เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 361
เมื่อลู่ชูเซี่ยเห็นท่าทีเย็นชาของหลินเช่อ หล่อนก็หัวเราะออกมาและพูดว่า “อย่าบอกนะคะว่ายังโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อยู่น่ะ ฉันต้องขอโทษคุณด้วยค่ะ หลินเช่อ ฉันหุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณเองก็คงจะรู้ว่าฉันถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเป็นคนคิดเร็วทำเร็วแบบนั้น ถามพี่จิ้งเจ๋อดูก็ได้ค่ะถ้าคุณไม่เชื่อ เขารู้ดี เมื่อก่อนเราเคยทะเลาะกันเรื่องนี้ แต่พอเถียงกันเสร็จเราก็ลืมมันไปจนหมด อย่าไปใส่ใจเลยนะคะ โอเคมั้ย”
หลินเช่อหันมองอีกฝ่าย ลู่ชูเซี่ยพยายามทำให้เธอดูเป็นคนใจแคบโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก
หลินเช่อตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็ลืมไปหมดแล้วเหมือนกัน”
ลู่ชูเซี่ยรีบฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็เยี่ยมเลยค่ะ”
หญิงสาวทำท่าชักชวนคนทั้งสองและพูดว่า “มาเถอะค่ะ ไปนั่งตรงโน้นกันดีกว่า”
แต่กู้จิ้งเจ๋อรีบปฏิเสธทันควัน “ไม่ละ ขอบใจ เธอไปก่อนได้เลย ฉันกับหลินเช่อจะขอไปทำอย่างอื่นก่อน”
เมื่อเห็นชายหนุ่มปฏิเสธตรงๆ แบบนั้น ลู่ชูเซี่ยก็หน้าตึง “มีเรื่องอะไรหรือคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “เรื่องของสามีภรรยาน่ะ เธออยากรู้รายละเอียดจริงๆ น่ะเหรอ”
“…” หลินเช่อหน้าแดงขึ้นมาทันควัน
นี่เขาพูดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
ลู่ชูเซี่ยยิ่งหน้าตึงหนักกว่าเก่า
เรื่องของสามีภรรยา…
ใช่สิ พวกเขาเป็นสามีภรรยากันนี่นะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขาทั้งนั้นแหละ
แต่เมื่อคิดถึงว่ากู้จิ้งเจ๋อจะไปทำเรื่องใกล้ชิดสนิทสนมกับนังผู้หญิงแพศยา หลินเช่อ…คนนี้ เมื่อเธอคิดถึงว่าอ้อมกอดของผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อจะสุดแสนสมบูรณ์แบบขนาดไหน แล้วนังหลินเช่อนี่ก็จะได้อยู่ในอ้อมกอดอันแสนเลิศเลอนั้นแล้ว…หัวใจลู่ชูเซี่ยก็ริษยาบาดลึกลงไปถึงใจกลาง
กู้จิ้งเจ๋อพูดพลางดึงแขนหลินเช่อ และไม่ใส่ใจสีหน้าบึ้งตึงของลู่ชูเซี่ยอีกต่อไปเมื่อพวกเขาเดินจากมา
หลินเช่อหันมองหน้าชายหนุ่ม รู้สึกได้ถึงการปกป้องที่เขามีต่อเธอ มันทำให้หัวใจของเธออบอุ่น
ในขณะเดียวกัน ลู่ชูเซี่ยก็มองตามทั้งสองไปด้วยแววตาชิงชัง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหัวเสีย
กู้จิ้งเจ๋อไม่ยอมปล่อยหลินเช่อไว้กับเธอ เธอจึงไม่มีโอกาสจะทำตามแผนการที่วางเอาไว้
ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวจึงจัดแจงเรียกตัวคนรับใช้ของตระกูลลู่มาทันที
ลู่ชูเซี่ยออกคำสั่งว่า “ไปหาทางใส่อะไรลงในเครื่องดื่มของนังหลินเช่อทีซิ”
ทันทีที่คนรับใช้ได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นมองท่าทีมาดร้ายของผู้เป็นเจ้านาย และเข้าใจได้ในทันทีว่าหล่อนหมายถึงอะไร
