เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 325
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “หมอ หลิน…เธอเป็นยังไงบ้าง”
คุณหมอตรวจดูอีกครั้ง ก่อนจะนิ่วหน้าและบอกว่า “ทำไมเธอถึงได้บาดเจ็บหนักขนาดนี้คะ…นี่เป็นครั้งแรกของเธอหรือเปล่า ถ้าเป็นครั้งแรกของเธอ เธอก็ควรจะได้รับการปฏิบัติที่นุ่มนวลกว่านี้ ไม่อย่างงั้นก็จะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย”
แพทย์หญิงจำได้ดีว่าใครที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และเมื่อพูดจบเธอก็หุบปากสนิท ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพูดต่อไปอย่างเกรงๆ ว่า “ที่ฉันหมายถึงก็คือ อาการของเธอค่อนข้างจะสาหัสอยู่ ฉันเกรงว่าเธอคงจะต้องพักรักษาตัวอีกซักระยะเพื่อให้หายดีน่ะค่ะ”
หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกเสียใจหนักขึ้นไปอีกที่ทำกับเธอลงไปแบบนั้น
จริงอยู่ว่าเขาโกรธมาก แต่เขาก็ไม่เคยตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บแม้แต่น้อย
ครั้งสุดท้ายที่เธอและเขามีอะไรกัน เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้น เขาจึงรู้ดีว่าจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะตั้งใจลงไม้ลงมือจนเธอต้องบาดเจ็บเหมือนเดิมอีก ทั้งที่เขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าร่างกายของหลินเช่อไม่อาจทานแรงของเขาได้ แต่เขาก็ยังเลยเถิดจนทำกับเธอเหมือนสัตว์ป่า
เขาทำลงไปเพราะโทสะ สิ่งเดียวที่เขาคิดในตอนนั้นก็คือต้องการที่จะลงโทษเธอ
ทว่าด้วยความรู้สึกตำหนิตัวเองทำให้ชายหนุ่มคิดได้แล้วในตอนนี้ว่า ไม่ใช่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่ถูกลงโทษ แต่เป็นตัวเขาเองด้วย
เมื่อได้เห็นเธอบาดเจ็บ เขาก็ยิ่งหัวเสียกว่าเดิม ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
กู้จิ้งเจ๋อถามว่า “มีทางอื่นที่จะทำให้เธอหายเร็วกว่านี้มั้ย”
“ฉันเย็บแผลให้เธอแล้ว เนื่องจากเลือดออกตรงบริเวณนั้นไม่หยุดก็เลยจำเป็นต้องเย็บค่ะ อีกสองสัปดาห์ต่อจากนี้ พวกคุณไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้ แล้วคุณก็ต้องคอยระวังไม่ให้แผลติดเชื้อด้วย” แพทย์หญิงพูดอย่างเป็นงานเป็นการที่สุดขณะที่มองหน้าชายหนุ่ม
แม้จะได้ยินเช่นนี้ แต่สีหน้าของเขาจะยังคงเคร่งขรึมไม่แสดงอารมณ์ เขาเหลือบมองไปยังหลังม่านเงียบๆ ริมฝีปากเม้มแน่น
อาการของหลินเช่อนั้นหนักถึงขนาดต้องเย็บแผลเลยทีเดียว…
หลินเช่อได้แต่นิ่งฟังอยู่หลังม่าน ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ แม้แต่นิดเดียว พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อจนกระทั่งเสียงข้างนอกเงียบลง จากนั้นกู้จิ้งเจ๋อก็เดินมาหาเธอที่อีกด้านของผ้าม่านด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง
เขามองหน้าเธอและบอกว่า “ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอกลับบ้านก่อน”
หลินเช่อมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเฉยเมย “ถ้างั้น ต้องบอกคุณแม่…”
“ฉันจะสั่งให้คนไปแจ้งท่านเอง”
ขณะที่พูด เขาก็ก้าวเข้ามาหาทำท่าจะอุ้มเธอ
แต่หลินเช่อไม่ต้องการให้เขาอุ้ม เธอสะบัดหน้าหนีไปอีกด้าน “ไม่จำเป็น ฉันไปเองได้”
“เธอ…”
ขณะที่พูด หญิงสาวก็กระโดดลงจากเตียง
แต่ขาของเธอยังรู้สึกไม่เป็นปกติจากฤทธิ์ยาชาที่ได้รับก่อนหน้านี้
