เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 279
หยางหลิงซินพูด “พี่เช่อ พี่เก่งจังเลยนะคะ ถ้าฉันมีสามีดีๆ เหมือนกู้จิ้งเจ๋อ ฉันคงไม่คิดถึงเรื่องอื่นเลย”
“ไม่จริงหรอก ถ้าเธอมีสามีอย่างกู้จิ้งเจ๋อละก็ เธอยิ่งจะต้องคิดมากขึ้น ยัยเด็กโง่”
การถ่ายทำรายการเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า
หลี่จวิ้นอี้และนักแสดงชายคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันมารออยู่ข้างนอกแล้ว เมื่อเทียบกันแล้ว ในหมู่พวกผู้ชายดูจะมีความกลมเกลียวกันได้มากกว่า ทุกคนต่างก็หัวเราะและเข้ากันได้เป็นอย่างดี ต่างฝ่ายต่างชี้ชวนกันดูบรรดาสาวๆ ในชุดนักเรียนที่อยู่รอบตัว
ไม่ช้าฉินเสี่ยวหยวนก็เดินออกมาจากห้อง
รายการเรียลลิตี้นี้ต้องการให้ทุกคนใส่เครื่องแบบนักเรียน และเครื่องแบบสำหรับฤดูหนาวก็ตัวใหญ่โครง หลายคนบ่นกันเรื่องที่ว่าเครื่องแบบนักเรียนของประเทศซีนั้นใส่ออกมาแล้วไม่สวยเลย แต่เมื่อมันมาอยู่บนตัวของดาราค่าตัวแพงเหล่านี้แล้ว มันกลับไม่ได้ดูน่าเกลียดแม้แต่น้อย อันที่จริง ดูเหมือนว่าพวกดาราทั้งหลายจะใส่แล้วสวยเด่นสะดุดตากันอีกต่างหาก
ชุดนักเรียนของฉินเสี่ยวหยวนนั้นเป็นสีฟ้าลายคาดขวางสีขาว ที่ทำให้เธอดูสวยน่ารักจนเด็กนักเรียนหนุ่มๆ ต่างพากันมองด้วยความทึ่ง
หลี่จวิ้นอี้และกลุ่มนักแสดงชายต่างพากันมองเธอเป็นตาเดียว พวกเขาลุกขึ้นมาทักทายเธออย่างสุภาพและเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทำเอาฉินเสี่ยวหยวนดีใจจนไม่สามารถซ่อนความรู้สึกบนใบหน้าไว้ได้
ฉินเสี่ยวหยวนถึงขนาดถักผมสองข้างเป็นหางเปียยาว เพื่อทำให้เธอดูเด็กลงไปอีก เธอยกมือขึ้นแตะหน้าที่เรียบเนียนไร้ริ้วรอยและสิวฝ้า ที่เพิ่งได้มาจากการจ่ายเงินก้อนโตเพื่อบินไปทำหน้าถึงต่างประเทศมาหมาดๆ ทำให้ใบหน้าของเธอดูอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าพวกเด็กนักเรียนที่อยู่รอบตัวตอนนี้เสียอีก ความรวยนี่มันดีจริงๆ อยากสวยอยากเด็กก็ต้องมีเงินละนะ
และแล้วหลี่จวิ้นอี้ก็ร้องบอกจากทางด้านหลังว่า “หลินเช่อมาแล้ว”
คนที่รวมกลุ่มกันอยู่สองสามคนเงยหน้าขึ้น และก็ได้เห็นหลินเช่อในชุดเครื่องแบบนักเรียนเหมือนกันกับฉินเสี่ยวหยวน แต่ความบอบบางของรูปร่างทำให้ชุดนักเรียนตัวโคร่งข่มร่างเธอให้ดูเหมือนเด็กน้อยลงไปอีก หางม้าของเธอแกว่งไกวไปมา หลินเช่อดูอ่อนเยาว์สดใสราวกับแสงอาทิตย์ ใบหน้าของเธอทาเพียงครีมกันแดดบางๆ เท่านั้น ในขณะที่ฉินเสี่ยวหยวนแต่งหน้าเต็มอัตรา แต่ผิวของหลินเช่อเนียนละเอียดราวกับเปลือกไข่และเต็มไปด้วยความเต่งตึงของผิว รอยยิ้มเบิกบานของเธอเผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงแถว ดูน่ามองเมื่อทาบอยู่กับริมฝีปากแดงสด
หลินเช่อไม่ได้แต่งหน้าเลย เมื่อเทียบกันแล้วฉินเสี่ยวหยวนนั้นจงใจแต่งหน้ามาเป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นการพยายามแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุดซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