“ไม่…ไม่นะครับคุณชูเซี่ย นั่นคือคุณนายกู้เชียวนะครับ แล้วคุณชายรองของตระกูลกู้ก็ดูจะปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดีมากๆ ด้วย ถ้าหากว่ากู้จิ้งเจ๋อรู้เข้าละก็…” เขาจะมิต้องตายรึ
ลู่ชูเซี่ยตบโต๊ะปัง “ถ้าแกไม่ทำละก็ เชื่อมั้ยล่ะว่าฉันจะเฉดหัวแกออกไปจากประเทศซีนี่ตลอดกาลเลยละ”
แน่ละว่าเขาเชื่อหล่อน การทำให้ใครซักคนหายไปตัวไปจากประเทศซีนี้เป็นเรื่องขี้ผงมากสำหรับคนตระกูลลู่
“แต่คุณหนูครับ ตระกูลกู้ไม่ใช่ธรรมดานะครับ ถ้าเราทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในอันตรายแม้แต่นิดเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะต้องรู้ได้แน่”
ลู่ชูเซี่ยเองก็รู้เรื่องนี้ดี
หล่อนคิดแต่ว่าถ้าตอนนี้มียาพิษอยู่ในมือละก็ หล่อนก็อยากจะให้นังหลินเช่อได้ดื่มโดยไม่รีรอเลยเชียวละ ถ้าเป็นแบบนั้นนังนั่นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่มีทางเลยที่จะเอายาพิษเข้าไปเฉียดใกล้หลินเช่อ เพราะคนของกู้จิ้งเจ๋อจะต้องรู้ตัวแน่นอน
ลู่ชูเซี่ยตวัดสายตากลับมายังคนรับใช้ของหล่อน “ใครบอกว่าให้แกไปวางยาพิษมันล่ะ อยู่ที่นี่จะไปหายาพิษได้จากไหนกัน ฉันแค่อยากให้นังนั่นต้องเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ใช่ออกมาวุ่นวายกับกู้จิ้งเจ๋อข้างนอกนี่เท่านั้นเอง แกพอจะหา…ยาอะไรที่ทำให้ปวดท้องได้บ้างมั้ย”
เมื่อคนรับใช้ได้ยินดังนั้น ก็คิดว่านี่น่าจะเป็นแผนที่เข้าท่ากว่า ถึงจะไม่มียาอะไร แต่เขาก็ยังพอจะหาทางใส่อะไรซักอย่างเพื่อให้คนกินปวดท้องขึ้นมาได้
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังกลัวว่ากู้จิ้งเจ๋อจะรู้เข้า เขาหวั่นใจเหลือเกินว่าตัวเองจะต้องถูกจับโยนลงทะเล
แต่ถึงยังไงเขาก็คงเลี่ยงไม่ได้นั่นแหละ
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้แต่เพียงรับคำเจ้านาย
หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ที่ข้างเรือ กำลังก้มลงมองน้ำทะเล
เรือยอร์ชแล่นฝ่าคลื่นที่ม้วนตัวเป็นเกลียว หลินเช่อทอดสายตาไปยังเส้นขอบฟ้าไกลลิบลับแล้วก็ระบายลมหายใจยาว ได้สูดลมทะเลแบบนี้ให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆ
เธอหันมองชายหนุ่ม “คุณปฏิเสธคุณหนูลู่ไปแบบนั้นโดยไม่กลัวว่าเขาจะโกรธเลยซักนิด ตอนนี้พวกคุณสองคนเป็นญาติกันแล้วนะคะ คุณน่าจะระวังคำพูดหน่อย”
อันที่จริงเธอเองนั่นแหละที่ได้ประโยชน์จากการกระทำของเขา การได้เห็นท่าทีไม่พอใจของลู่ชูเซี่ยทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อยเลย แต่เธอก็เกรงว่าการที่เขาทำให้ลู่ชูเซี่ยไม่พอใจ อาจจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลู่และตระกูลกู้ได้
กู้จิ้งเจ๋อหันมองเธอ “ต่อให้เขาโกรธฉันก็ไม่สำคัญหรอก ตระกูลกู้ไม่ได้หวังพึ่งความสัมพันธ์กับผู้หญิงแค่คนเดียว”
นั่นก็จริง…”
เมื่อเห็นเขาพูดโดยไม่แยแส หัวใจหลินเช่อก็ยิ่งพอใจหนักขึ้นไปอีก
กู้จิ้งเจ๋อคนนี้ทั้งเด็ดขาดและเย่อหยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีทั้งความเรียบง่ายสบายๆ อยู่ในตัวด้วย
