เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 357
“คุณคงไม่เล่นเกมสินะ…”
“ก็ไม่ค่อยเล่นนะ”
“คุณรู้จัก ‘ไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด’ มั้ยคะ”
“มันคืออะไรเหรอ”
“ไม่ได้เล่นยากอะไร; เป็นแค่เกมไพ่น่ะค่ะ โอ ช่างเถอะ ฉันไม่คิดว่าเราจะเล่นอะไรได้ ปกติคุณชอบทำอะไรบ้างล่ะคะ” หลินเช่อคิดว่ากู้จิ้งเจ๋อดูเป็นคนที่ไม่น่าจะมีงานอดิเรก
“กู้จิ้งเจ๋อว่า “ดื่มชา ออกกำลังกาย ฟังเพลง…คัดลายมือ”
“คัดลายมือเหรอคะ งานอดิเรกแบบไหนกันเนี่ย”
“การเขียนอักษรวิจิตรน่ะ” กู้จิ้งเจ๋อตอบ
หลินเช่อถามอย่างประหลาดใจ “คุณเขียนอักษรวิจิตรเป็นด้วยเหรอคะ”
“แน่นอน คุณปู่ของฉันเป็นคนสอนฉันด้วยตัวเอง ท่านเขียนต้นฉบับที่เป็นตัวเล็กปกติซึ่งเป็นที่โด่งดังมากในสมัยนั้น”
หลินเช่อถาม “คุณเขียนให้ฉันดูได้มั้ยคะ”
“เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้นี่ จะอยากดูไปทำไมกัน”
“ฉันไม่เคยเห็นใครที่ฝึกวิธีการเขียนอักษรวิจิตรมาก่อน มันค่อนข้างโบราณสำหรับฉันแล้วนี่คนข้างๆ ฉันเองที่เขียนเป็น…”
“…” กู้จิ้งเจ๋อมองเธอพูดอะไรไม่ออก
เธอเรียกใครว่า ‘โบราณ’ …
กู้จิ้งเจ๋อมองไปยังหญิงสาว “เพราะไม่มีใครรอบตัวเธอที่ใฝ่เรียนและรู้จักศึกษาศิลปวัฒนธรรมน่ะสิ!”
“ใช่ ใช่ ใช่ ฉันไม่ได้เรียกคุณว่าโบราณหรอกนะคะ ฉันแค่จะบอกว่ามันหายากมาก…”
“เธอมีแต่คนประเภทเดียวกับฉินชิงอยู่รอบตัวน่ะสิ จะมีเรื่องไร้สาระอะไรที่คนพวกนั้นทำให้เธอดูได้”
“…” หลินเช่อรู้ว่าเขาโมโหที่เธอเรียกเขาว่าโบราณ
เขาจะโกรธเธอแค่ไหนก็ได้ แต่ทำไมต้องไปลากคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเกี่ยวด้วยล่ะ
“ใช่ ใช่ ใช่ ไม่มีใครเก่งเท่าสามีฉันอีกแล้ว เขารู้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องยากๆ ได้โปรดช่วยสาธิตให้ฉันดูทีเถอะค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อทำเสียงฮึดฮัด แต่เห็นว่าหญิงสาวทำตัวว่าง่าย เขาจึงเงยหน้าขึ้นแล้วสั่งให้คนของเขานำกระดาษเขียนอักษรวิจิตร หมึก และปากกามา
ไม่นานหลังจากนั้น อุปกรณ์ต่างๆ ก็ถูกนำมาที่ห้อง
เมื่อทุกอย่างวางพร้อมอยู่บนโต๊ะแล้ว กู้จิ้งเจ๋อหยิบพู่กันขึ้นมาและบอกกับหลินเช่อ “ฉันไม่ได้ฝึกมาพักใหญ่แล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่เขียนอะไรก็ได้ ฉันไม่หัวเราะคุณหรอก”
กู้จิ้งเจ๋อลงมือเขียนล่วงหน้าไปแล้ว
เขาไม่ได้ใช้แรงมากและเขียนได้รวดเร็ว ลายมืองดงามในหมึกสีดำถูกเขียนไว้บนกระดาษขาว หลินเช่อรู้สึกราวกับว่ามันเป็นเวทมนตร์ แลดูตระการตา ลายมือเขียนนี้ช่างน่าอัศจรรย์
ลายมือของเขาก็เหมือนกับตัวเขา; ภายนอกนั้นสวยงาม แต่ละเส้นที่ลากชัดเจนและประณีต ไม่มีร่องรอยน้ำหมึกเลอะและเป็นระเบียบอย่างที่สุด
