เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 351
หลินเช่อมองไปที่ลู่ชูเซี่ย
เธอกำลังตะโกนโหวกเหวกอยู่ในน้ำ ภายในเวลาไม่นานสาวใช้และแขกเหรื่อมากมายต่างก็รีบวิ่งมาหาจากด้านหลัง
ในความปั่นป่วนของความสับสนอลม่าน คนสองสามคนช่วยกันดึงลู่ชูเซี่ยขึ้นมา
ลู่ชูเซี่ยเงยหน้ามองหลินเช่อ ตัวของเธอเปียกชุ่มและเครื่องสำอางบนใบหน้าก็ถูกล้างออกไปจนหมด เธอโมโหมากจนแทบจะควบคุมสติไว้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม การเป็นสาวสังคมชั้นสูงแถวหน้าไม่ใช่ว่าใครก็เป็นได้ เธอยังดูงดงามถึงแม้ว่าเครื่องสำอางจะถูกล้างออกไปหมดแล้ว
ผิวหน้าที่เธอเสียเงินเสียเวลาดูแลไปนั้นก็ดูไม่ได้เลย
เธอรู้สึกอับอายเหลือประมาณเมื่อเห็นทุกคนมองมาที่เธอ หญิงสาวร้องไห้ออกมาทันทีและชี้ไปที่หลินเช่อ
“หลินเช่อ ทำไมเธอทำกับฉันอย่างนี้”
หลินเช่อมองเธอพูดอะไรไม่ออก “เธอว่าไงนะ”
ลู่ชูเซี่ยพูดต่อด้วยท่าทางอันแสนกระวนกระวาย “เธอผลักฉันลงน้ำทำไม หรือเพียงเพราะฉันบอกว่าเมื่อก่อนเคยช่วยชีวิตพี่จิ้งเจ๋อไว้ เธอถึงทำกับฉันแบบนี้งั้นรึ ฉันเคยมีความหลังร่วมกับพี่จิ้งเจ๋อและมันเป็นความจริงที่ปฏิเสธได้ จะมาผลักฉันตอนนี้เพื่ออะไร นี่เธอพยายามจะฆ่าฉันหรือไง”
คนที่มุงดูอยู่ได้ยินคำกล่าวหาของลู่ชูเซี่ยและจินตนาการไปว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้
หรือพวกเธอกำลังทะเลาะกันเรื่องกู้จิ้งเจ๋อ เพราะอย่างนั้นหลินเช่อถึงได้ผลักลู่ชูเซี่ยตกน้ำงั้นหรือ
หลินเช่อมองเธอในอาการตกตะลึง “นี่เธอกำลังจะพูดอะไรกันแน่ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอพูดเรื่องอะไร ฉันไปผลักเธอตอนไหน เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายทำร้ายฉันก่อน”
“ฉันจะทำร้ายเธอได้ยังไง ฉันจะทำไปด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ!”
ในตอนนั้นเอง ลู่เป่ยเฉินเดินเข้ามาจากทางด้านหลังตามมาด้วยกู้จิ้งเหยียน ทั้งคู่มองไปที่สถานที่เกิดเหตุ สายตาของทั้งสองมองกวาดไปที่หลินเช่อซึ่งยืนอยู่ข้างๆ และลู่ชูเซี่ยผู้ถูกล้อมรอบด้วยฝูงชน
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่”
ลู่ชูเซี่ยร้องเรียกพี่ชายตัวเอง “พี่คะ เธอคนนี้ผลักฉันตกน้ำค่ะ”
ลู่เป่ยเฉินมองไปยังหลินเช่อและไม่อยากเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องอย่างนั้นได้
เขามองหลินเช่อแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น”
หลินเช่อรู้สึกเหมือนกำลังถูกรุมขณะที่เธอยืนอยู่คนเดียว ประจันหน้ากับคนเป็นทิวแถว
“เธอเล่นงานฉันก่อนและจะผลักฉันลงน้ำ ฉันเพียงแค่ตอบโต้เท่าที่จำเป็น” หลินเช่อกล่าว
น้ำตาเริ่มไหลรินลงมาบนใบหน้าของลู่ชูเซี่ยเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอมองลู่เป่ยเฉิน “พี่คะ ฟังข้อแก้ตัวน่าขำนั่นสิ ฉันเป็นคุณหนูของตระกูลลู่นะ ทำไมต้องไปมีเรื่องกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าด้วย”
ลู่เป่ยเฉินขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่น้องสาวของตัวเอง “หุบปาก”
ลู่ชูเซี่ยผู้ถูกตามใจจนเคยตัวและตอนนี้เธอพูดมากเกินไปแล้ว
