกาศผลรางวัลเริ่มแล้ว และรางวัลต่างๆ ก็ถูกแจกจ่ายออกไปไม่ขาดสาย
จากรางวัลเล็กสุดไปจนถึงรางวัลใหญ่ที่ทำให้ทุกคนต้องตาโตในตอนจบ ทุกรางวัลถูกขานชื่อออกไปไม่หยุดหย่อน