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว เมื่อเห็นร่างของหลินเช่อโงนเงนไปมา เขาก็รีบตรงเข้าไปช้อนร่างเธอขึ้น
“คุณ…”
“อย่าขยับ ถ้าขืนขยับอีกฉันจะโยนเธอลงบนพื้น” เขามองเธอด้วยสีหน้าดุดัน
หลินเช่อพ่นลมแรงๆ ตวัดสายตาโกรธเกรี้ยวใส่เขา
กู้จิ้งเจ๋อพูดว่า “พอที ไม่ว่าเธอจะเกลียดฉันแค่ไหน ก็กลับบ้านกันก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของหลินเช่อก็เจ็บแปลบ
ใช่ คนที่เธอเกลียดที่สุดในตอนนี้ก็คือกู้จิ้งเจ๋อ
เขาทำให้เธอต้องเจ็บอย่างหน้าไม่อาย แล้วยังจะมาทำตัวเป็นคนดีด้วยการช่วยพาเธอมาโรงพยาบาลอีก
ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยเธอไว้ตรงนั้น แล้วปล่อยเธอไปตามยถากรรมล่ะ บางทีเขาอาจจะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นสำหรับเขาก็ได้
ไม่ช้า ทั้งสองก็มาถึงบ้าน
กู้จิ้งเจ๋อวางหลินเช่อลงบนม้านั่งหุ้มหนังที่เอาไว้นั่งในห้องน้ำ เขาหันไปสั่งสาวใช้ให้เตรียมอ่างน้ำและผ้าเช็ดตัว เมื่อได้ผ้าเช็ดตัวมาไว้ในมือ เขาก็เดินมาหาเธอและบอกว่า “วันนี้อย่าอาบน้ำเลย เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้เอง”
หลินเช่อมองร่างใหญ่ที่เดินตรงเข้ามา ก่อนจะรีบคว้าผ้าเช็ดตัวจากมือเขา “ไม่ต้อง ฉันจะเช็ดเอง ไม่ต้องลำบากให้คุณมาช่วยหรอกค่ะ”
“เธอ…”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ แต่เธอกลับเบือนหน้าหนีเขา ไม่แม้แต่จะยอมชายตามองด้วยซ้ำ ก่อนจะลงมือพับผ้า
ด้วยความโกรธ กู้จิ้งเจ๋อพูดจาใส่เธออย่างกระแทกกระทั้นว่า “ก็ได้ เธออยากทำอะไรก็ทำ!”
เมื่อพูดจบ เขาก็ดึงประตูห้องน้ำและเดินออกไป
หลินเช่อได้ยินเสียงประตูปิดดังโครม เธอกัดริมฝีปากแต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้าไป เพียงแต่ก้มลงและเริ่มลงมือเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตัวเอง ทว่าเมื่อเธอได้เห็นร่องรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้บนผิวเนื้อแล้ว หัวใจเธอก็ยิ่งเจ็บปวดหนักขึ้นไปอีก
กู้จิ้งเจ๋อยืนรออยู่ข้างนอก เมื่อเขารู้สึกว่าเวลาผ่านไปได้พอสมควรแล้วแต่หญิงสาวยังไม่ออกมา อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกเสียใจที่ใช้อารมณ์กับหลินเช่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจำได้ว่าเธอมีสภาพย่ำแย่แค่ไหนก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มจึงยังคงปักหลักยืนรอและจ้องมองประตูอยู่อย่างนั้น แต่ไม่เอื้อมมือไปเปิดมัน
เขายืนฟังเสียงจากในห้องน้ำ
ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นมาได้พักใหญ่แล้ว
ในที่สุด กู้จิ้งเจ๋อก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเคาะประตู “หลินเช่อ”
มือเขากำลังจะเอื้อมออกไปเปิดประตูพอดี เมื่อประตูห้องน้ำถูกเปิดออกเสียก่อน
หลินเช่อสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เธอมองหน้าเขา พ่นลมออกทางจมูก ก่อนจะเดินเฉียดร่างเขา ตรงไปยังเตียงนอนทันที
กู้จิ้งเจ๋อชะงัก “หลินเช่อ ฉันรู้ว่าฉันไม่ระวังและครั้งนี้ก็ทำเธอเจ็บ แต่…”
“นี่มันเกิดจากความไม่ระวังหรือคะ”
กู้จิ้งเจ๋อกัดฟัน “ใช่ ฉันต้องขอโทษเธอด้วย”
“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะรับคำขอโทษของคุณ” หลินเช่อว่า
สีหน้าชายหนุ่มสลดลง
