เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 352
หลินเช่อมองกู้จิ้งเหยียน เธอไม่คิดว่ากู้จิ้งเหยียนจะเข้ามาช่วยปกป้อง หญิงสาวจึงมองไปที่เธอด้วยความซาบซึ้งใจ
ลู่เป่ยเฉินเพียงแค่ไม่ต้องการแสดงให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันของสองตระกูลต่อหน้าคนมากมายและต้องกลายเป็นตัวตลก
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ชูเซี่ยเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา เขาจะเข้าข้างหลินเช่อและทำให้คนอื่นคิดว่าตระกูลลู่ต้องอ่อนน้อมต่อตระกูลกู้ได้อย่างไร
แต่ตอนนี้กู้จิ้งเหยียนต่อต้านเขาขึ้นมาอย่างนี้ ใจของเขาเริ่มมอดไหม้ เขามองกู้จิ้งเหยียน “ใช่ ตระกูลกู้ของเธอน่ะเก่งกาจ แต่นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เธอต้องเอาเรื่องของสองครอบครัวเข้ามาเกี่ยวด้วยงั้นรึ”
กู้จิ้งเหยียนมองไปยังลู่เป่ยเฉิน “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของคนคนหนึ่ง มันจะเป็นเรื่องเล็กได้ยังไง คุณอาจคิดว่าคนอื่นจะคิดกับคุณยังไงมันก็เป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับคุณ แต่คนที่ถูกดูถูกจะรู้สึกเสียใจนะ ทำไมไม่เอาใจเขามาใส่ใจเราแทนที่จะปัดให้เป็นเรื่องเล็กอย่างเห็นแก่ตัวแบบนี้ คุณคิดว่าคุณทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเมื่อไม่มีใครสนใจภาพรวม คุณไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยรึ”
ตั้งแต่กู้จิ้งเหยียนคบกับเขา คนภายนอกมากมายพูดกันว่าเธอใช้อำนาจในฐานะคุณหนูของตระกูลกู้ไล่ฟู่เฉินซีผู้อ่อนแอไป เธอเป็นนางมารที่เอาตัวเองเข้าไปขั้นตรงกลางระหว่างเพื่อนตัวเองกับคนรักของเพื่อน
ลู่เป่ยเฉินรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะออกมาปกป้องเธอ
บางทีภายในใจของเขาอาจจะรู้สึกเช่นนั้น เรื่องที่เกิดทั้งหมดก็เพราะกู้จิ้งเหยียน หรือคงเป็นเธอเองที่ใช้อำนาจบังคับให้เขาต้องไปจากหญิงสาวที่เขารัก
ลู่เป่ยเฉินมองด้วยความโกรธไปที่กู้จิ้งเหยียน “ถ้าเธอกำลังพูดถึงตัวเองอยู่ ก็พูดออกมาเลย ทำไมต้องอ้อมค้อม”
พวกเขาตกลงที่จะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่น แต่ทั้งคู่อดทนไว้ไม่ได้แล้ว
ตอนนั้นเอง ใครบางคนถามขึ้นมาจากด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้น”
คนที่ได้ยินเสียงนี้หันไปมองทันที
พวกเขาบางคนหันไปมองที่ลู่ชูเซี่ยเมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อกำลังเดินเข้ามา
ใบหน้าของลู่เป่ยเฉินเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาเหลือบมองไปที่กู้จิ้งเหยียนและไม่ต้องการพูดอะไรกับเธออีก
กู้จิ้งเหยียนชำเลืองกลับมาที่เขาและไม่สนใจอีกต่อไป
