เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 307
ลู่ชูเซี่ยถาม “จริงหรือคะ ฉันมาที่นี่บ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงนี้”
เธอพูดพลางจงใจเหลือบมองไปทางกู้จิ้งเจ๋อ
เพราะอยู่ต่อหน้าคนมากมาย ลู่ชูเซี่ยจึงไม่อาจพูดอะไรได้มากนัก เธอจึงเพียงแต่เหลือบตาไปทางเขาก่อนจะหลบตาหนี
มู่หว่านฉิงพูดขึ้นทางด้านหลังว่า “เอาละจ้ะๆ อย่ามัวแต่ยืนพูดกันอยู่ตรงนี้เลย เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่านะจ๊ะ”
เมื่อทุกคนเข้าในด้านในแล้ว ชายหนุ่มก็หันมาพูดกับหลินเช่อเรียบๆ ว่า “เลือกที่นั่งเอาตามใจเธอก็แล้วกันนะ หรือจะนั่งเป็นเพื่อนคุณแม่ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปพบคุณปู่ข้างในหน่อย”
“โอเคค่ะ” หลินเช่อโบกมือให้ก่อนจะปล่อยให้ชายหนุ่มไปทำในสิ่งที่ต้องการ
เมื่อกู้จิ้งเหยียนเห็นพี่ชายปลีกตัวออกไป เธอก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกเดินตามเขาไป
กู้จิ้งเจ๋อเดินมาตามทางเดินจนถึงห้องของกู้เซียนเต๋อ
ปู่ของเขาหันมาใช้ชีวิตเงียบสงบในแบบของท่าน จึงไม่บ่อยนักที่จะได้พบท่านอยู่ที่บ้าน แต่ทุกครั้งที่เขามาที่บ้านตระกูลกู้ ชายหนุ่มก็ยังคงต้องเข้ามากล่าวทักทายอย่างเป็นทางการในทุกครั้ง
กู้จิ้งเหยียนมองตามพี่ชายแล้วร้องเรียก “พี่ชายรองคะ”
กู้จิ้งเจ๋อหมุนตัวมา “มีอะไรเหรอ”
“ไม่มีอะไรค่ะ” กู้จิ้งเหยียนเดินตามมาจนทันและถามขึ้นว่า “ช่วงนี้ชูเซี่ยมาวอแวกับพี่บ้างมั้ยคะ”
“ไม่ต้องห่วง” เขาตอบน้องสาว “เขาอยากทำอะไรก็ตามใจเขาเถอะ”
“ฉันบอกเขาไปแล้วนะคะ แต่เขาไม่ยอมฟัง ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน คือปล่อยให้คนหัวดื้อทำตามความต้องการของตัวเองไป เมื่อไหร่ที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บขึ้นมา เขาก็คงเลิกไปเอง”
กู้จิ้งเจ๋อเห็นด้วย “ใช่แล้ว”
“แต่ถ้าพี่สะใภ้รู้เรื่องนี้เข้าแล้ว…จะไม่ทุกข์ใจหรือคะ”
“ฉันไม่ได้บอกหลินเช่อ” กู้จิ้งเจ๋อว่า
“ทำไมล่ะคะ” กู้จิ้งเหยียนเงยหน้าขึ้นถามผู้เป็นพี่
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “มันไม่จำเป็นนี่”
กู้จิ้งเหยียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็จริงอยู่ ในเมื่อสิ่งที่เพื่อนของเธอทำเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องบอกหลินเช่อและทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก
กู้จิ้งเหยียนจึงบอกว่า “ตกลงค่ะ งั้นฉันไปก่อนละ พี่เข้าไปพบคุณปู่เถอะ”
“ตกลง”
กู้จิ้งเหยียนรู้ดีว่าพี่ชายของเธอเป็นคนพูดน้อย เธอจึงมองตามพี่ชายคนรองไปพลางรำพึงออกมาดังๆ ว่า “พี่สะใภ้ที่น่าสงสาร ต้องมาอยู่กับพี่ชายที่ไม่ค่อยจะพูดจะจาอะไรกับใครเขาซะเล้ย พี่นี่น่าเบื่อเป็นบ้า เฮ้อ…”
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “ยุ่งแต่เรื่องตัวเองเถอะน่า!”