หลินเช่อมองหน้าเขา “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันหวังว่าคุณจะปล่อยให้ฉันนอนนะคะ พรุ่งนี้ฉันยังต้องไปทำงานอีก ฉันต้องการพักผ่อน”
กู้จิ้งเจ๋อยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองคนตรงหน้านิ่งนาน
หลินเช่อขมขื่นอยู่ในอก บนใบหน้าดื้อรั้นของเธอไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย เธอไม่ชายตามองเขาด้วยซ้ำ
ริมฝีปากของชายหนุ่มบิดโค้งขึ้น ดูเหมือนเรี่ยวแรงเขาจะหมดสิ้นแล้ว ในที่สุดเขาก็มองดูหลินเช่ออีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูและเดินออกจากห้องไป
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงปิดประตู หัวใจเธอก็ค่อยรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบที่ตรงจุดสำคัญนั้น ยาชากำลังจะหมดฤทธิ์แล้ว และตอนนี้ตรงบริเวณนั้นก็เริ่มรู้สึกไม่สบายขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ที่ทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าก็คือภาพของเขาที่คลุ้มคลั่งและกระทำกับเธออย่างทารุณก่อนหน้านี้ ที่ยังคงลอยวนเวียนอยู่ในหัวต่างหาก
เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย สิ่งที่เขาทำกับเธอเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่กู้จิ้งเจ๋อเดินออกจากห้องไป เขาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลกู้ แต่ก้าวขึ้นรถและขับออกไปทันที
เหล่าสาวใช้รู้ดีว่าเจ้านายทั้งสองน่าจะมีเรื่องผิดใจกัน แต่ไม่มีพวกเธอคนไหนที่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อขับรถมาถึงบ้านอีกหลังหนึ่ง เขาก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อส่องกระจก เขาเองก็เห็นร่องรอยบนเนื้อตัวของตัวเองเช่นกัน อาจจะเป็นผลมาจากการถูกเธอทั้งแตะและต่อยนั่นแหละ รอยฟกช้ำพวกนี้แม้ว่าจะไม่หนักหนาแต่ก็ยังมองเห็นได้
ด้วยความหงุดหงิด ชายหนุ่มต่อยกระจกจนแตกละเอียด ก่อนจะหมุนตัวและยกมือวางเท้าบนโต๊ะ
ก่อนหน้านี้เขาขาดสติจนปราศจากเหตุผลจนทำเรื่องบ้าคลั่ง เมื่อมองย้อนกลับไปในตอนนี้ กู้จิ้งเจ๋อก็พบว่าตัวเขาหวาดระแวงมากเกินไปจนใส่ร้ายเธอเรื่องกู้จิ้งอวี่ เพียงเพราะนาฬิกาข้อมือเรือนเดียว
เขารู้จักกู้จิ้งอวี่ดี และเขาก็รู้จักหลินเช่อดีด้วยเช่นกัน
เมื่อได้รู้ว่ากู้จิ้งอวี่เป็นน้องชายของเขา หลินเช่อย่อมไม่มีทางเข้าไปมีเรื่องพัวพันกับกู้จิ้งอวี่อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเขาโกรธจัดในตอนนั้นจนไม่ได้คิดใคร่ครวญทุกอย่างให้ดี
แต่ถึงอย่างไร เมื่อเขาคิดถึงการที่หลินเช่อและกู้จิ้งอวี่สนิทสนมกันเป็นอย่างดี และนั่นทำให้เขาหึงหวงจนหน้ามืดกับเรื่องธรรมดาสามัญอย่างการที่เพื่อนให้ของขวัญเพื่อน
หลินเช่อ…หลินเช่อไม่เคยให้ของขวัญเขาเลยซักชิ้น!
เขารู้ดีว่าการคิดแบบนี้เป็นความคิดแบบเด็กๆ ทำไมเขาถึงได้ทำตัวเป็นเด็กอมมือที่โกรธเพราะของขวัญขี้ปะติ๋วแค่นั้นนะ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังควบคุมความคิดของตัวเองไม่ได้อยู่นั่นเอง
หลังจากอาบน้ำเสร็จ กู้จิ้งเจ๋อก็นอนลงบนเตียง แต่กลับไม่สามารถหลับลงได้ เขาคิดถึงการที่เขาขาดความระวังจนทำให้หลินเช่อต้องเจ็บ การทิ้งเธอเอาไว้ให้อยู่บ้านตามลำพังทั้งที่เธอยังบาดเจ็บแบบนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง และโทรหาพ่อบ้าน