หลินเช่อรู้สึกผิด เป็นเพราะปัญหาของเธอเอง กู้จิ้งเหยียนกับลู่เป่ยเฉินจู่ๆ ต้องมาทะเลาะกัน ตอนนี้เธอเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อมาแล้วและรีบมองไปยังชายหนุ่ม
ลู่ชูเซี่ยเริ่มครวญครางจากทางด้านหลังเพราะเธอจะพูดอะไรก็ได้ “กู้จิ้งเจ๋อ พี่เห็นหรือเปล่าวว่าหลินเช่อของพี่ทำอะไรลงไป เธอผลักฉันตกน้ำและยังบอกอีกว่าจะจับฉันกดน้ำ”
หลินเช่อถามอย่างประหลาดใจ “เธอว่าไงนะ ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าจะกดน้ำเธอ”
ลู่ชูเซี่ยมองหลินเช่อพลางกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง “เธอไม่ได้พูดงั้นรึ เธอพูดออกมาเมื่อกี้ ฉันรู้เธอจะไม่ยอมรับถ้าจิ้นเจ๋ออยู่ที่นี่ แต่ทุกคนเห็นเธอผลักฉันตกน้ำ เธอปฏิเสธไม่ได้ จริงมั้ย”
ใช่ ใช่ ทุกคนเห็น”
“จริงด้วย พวกเราทุกคนเห็นคุณชูเซี่ยถูกหลินเช่อผลักตกน้ำ”
หลินเช่อไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนพูดจาไร้สาระอย่างนี้บนโลกใบนี้ด้วย พวกนั้นโกหกและยังทำให้เหมือนว่าเป็นเรื่องจริงอีกด้วย
เธออาจจะผลักลู่ชูเซี่ยตกน้ำจริง แต่นั่นก็เพราะเธอกำลังตอบโต้กลับ เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะผลักเลยแม้แต่น้อย
เธอเงยหน้าขึ้น “กู้จิ้งเจ๋อ ฉัน…”
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลงและเดินผ่านผู้คนที่อยู่ข้างหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครบอกอะไรได้จากสีหน้าเย็นชาของเขา พวกนั้นไม่เคยเข้าใจว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
กู้จิ้งเจ๋อมองเลยผ่านพวกนั้นไปและหันไปหาหลินเช่อ ขณะที่เขาก้มลงไปที่หน้าเธอ สีหน้าของเขาอบอุ่นขึ้นอย่างชัดเจน ถึงเขาจะยังไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่สายตาที่เขาจ้องมองนั้นอ่อนโยน
“บอกฉันซิว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลินเช่อพูด “ฉันเดินเล่นอยู่และเห็นลู่ชูเซี่ยกำลังคุยกับใครบางคน”
เธอมองไปยังลู่ชูเซี่ย
ดวงตาของลู่ชูเซี่ยฉายวาบขณะที่จ้องมาทางหลินเช่อตาไม่กะพริบ
เธอไม่กังวลว่าหลินเช่อจะพูดอะไร เพราะถึงอย่างไร เธอได้สั่งให้สาวใช้ตระกูลลู่กำจัดม้าตัวนั้นให้เร็วที่สุดและพวกเขาน่าจะจัดการเรียบร้อยแล้ว มันจะไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่อีก
เธอไม่มีหลักฐาน เธอจะพูดอะไรได้
ถึงแม้หลินเช่อจะพูด เธอก็ไม่ยอมรับอยู่ดี
หลินเช่อมองอย่างลุ่มลึกไปยังลู่ชูเซี่ย แล้วก็เงยหน้ามองกู้จิ้งเจ๋อและบอกต่อไปว่า “ฉันเดินเล่นอยู่แล้วจู่ๆ ลู่ชูเซี่ยก็เข้ามา เธอลากฉันตรงไปที่น้ำและจะผลักฉันลงไป ฉันได้แต่ป้องกันตัวแล้วเธอไม่แข็งแรงเท่าฉัน ฉันจึงผลักเธอตกน้ำไป”