กู้จิ้งเหยียนทำท่ากระฟัดกระเฟียดก่อนจะเดินออกมา
หลินเช่อไม่ได้เข้าไปอยู่ใกล้มู่หว่านฉิง หญิงสาวรู้ดีว่าถึงแม้แม่สามีจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ท่านก็มีภาระวุ่นวายกับการต้องคอยดูแลครอบครัวขนาดใหญ่
หญิงสาวจึงเลือกที่จะลงไปเดินเล่นในสวน รดน้ำต้นไม้ และจัดแต่งต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ในสวนหย่อมอย่างเพลิดเพลิน
เมื่อสาวใช้เห็นหลินเช่อกำลังถอนวัชพืช หล่อนก็รีบแล่นเข้ามาพลางร้องห้ามว่า “คุณผู้หญิงคะ กรุณาวางลงเถอะค่ะ เดี๋ยวดิฉันทำเอง คุณไม่ควรต้องมาทำงานหนักพวกนี้นะคะ”
หลินเช่อยิ้มและบอกว่า “ก็ฉันไม่มีอะไรทำนี่จ๊ะ พอเห็นดอกไม้พวกนี้มันสวยดี ก็เลยอยากลงมาช่วยดูแล”
สาวใช้ยิ้มเมื่อมองดูหลินเช่อ “คุณผู้หญิงคะ ถ้าคุณชายรองมาเห็นเข้าละก็จะต้องดุพวกเราแน่ ท่านดูแลคุณเป็นอย่างดี คงทนไม่ได้ที่ต้องมาเห็นคุณทำอะไรแบบนี้แน่ๆ ค่ะ”
หลินเช่อถามด้วยความงุนงง “ทนไม่ได้อะไรกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยซักนิด”
“คุณผู้หญิงคะ คุณใจดีเหลือเกินค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ทั้งคุณชายรองทั้งคุณนายถึงได้รักคุณนัก”
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็ยิ้มอายๆ ใบหน้าแดงระเรื่อจนต้องเล่นผมตัวเองแก้เขิน หลินเช่อคิดว่าเป็นเรื่องดีที่มีคนชื่นชมเธอ ถึงแม้หญิงสาวจะคิดว่าเธอไม่เคยได้ทำอะไรเลยซักอย่าง หรือบางทีคนในบ้านนี้ก็อาจจะไม่ทำอะไรกันเลยจริงๆ ก็ได้ ทำให้แม้การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่นี้ของเธอก็สร้างความซาบซึ้งใจให้กับสาวใช้ได้แล้ว แต่สำหรับหลินเช่องานบ้านนับเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อสมัยอยู่ที่บ้านตระกูลหลิน เธอก็มีสถานะเท่ากับเป็นคนรับใช้ที่ต้องทำงานบ้านทุกอย่างดีๆ นั่นเอง
หลินเช่อไม่รู้ตัวว่าลู่ชูเซี่ยโผล่มายืนอยู่ทางด้านหลัง และได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
ลู่ชูเซี่ยแอบมองหลินเช่ออยู่เงียบๆ
ตอนแรกเธอประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปหน่อย ตอนนี้เธอจึงอยากมาเห็นว่าหลินเช่อตัวจริงนั้นเป็นอย่างไร และตอนนี้เมื่อได้เห็นหญิงสาวเข้าเต็มตา ลู่ชูเซี่ยจึงรู้สึกว่าความสวยของหลินเช่อน่าจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับเธอ
แต่ถึงยังไงหล่อนก็ยังเป็นแค่ผู้หญิงจากครอบครัวคนธรรมดาสามัญ ท่าทางก็พื้นๆ แค่นั้น
ลู่ชูเซี่ยทำหน้าเหยียดหยัน ก่อนจะเดินตรงไปหาอีกฝ่าย
เมื่อหลินเช่อหันมา เธอก็ได้เห็นลู่ชูเซี่ยที่กำลังเดินทอดน่องเข้ามาอย่างวางมาด และหยุดยืนตรงหน้าเธอ
ลู่ชูเซี่ยกวาดตามองหลินเช่อขึ้นๆ ลงๆ อย่างไม่ปิดบัง “ฉันยังคิดอยู่เลยนะจ๊ะ ว่าทำไมใครต่อใครถึงได้พากันชื่นชมเธอนัก”
หลินเช่อยิ้ม “หมายความว่ายังไงหรือคะคุณลู่”
ลู่ชูเซี่ยตอบ “คือฉันยังสงสัยอยู่น่ะ ว่าเพราะอะไรกันแน่กู้จิ้งเจ๋อถึงได้เลิกกับโม่ฮุ่ยหลิง”
หลินเช่อนิ่วหน้า เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงที่ชื่อลู่ชูเซี่ยกำลังทำตัวเป็นศัตรูกับเธออย่างเปิดเผย
ลู่ชูเซี่ยพูดต่อไปอีก “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วละ เธอใช้มารยาสาไถยแบบนี้นี่เอง คอยดึงดูดความสนใจจากคนอื่นด้วยวิธีการชั้นต่ำประเภทนี้”
หลินเช่อหน้าเปลี่ยนสีทันที เธอมองอีกฝ่ายก่อนจะฉีกยิ้มเยือกเย็น “คุณลู่คะ คุณกำลังพยายามจะพูดอะไรกันแน่คะ”