ลู่ชูเซี่ยพูด “พี่ถามใครก็ได้ถ้าไม่เชื่อฉัน พวกคุณทุกคนเห็นใช่ไหมว่าเธอผลักฉันตกลงไป”
ลู่เป่ยเฉินมองไปที่ผู้คนที่อยู่ด้านหลัง พวกที่ตามมาทีหลังก็รู้จักแต่ลู่ชูเซี่ย และมีอีกหลายคนชื่นชมเธอที่เป็นสาวสังคมชั้นสูงเบอร์หนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น หลินเช่อเป็นคนไม่มีพื้นเพอะไรจริงๆ ขณะที่ลู่ชูเซี่ยเป็นคุณหนูของตระกูลลู่ เธอได้ทุกสิ่งมาอย่างง่ายดายตามที่ใจปรารถนา
เป็นธรรมดาที่พวกนั้นต้องคิดอยู่ในใจว่าลู่ชูเซี่ยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรังแกหลินเช่อ
หนึ่งในนั้นพูดว่า “พวกเราเห็นหลินเช่อสู้กับลู่ชูเซี่ยแล้วก็ผลักเธอตกลงไป”
เขาพูดความจริงในสิ่งที่เห็น ทว่า อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้ได้
ลู่ชูเซี่ยยิ่งโหมกระหน่ำขึ้นอีกและมองที่หลินเช่อ “ทีนี้เธอมีอะไรจะแก้ตัวมั้ยฮึ”
หลินเช่อรู้สึกฉุนเฉียวอย่างที่สุดและมองไปยังฝูงชนรอบตัว “พวกคุณทุกคนแค่เห็นว่าฉันผลักเธอ แต่ว่า พวกคุณอยู่ห่างออกไปตั้งไกล คุณแน่ใจจริงๆ หรือว่าเห็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน”
บางคนในกลุ่มรู้สึกผิดเมื่อต้องเผชิญกับคำถามของหลินเช่อ อย่างไรก็ดี ภายใต้อิทธิพลของตระกูลลู่ ใจของพวกเขายังคงผูกมัดภักดีต่อครอบครัวนี้
ใครบางคนพูดขึ้นว่า “พวกเราทุกคนรู้จักนิสัยของชูเซี่ยดี เธอมาอยู่ในเมืองบีหลายปีแล้วและไปร่วมเป็นเกียรติในงานมากมาย ทำไมเธอต้องมาเสียเวลาทะเลาะกับคุณด้วย”
“ถูกต้องที่สุด คุณชูเซี่ยได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ เธอไม่จำเป็นต้องมีปัญหากับคุณ”
“และคุณชูเซี่ยถูกดูแลมาอย่างดีตั้งแต่เล็ก เธอไม่มีทางสู้ชนะคุณได้หรอก”
“ใช่แล้ว คุณชูเซี่ยเป็นคนที่มีกิริยางดงามมาโดยตลอด ทำไมเธอต้องโกหกด้วย เธอไม่ใช่คนรุนแรงที่จะลงไม้ลงมือกับคุณ” เมื่อหลินเช่อได้ยินเช่นนั้นเธอรู้สึกงุนงงอย่างที่สุด
แค่เพราะลู่ชูเซี่ยมีทั้งอิทธิพลและอำนาจ ไม่ว่าเธอทำอะไรก็ถูกงั้นรึ
หลินเช่อมองไปยังคนพวกนั้น “แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน พวกคุณมีอะไรมาพิสูจน์ว่าฉันเป็นฝ่ายผิด”
ทุกคนอึกอักพูดไม่ออก พวกเขาอยู่ไกลเกินไปและเห็นไม่ชัดแน่ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอ
หลินเช่อว่า “พวกคุณพูดว่าเธอไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทะเลาะกับฉัน แล้วฉันมีเหตุผลอะไรที่ต้องทะเลาะกับเธอด้วยล่ะ”
ดวงตาของลู่ชูเซี่ยเข้มขึ้น เธอมองไปยังหลินเช่อ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะหน้าทนถึงเพียงนี้ หลินเช่อกล้ามีเรื่องกับเธอซึ่งๆ หน้า และยังกล้าพูดโต้ตอบแบบนั้นกับคนมากมาย
ลู่ชูเซี่ยพูด “เพราะฉันบอกเธอว่าฉันกับกู้จิ้งเจ๋อเคยมีอดีตร่วมกัน เธอคิดว่าความสัมพันธ์ของฉันกับพี่จิ้งเจ๋อลึกซึ้งเกินไป เธอก็เลยอิจฉาและจะกดน้ำฉัน”
ทุกคนได้ยินเช่นนั้นแล้วก็หันไปที่หลินเช่อ รอฟังว่าเธอมีอะไรจะแก้ตัวอีก
หลินเช่อพูดเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ขอให้เข้าใจตรงกันก่อนนะคะ ฉันนี่นะอิจฉาเธอ ทำไมฉันต้องอิจฉาเธอด้วย คนที่อยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋อตอนนี้ไม่ใช่เธอ แต่เป็นฉัน!”