“ไร้สาระ ฉันไม่เคยคิดที่จะผลักเธอเสียหน่อย ฉันแค่จะเข้าไปทักทายเท่านั้น” ลู่ชูเซี่ยยังโกหกตาใส
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตามองไปยังหลินเช่อ
หลินเช่อไม่ต้องการพูดถึงเรื่องม้าที่ได้ยินเมื่อครู่ เธอรู้ว่าหลักฐานคงถูกทำลายไปหมดแล้วและไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดถึงเรื่องนั้น และอีกอย่าง เธอไม่ต้องการบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลในช่วงเวลาอันตรายเช่นนี้ เหมือนที่ลู่ชูเซี่ยว่า
เธอจึงตัดสินใจที่จะลืมมันเสีย ถึงอย่างไร เรื่องพวกนี้ก็ไม่สำคัญอะไรต่อกู้จิ้งเจ๋ออยู่แล้ว
กู้จิ้งเจ๋อมองลู่ชูเซี่ยที่กำลังโศกเศร้าและหันไปมองหลินเช่อผู้เด็ดเดี่ยว
ทุกคนที่นี่ต่างเข้าข้างลู่ชูเซี่ยและพูดมาตลอดว่าเห็นหลินเช่อผลักลู่ชูเซี่ย
กู้จิ้งเจ๋อฉวยเอามือของหลินเช่อและประกาศอย่างเรียบเฉยต่อหน้าฝูงชน “ฉันเชื่อว่าหลินเช่อพูดความจริง”
พวกนั้นได้แต่อึกอัก
ลู่ชูเซี่ยมองกู่จิ้งเจ๋ออย่างเดือดดาล “ทำไมพี่ถึงไว้ใจเธอ เธอโกหกนะ จิ้งเจ๋อ!”
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าลู่ชูเซี่ย “ทำไมล่ะ ฉันไว้ใจเธอไม่ได้เหรอ”
“…” ผู้คนมองเขาด้วยความตกใจ
กู้จิ้งเจ๋อจับมือหลินเช่อไว้แน่นขณะที่มองไปยังกลุ่มคน “ฉันเชื่อว่าหลินเช่อไม่ใช่คนประเภทที่จะทำเรื่องแบบนั้น และถึงแม้ว่าเธอจะผลักใครซักคน ก็ต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน”
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมองกู้จิ้งเจ๋อผู้ที่ยืนเคียงข้างเธออย่างไม่ลังเล
กลุ่มคนที่อยู่อีกด้านยังคงพูดคุยกันไม่หยุดและกล่าวว่า “แต่พวกเราเห็นจริงๆ นะ กู้จิ้งเจ๋อ”
“จริงด้วย นายรอง หลินเช่อเป็นฝ่ายผลักคุณชูเซี่ย”
“คุณจะเพิกเฉยต่อหลักฐานไม่ได้นะ”
กู้จิ้งเจ๋อจ้องทะลุไปถึงพวกที่กำลังพูดอยู่อีกด้าน “ฉันไม่ต้องการดูหลักฐาน แล้วจะยังไง”
“…”
กู้จิ้งเจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงมีอำนาจ “ฉันไว้ใจผู้หญิงของฉัน เธอไม่มีทางทำอะไรอย่างนั้น ฉันเชื่อว่าถ้าเธอจะผลักใครซักคน เธอต้องมีเหตุผลแน่นอน”
ชายหนุ่มจับมือหลินเช่อไว้แน่น “ถ้าหลินเช่อผลักใครจริงๆ แล้วจะยังไง”
สีหน้าของฝูงชนที่มองอยู่รอบด้านต่างอยู่ในอาการตกตะลึง
กู้จิ้งเจ๋อคนนี้จะเผด็จการเกินไปแล้ว
อีกทั้งยังเข้าข้างภรรยาของเขาเกินไป
เขาไม่แม้แต่จะไว้หน้าตระกูลลู่
ลู่ชูเซี่ยมองกู้จิ้งเจ๋อ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ อย่างนี้
สายตาของกู้จิ้งเจ๋อโกรธขึ้งกวาดมองไปที่คนพวกนั้น “ทำไมล่ะ พวกคุณยังมีแผนที่จะทำอะไรหลินเช่ออีกมั้ย พวกคุณกำลังคิดจะทำอะไรหลินเช่อรึ”
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ใช่ แล้วใครหน้าไหนจะกล้าลงมือทำอะไรหลินเช่อ