ลู่ชูเซี่ยตอบ “ก็ตอนนี้เธอไม่ได้กำลังพยายามเอาชนะใจคนในบ้านอยู่หรือไงล่ะ”
หลินเช่อทำหน้าสมเพช “ขอโทษทีนะคะ เอาชนะใจคนเหรอคะ ทำไมฉันถึงต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย”
“เธอจะบอกว่าตัวเองไม่ต้องทำเรื่องแบบนั้นงั้นเหรอ อืม ก็เห็นอยู่ชัดๆ นะ ว่าเธอพยายามทำให้สาวใช้พวกนี้คิดว่าเธอน่ะแสนดีซะเต็มประดา เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าข้างเธอ อันที่จริงคนอย่างพวกเราไม่ต้องทำเรื่องแบบนี้หรอก แต่ฉันเดาว่ามันก็คงมีเหตุผลสำหรับเธอนั่นแหละนะ ในเมื่อครอบครัวของเธอไม่มีอำนาจอะไรเลย ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่สามารถสร้างผลประโยชน์อะไรให้ตระกูลกู้ได้ เธอรู้แต่เพียงแค่การจับกู้จิ้งเจ๋อไว้ให้อยู่เท่านั้น ถ้าเธอใช้วิธีนี้ ทุกคนก็จะมองเธอในแง่ดี ทั้งที่ความจริงแล้วตัวเธอไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง คงต้องบอกว่าไอ้กลเม็ดสมเพชพวกนี้คงได้ผลอยู่อีกไม่นานหรอกนะ เพราะพอเธอใช้ไปมากๆ เข้า พวกสาวใช้ก็จะเริ่มชิน และไม่มีใครเห็นว่าเธอเป็นคนดีอีกต่อไป ส่วนตอนนี้น่ะ เป็นเพราะคนอย่างพวกเราไม่ทำอะไรแบบนี้กัน พวกเขาก็เลยยังคิดว่าเธอวิเศษวิโสอยู่ ก็ขอให้รู้ตัวไว้แล้วกันนะจ๊ะ ว่าคงจะหลอกคนอื่นได้อีกไม่นานหรอก”
หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่าย “คุณลู่คะ จินตนาการของคุณนี่ช่างกว้างไกลซะจริงๆ เลยนะคะ เห็นคุณเป็นคนคิดมากแบบนี้แล้วก็น่าสงสารอยู่ เพราะตัวฉันไม่จำเป็นต้องใช้ไอ้สิ่งที่คุณเรื่องว่ากลเม็ดพวกนั้นหรอกค่ะ”
“งั้นรึ งั้นก็ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจจ้ะ เพราะถึงยังไงเธอก็คงไม่ยอมรับอยู่ดีนั่นแหละ”
หลินเช่อตอบ” ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็ตาม ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นจริงๆ ค่ะ ฉันเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลนี้และเป็นภรรยาของกู้จิ้งเจ๋อ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร พวกเขาก็ทำได้แค่พูดถึงฉันในแง่ดีเท่านั้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าต่อไปใครจะขึ้นมาเป็นนายใหญ่ของบ้าน!”
ลู่ชูเซี่ยนิ่งอึ้ง
หลินเช่อทำหน้าเยาะหยันก่อนจะเดินเบียดไหล่ของอีกฝ่ายออกไป “ดูเหมือนคุณจะยังไม่เข้าใจกู้จิ้งเจ๋อดีนักนะคะ ไม่อย่างงั้นคุณคงไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมา”
ลู่ชูเซี่ยเริ่มร้อนรนอยู่ภายใน แต่ก็ยังยืนจ้องหลินเช่อด้วยสายตาเหยียดหยามจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินลับตาไป
ก็ได้ ก็ได้ ครั้งนี้เธอประมาทนังหลินเช่อนี่ไปหน่อย
ถ้าไม่ได้ใช้มารยา แล้วตระกูลกู้จะยกย่องนังนี่ขึ้นมาเป็นคนสำคัญได้ยังไงกันล่ะ
ดูเหมือนว่าต่อไปเธอไม่ควรจะดูถูกแม่หลินเช่อคนนี้
ผู้หญิงคนนี้แหละที่ค่อยสมน้ำสมเนื้อที่จะเป็นคู่ปรับของเธอในอนาคตหน่อย
หลินเช่อเดินดุ่มๆ ออกมาจากสวน และหยุดลงเมื่อถึงบริเวณหน้าบ้าน
เธอคิดว่าลู่ชูเซี่ยไม่เข้าใจผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อจริงๆ ไม่อย่างนั้นหล่อนคงไม่พูดจาอะไรแบบนี้ และคงไม่คิดว่าเธอใช้มารยาในการหลอกล่อให้เขาแต่งงานด้วย
มันไม่ใช่เพราะเหตุนั้นเลยซักนิด ที่เธอได้แต่งงานกับเขาก็เพราะอาการป่วยของเขาต่างหากล่ะ