ใบหน้าของลู่ชูเซี่ยแข็งทื่อขึ้นมาทันที
คำพูดของหลินเช่อดูจะทิ่มแทงไปตรงจุดอ่อนของเธอ
ลู่ชูเซี่ยโกรธเกรี้ยวอยู่ภายใน แต่ภายนอกเธอยังคงร้องไห้ท่าทางเปราะบางและพูดว่า “ใช่ ใช่ แน่ล่ะ ฉันอิจฉาเธอ ทำไมฉันต้องอิจฉาเธอด้วย ถ้าไม่มีกู้จิ้งเจ๋อก็จะไม่มีใครต้องการฉันอีกแล้วงั้นรึ และถึงไม่มีผู้ชาย ตระกูลลู่จะดูแลฉันไม่ได้เลยรึ”
ทุกคนได้ยินและเห็นด้วย ลู่ชูเซี่ยไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเพื่อผู้ชายเพียงคนเดียว
ใครบางคนพูดกับหลินเช่อ “คนที่อิจฉาต้องเป็นคุณมากกว่า คุณพึ่งพาได้แต่กู้จิ้งเจ๋อเพราะฉะนั้นคุณถึงได้อ่อนไหวนัก คุณชูเซี่ยน่ะต่างออกไป เธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร”
“จริงด้วย และยิ่งไปกว่านั้น คุณชูเซี่ยจะอิจฉาคุณได้ยังไง คุณจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเธอไม่ได้ และคุณกลัวว่าวันนึงคุณชูเซี่ยจะเข้ามาแทนที่คุณ คุณถึงได้หึงหวงนัก”
หลินเช่อรู้สึกอึ้งอย่างที่สุด
เมื่อมาถึงตอนนี้ ลู่เป่ยเฉินทำหน้าถมึงทึงไปทางด้านหลัง “พอ หยุดได้แล้ว”
หลังจากที่จ้องขมึงไปที่พวกปากมาก เขามองตรงไปยังหลินเช่อและพูด “ลืมเรื่องนี้เถอะนะ ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร ชูเซี่ยก็เป็นคนที่ตกลงไปในทะเลสาบ ถือซะว่านี่เป็นการลงโทษเธอไปแล้วละกัน พวกเรากลับไปกันดีกว่า จิ้งเจ๋อยังรอพวกเราอยู่”
กู้จิ้งเหยียนมองลู่เป่ยเฉิน ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ปกป้องน้องสาวอย่างออกนอกหน้า เธอยังคิดว่าเขาปล่อยให้เรื่องนี้บิดเบือนไปจากความจริง
เธอลุกขึ้นและประกาศออกมา “นี่หมายความว่ายังไง ฉันรู้ว่าพี่สะใภ้ของฉันไม่มีวันทำเรื่องอย่างนั้น พี่สะใภ้อยู่ในความดูแลของพี่ชายฉัน และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องอิจฉาใคร เธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราและมีตระกูลกู้เป็นผู้ดูแล เธอไม่มีความจำเป็นที่ต้องก้มหัวต่อหน้าคนอื่น