หลินเช่อยิ้มร่าเต็มที่เมื่อเธอเดินมาถึง รอยยิ้มเบียดให้ดวงตาหรี่เล็กลงอย่างน่ารัก ใบหน้าเรียวเล็ก และลำคอที่ยิ่งดูบางระหงมากขึ้นไปอีกเมื่ออยู่เสื้อนักเรียนตัวใหญ่ เธอดูสวยมีเสน่ห์ชนิดที่ไม่มีใครอยากจะถอนสายตาไปจากเธอเลย
พวกนักแสดงชายต่างพากันมองดูเธอตาค้างไปตามๆ กัน พวกเขาคิดว่าเธอสวยมากทีเดียว ในวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยคนหน้าตาดีๆ ทั้งหลายแบบนี้ ความสวยของหลินเช่อเป็นความสวยที่แปลกตาไม่เหมือนใคร
ฉินเสี่ยวหยวนหน้าเสียทันที เธอหันกลับไปแล้วก็ได้เห็นว่าไม่มีใครมองเธออีกแล้ว แม้จะมีดาราชายโนเนมคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่ข้างๆ แต่สายตาของเขาก็กลับมองไปที่หลินเช่อ
ดาราสาวสบถก่นด่าอยู่ในใจ นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ มารยาเยอะนักนะ
ปกติแล้วเวลาที่ต่างคนต่างแต่งตัวไม่เหมือนกัน ทำให้เป็นการยากที่จะบอกว่าใครสวยต่างกันแค่ไหน แต่ตอนนี้ทุกคนต้องสวมเครื่องแบบเหมือนกัน ความแปลกตาไม่เหมือนใครของหลินเช่อจึงโดดเด่นขึ้นมาทันที
ในวันนี้ บรรดานักข่าวต่างๆ ที่ติดตามการถ่ายทำรายการ ต่างก็เปิดเผยถึงรายละเอียดในการถ่ายทำ
ในภาพวิดีโอ จึงมีแฟนๆ จำนวนมหาศาลที่ยืนออกันอยู่ด้านนอกโรงเรียน ส่วนภายในโรงเรียนนั้น ทุกคนก็ตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับบรรดาดาราชื่อดัง
ในวิดีโอ เผยให้เห็นภาพของหลินเช่อและนักแสดงหญิงคนอื่นๆ ในชุดเครื่องแบบนักเรียน ผู้คนในอินเทอร์เน็ตจึงแห่กันมาคอมเมนท์เต็มไปหมดว่า หลินเช่อนั้นดูเหมือนนักเรียนไฮสคูลในชุดเครื่องแบบไม่มีผิด พวกเขายังบอกอีกว่าเธอสวยชนะขาดบรรดานักเรียนสาวสุดฮ็อตของโรงเรียนตัวจริงด้วยซ้ำ คนสวยอย่างเธอจะต้องเคยเป็นดาวโรงเรียนสมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่แน่ๆ
แต่หลินเช่อนั้นรู้ดีว่าเธอไม่ใช่เลยซักนิด เธอเป็นเด็กยากจนและไม่มีเวลาจะเอาใจใส่เนื้อตัวของตัวเอง เธอจึงไม่อาจเอาตัวเองไปเทียบกับบรรดาเด็กสาวที่มีคนขับรถมาส่งโรงเรียนทุกวันอย่างหลินลี่ได้ เธอเป็นนักเรียนที่แทบจะไม่มีใครชายตามองเลยด้วยซ้ำ
เมื่อหลินลี่ได้เห็นรายงานข่าว หญิงสาวก็อาละวาดคว่ำข้าวของรอบตัวด้วยความหงุดหงิด ดาวโรงเรียนกะผีน่ะสิ นังนั่นมันเป็นแค่ตัวตลกซะมากกว่า
หลินเช่อดูดีมีชีวิตชีวาอยู่ในจอโทรทัศน์ ในขณะที่ที่บ้านของหลินลี่กำลังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย หันไฉ่อิงถูกบังคับให้ต้องออกจากบ้านไป ในขณะที่บรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกันก็พากันซุบซิบนินทากันให้แซ่ดไปหมด นี่มันไม่ยุติธรรมเลยซักนิด
ในขณะที่ถ่ายทำอยู่ในโรงเรียนนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและเสียงดังอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน หลินเช่อ หลี่จวิ้นอี้ และเด็กสาวอีกคนหนึ่งเดินเข้าไปในโรงอาหาร บรรดาเด็กนักเรียนก็กรูกันเข้ามาห้อมล้อมทันที พร้อมถามว่า “หลินเช่อคะ ขอลายเซ็นคุณหน่อยได้มั้ยคะ”
“หลินเช่อ ตรงนี้มีคนนั่งหรือยังครับ”
“หลินเช่อ คุณอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวเราจะไปจัดการให้แน่ใจว่าคุณจะได้กิน”