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความประทับใจ “มันสวยมาก คุณยอดเยี่ยมไปเลย โอ ว้าว ฉันอยากเรียนบ้างค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อส่งพู่กันให้เธอ “โอเค มาลองสิ จริงๆ แล้วมันง่ายมาก ถ้าเธอถือพู่กันให้ถูกต้อง อย่าลังเลที่จะเขียน”
มันง่าย – สำหรับเขา
แต่สำหรับหลินเช่อ…
เธอเลียนแบบท่าทางของกู้จิ้งเจ๋อ และในช่วงเวลาอันสั้นก็มีหยดหมึกสีดำเปื้อนอยู่บนกระดาษ
กู้จิ้งเจ๋อถามอ่อนใจ “เธอเขียนให้ดีหน่อยได้มั้ย”
“ตั้งใจหน่อยสิ หลินเช่อ ทำไมมือเธอสั่นเวลาเขียนล่ะ”
“ดูสิ เธอนี่บื้อจริง”
“เฮ่ เฮ่ เฮ่ กู้จิ้งเจ๋อ ฉันไม่เหมือนคุณนะ ฉันเรียนเทคนิคพวกนี้ไม่ได้ในทันที ฉันแค่ต้องฝึกก่อน แต่คุณดุมากจนฉันกลัวไปหมดแล้ว ฉันจะเขียนดีๆ ได้ยังไง”
“…”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อพูดไม่ออก
หลินเช่อพูดต่อไปว่า “อีกอย่าง…คุณเขียนตามอย่างต้นฉบับปกติ ให้ฉันเขียนแบบไม่ปกติได้มั้ย”
“…” กู้จิ้งเจ๋อเคาะที่หัวของเธอ “เธอนี่ข้ออ้างเยอะเหลือเกิน”
“จริงๆ นะ ทำไมฉันไม่มีความสามารถทางนี้เอาซะเลย”
“ใช่ ใช่ ฉันยังไม่เคยเห็นเธอมีความสามารถทางด้านไหนซักอย่างเดียว”
“ฉันมีความสามารถในการหาสามีไง” เธอหัวเราะคิกคักมองดูเขา “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันหาสามีและฉันก็ได้เจอสามีที่ดีแสนดีมากๆ ด้วย”
กู้จิ้งเจ๋ออ่อนลงทันที
เขามองไปยังหลินเช่อ ขยับตัวเล็กน้อยแล้วหัวเราะพลางเดินไปด้านหลังของเธอ จากนั้นก็คว้ามือเธอ “ก็ได้ เป็นความผิดฉันเองที่ดันเป็นสามีที่แสนดี อย่าขยับและฉันจะสอนให้”
กู้จิ้งเจ๋อจับมือหลินเช่อจากข้างหลัง หลินเช่อยิ้มนิดๆ รู้สึกได้ถึงชายหนุ่มที่จับมือเธออยู่ ทั้งคู่เริ่มเขียนไปทีละเส้นอีกครั้งบนกระดาษ
ลมหายใจของเขาที่รดอยู่ข้างหูเธอทำให้รู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อย และเขายังจับมือของหญิงสาวไว้แน่น เขาแทบจะโอบกอดเธอไว้ทั้งตัว
หน้าหล่อเหลานั่นแทบจะแนบลงไปบนใบหน้าของเธอ มันช่างใกล้ชิดกันเหลือเกิน
หัวใจของหลินเช่อเต้นเป็นกลองรัว เธอปล่อยให้เขาเป็นคนออกแรงเขียนกลอน
‘เพื่อชนะใจสุดที่รักของฉัน จนกว่าความตายแยกสองตายายจากกัน’
หลินเช่อรู้สึกวาบหวามใจ
แม้เธอจะรู้ว่ามันเป็นแค่กลอน แต่มันก็ทำให้หัวใจของเธอเฝ้ารออย่างควบคุมไม่ได้
‘จนกว่าความตายแยกสองตายายจากกัน’ …มันช่างเป็นเรื่องราวที่งดงาม
หลินเช่อว่า “ว้าว! คุณเห็นมั้ย ฉันนี่เก่งเกินไปแล้ว ฉันขอใส่กรอบแขวนไว้ในห้องฉันได้มั้ยคะ”
“ห้องนั้นตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ถ้าเธอแขวนเจ้านี่…มันจะไม่เข้ากันน่ะสิ”
“แต่ฉันอยากแขวนนี่คะ” หลินเช่อพูด
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อแล้วพยักหน้า “ก็ได้ เธอแขวนมันได้”
“ฮี่ๆ ดีจังเลย!”