นักเรียนคนหนึ่ง เมื่อได้เห็นหลินเช่อเข้ามานั่งข้างๆ ก็รีบพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “หลินเช่อ! วะ วะ ว้าว! ในที่สุดฉันก็ได้เจอตัวจริงคุณซะที หลินเช่อ! คุณสวยจังเลยค่ะ ฉะ ฉะ ฉันขอถ่ายรูปกับคุณหน่อยได้มั้ยคะ”
หลินเช่อหัวเราะและตอบว่า “โอเค โอเค ขอฉันเช็กผมก่อนนะว่ายุ่งรึเปล่า วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้ดูหน้าตัวเองเลย”
เมื่อเห็นนักเรียนคนนั้นได้ถ่ายรูปกับเธอ นักเรียนคนอื่นๆ ก็พากันเฮโลเข้ามาบ้าง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ฉินเสี่ยวหยวนก็เดินเข้ามาจากอีกฟากหนึ่ง ส่งสายตามองมาด้วยท่าทีรังเกียจ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังแสดงออกว่าเป็นคนอบอุ่นใจดี แต่ลับหลังนั้น หญิงสาวมีผู้ช่วยจำนวนมากที่คอยกันไม่ให้เด็กนักเรียนเข้ามาใกล้เธอได้ แต่เมื่อได้เห็นหลินเช่อ ฉินเสี่ยวหยวนก็ตรงรี่เข้ามาทันทีและแย่งที่นั่งของหลินเช่อไป
หลินเช่อหันไปมองหน้าอีกฝ่าย
ที่นี่มีคนอยู่เยอะ หลี่จวิ้นอี้นั่งลงและลงมือกินอาหารทันที หล่อนหันมาทำหน้าเยาะๆ ใส่ และหันไปพูดกับผู้ช่วยของตัวเองว่า “คนแน่นไปหมดเลยนะเนี่ย ให้ตายสิ อย่างน้อยพวกเราก็ยังชินกับอะไรแบบนี้นะ ไม่เหมือนพวกดารากระจอกที่เวลาได้เจอคนที่ชื่นชอบเข้าหน่อยก็ทำตื่นเต้นไปซะใหญ่โต”
ผู้ช่วยของหล่อนรีบรับลูกทันที “จริงด้วยค่ะ พี่เสี่ยวหยวน นี่พี่ควรจะรีบๆ ทานนะคะ อาหารพวกนี้สั่งมาจากภัตตาคารจวงจี้ที่ข้างนอกเลยทีเดียว ดีกว่าอาหารใส่จานสกปรกๆ ในโรงอาหารนี่เยอะเลยค่ะ”
หลินเช่อกัดฟันและเลือกที่จะไม่ใส่ใจหล่อน
แต่ฉินเสี่ยวหยวนยังไม่ยอมหยุด เธอหันไปทางหลินเช่อและกระแนะกระแหนต่อว่า “คนอะไร้เห็นแก่ตัวสิ้นดีทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้ มีแต่จะคอยตักตวงประโยชน์จากกู้จิ้ิ้งอวี่ ถ้าเป็นฉัน ฉันไม่ขอสนใจคนแบบนี้หรอกนะ”
หลังจากถ่ายทำมาตลอดทั้งวัน หลินเช่อก็เหนื่อยจนแทบล้ม ตกกลางคืน เธอนอนอยู่บนเตียงในหอพัก มีนักแสดงสาวที่ยังไม่มีชื่อเสียงนักคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักกับเธอ หล่อนยังอายุน้อยมาก และเพิ่งได้รับบทนักแสดงประกอบในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งมา หล่อนพยายามที่จะเข้าหาฉินเสี่ยวหยวนแล้ว แต่ก็ไม่อยากพลาดที่จะทำความรู้จักหลินเช่อด้วย หล่อนเฝ้าพร่ำชมว่าหลินเช่อนั้นผิวดีมากไม่ขาดปาก
ฉินเสี่ยวหยวนเดินเข้าห้องมาด้วยสีหน้าหยันๆ ตามเคย หล่อนยกอ่างใส่น้ำมาวางบนโต๊ะอย่างไม่สนใจใครก่อนจะหันไปถามว่า “นั่นสิ ผิวเธอดีเชียวนะ ไปทำที่ไหนมาล่ะ”
หลินเช่อตวัดสายตามองอีกฝ่าย แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
หญิงสาวเหลือบดู เป็นสายของกู้จิ้งเจ๋อนั่นเอง แม้ว่าจะเหนื่อยมาก แต่เธอก็รีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปรับสายทันที
ฉินเสี่ยวหยวนทำเสียงเยาะๆ อย่างไร้มารยาท “ใครเค้าจะอยากฟังโทรศัพท์ของแกกันยะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำลับๆ ล่อๆ จนต้องรีบวิ่งออกไปขนาดนั้นเลย”