เมื่อเห็นหลินเช่อมีความสุขแบบนั้น กู้จิ้งเจ๋อจูบที่ผมของเธอแล้วสูดเอากลิ่นของหญิงสาว
ชายหนุ่มหลับตาลงชั่วครู่เพื่อที่จะควบคุมตัวเอง
แต่การหลับตายิ่งทำให้เขาคิดเตลิดไปอีก
เธอกำลังจะเดินออกมาแต่รู้สึกได้ถึงแรงของเขาที่รั้งเอวไว้
เธอเปล่งเสียงออกมาและรู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นจากตัวกู้จิ้งเจ๋อประชิดเข้ามาที่ตัวเธอ เขาขยับถูไปมาที่หลังเธอ “อย่าขยับ…”
“คุณ…คุณกำลังทำอะไรคะ…”
“ฉันบอกว่าอย่าขยับไง มาให้ฉันดูเธอหน่อยซิ”
“ค-ค-คุณ…ไม่มีทาง นี่มันห้องทำงานนะคะ เดี๋ยวคุณมีประชุมทางวิดีโอไม่ใช่เหรอ…”
“พวกเขารอได้น่า” กู้จิ้งเจ๋อกอดเธอและออกแรงยกเพียงครั้งเดียว หญิงสาวก็นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานเขาแล้ว
หลินเช่อคิดทันทีว่าเขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง “ค-ค-คุณ…อย่านะคะ ฉันทำไม่ได้…”
“อย่าขยับ ฉันขอดูเธอหน่อย” ชายหนุ่มบอกแล้วเปิดกระโปรงของเธอขึ้น
ที่บ้าน เธอจะใส่กระโปรงธรรมดาและมีแค่กางเกงชั้นในอยู่ภายใต้นั้น
กู้จิ้งเจ๋อจับข้อเท้าของเธอและยกขาขึ้น
หลินเช่ออ้ำอึ้งร้องออกมา “คุณ…คุณกำลังทำอะไร เราทำอย่างนี้ไม่ได้…” ใบหน้าเธอแดงก่ำขณะที่พยายามไขว่คว้ามือของเขาอย่างหมดหวัง เธอตื่นตระหนกสุดขีด
“กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอ “อย่าขยับสิ ฉันแค่จะดูเท่านั้น จริงๆ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
“แต่…”
เขากดริมฝีปากลงไปที่ปากของเธอ กลืนเอาความตกใจของเธอเข้าไป
หลังจากนั้น เขาก็เลื่อนจูบของเขาลงมาที่ตัวของเธออย่างช้าๆ
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นและหายใจหนักหน่วง
เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสจูบของเขาที่ตรงซ่อนเร้นของเธอ หญิงสาวรีบบอกทันที “อย่าค่ะ ฉัน…”
“เป็นเด็กดี…แผลเธอยังไม่หายดี ดังนั้นฉันยังทำอะไรไม่ได้ คิดซะว่านี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการแก้ปัญหา”
“แต่…”
“แต่อะไร ถ้าเราไม่เลือกทำอย่างอื่น เธอจะให้ฉันเฉาตายเหรอ”
หลินเช่อหน้าแดงทันที นี่มันเป็นทางเลือกของการแก้ปัญหาอะไรกัน”
แต่กู้จิ้งเจ๋อยังคงลงลึกไปเรื่อยๆ ทำให้หลินเช่อคิดอะไรไม่ออก
ทว่า ในตอนนั้นเอง…
จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลินเช่อตื่นตระหนกและรีบคว้าแขนของชายหนุ่ม “เดี๋ยว เดี๋ยว มีคนมา กู้จิ้งเจ๋อ”
กู้จิ้งเจ๋อวางหลินเช่อลง เขามองประตูไม่พูดไม่จารู้สึกขุ่นมัว
หลินเช่อพูด “เร็วเข้า ไปล้างให้เรียบร้อย…ตาบ้า ฉันบอกคุณแล้วว่าอย่า”
เธอรีบแจ้นไปยังห้องน้ำที่ติดกันและล้างหน้าตัวเอง
กู้จิ้งเจ๋อก็ตามหลังเธอไป เขามองไปที่ร่างกายของตัวเองแล้วก็สูดหายใจลึก เขารู้สึกรำคาญใจอย่างที่สุดไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ด้านนอกนั่น
ในตอนนั้นเอง ประตูเปิดออกและสาวใช้กล่าวว่า “คุณผู้หญิงคะ หน่วยรักษาความปลอดภัยแจ้งว่ามีคนมารอพบค่ะ”
มีคนมาหาเธองั้นหรือ
หลินเช่องุนงง เมื่อเธอเดินออกมา เธอก็เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั้นคือหยางหลิงซิน