ราวกับว่าแม้ท่าทีหงุดหงิดเจ้าอารมณ์ใดๆ ก็ไม่สามารถมาลดทอนความสง่างามและสุขุมเยือกเย็นของเขาลงไปได้เลย ช่างน่าทึ่งอะไรอย่างนี้
บรรยากาศของงานเลี้ยงนั้นเต็มไปด้วยสีสันมีชีวิตชีวาอย่างมาก เจ้าของเรือยอร์ชทุ่มเทไอเดียมากมายในการจัดเตรียมงานปาร์ตี้น้ำชาครั้งนี้ แขกที่งานสามารถเล่นหมากรุก และชมการแสดงที่ด้านในได้ ดูเหมือนว่าเจ้าของงานจะเชิญทั้งนักร้องและนักแสดงชื่อดังระดับอินเตอร์ มาทำการแสดงในงานนี้อย่างเต็มเพียบเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเมื่อตกกลางคืน ก็จะกลายเป็นงานคอนเสิร์ตย่อมๆ ส่วนคนที่ไม่อยากฟังเพลงก็สามารถไปเต้นรำที่บาร์ได้ เรียกว่ามีโปรแกรมการแสดงที่น่าสนใจเตรียมไว้แบบอัดแน่นจัดเต็ม เครื่องแอลกอฮอล์ถูกตุนเอาไว้เต็มอัตราเพื่อให้ทุกคนสามารถดื่มและปาร์ตี้กันได้ตลอดเวลา วันต่อมา มีการประมูลของโบราณและประชุมวางแผนเครือข่ายการทำงาน ผู้คนจากทุกอาชีพสามารถมองหาสิ่งที่พวกเขาสนใจจะร่วมสนุกได้ที่นี่โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ มากมาย
เมื่อหลินเช่อมองดูโปรแกรมการแสดงที่บอกว่ามีการแสดงโชว์ระบำเปลื้องผ้า เธอก็ทำหน้าช็อคสนิทและพูดขึ้นว่า “โอ้ พระเจ้า พวกเขามีโชว์อย่างว่าด้วยค่ะ มันจะไม่ประเจิดประเจ้อเกินไปหรือคะ”
กู้จิ้งเจ๋อหันมองหน้าคนถาม “อย่าบอกนะว่าเธออยากดูน่ะ”
“แล้ว…ได้มั้ยล่ะคะ”
ชายหนุ่มจึงเคาะหัวโป๊กเข้าให้ “นี่เธอคิดอะไรอยู่ ไอ้การแสดงแบบนี้มันไม่เหมือนการแสดงลามกอย่างที่เธอคิดหรอกนะ ในหัวเธอน่ะมีแต่เรื่องงี่เง่าทั้งนั้น เธออยากเห็นคนอื่นแก้ผ้าล่ะสิ…หรือไม่งั้นเราก็กลับไปที่ห้องเราแล้วก็ดูเธอแก้ผ้าแทนก็ได้นะ”
“อ๊ะ แล้วแบบนั้นมันจะเป็นระบำเปลืองผ้าตรงไหน…”
“คนที่ในหัวมีแต่ขี้เลื่อยอย่างเธอน่ะก็คงคิดแต่เรื่องที่เปลื้องผ้านั่นแหละ แต่คนอื่นเขาคิดถึงการเต้นรำกัน มันเป็นการเต้นรำแบบเร่าร้อนเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องโป๊ๆ เหมือนที่เธอคิด!”
“ก็ได้ค่ะ…” ก็คงจะเป็นอย่างงั้นละนะ งานนี้เธอเข้าใจผิดแฮะ
กู้จิ้งเจ๋อหันมองหลินเช่อ “หรือถ้าเธออยากดูจริงๆ ละก็…เรากลับไปที่ห้องแล้วฉันจะค่อยๆ เปลื้องผ้าให้เธอดูเองก็ได้นะ…”
“คนบ้า ฉันว่าฉันจะขอไปดูการแสดงดีกว่าค่ะ”
แล้วตอนนั้นเอง คนรับใช้ก็เดินเข้ามาหากู้จิ้งเจ๋อพลางบอกว่ามิสเตอร์สตีเฟ่นขอเชิญเขาไปพบ
สตีเฟ่นคือเจ้าของเรือยอร์ช เขาเชิญบุคคลสำคัญสองสามคนมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกันโดยไม่ได้อนุญาตให้คนอื่นเข้าร่วมด้วย กู้จิ้งเจ๋อเป็นบุคคลที่อยู่ในรายชื่อผู้ที่จะได้เข้าพบ
กู้จิ้งเจ๋อพาหลินเช่อตามไปด้วย หญิงสาวจึงถามขึ้นว่า “ฉันเข้าไปนั่งฟังด้วยได้ใช่มั้ยคะ จะไม่เป็นปัญหาใช่มั้ย”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “เราจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเธอก็คงฟังไม่ออกซักอย่างนั่นแหละ”
“…” งั้นก็ได้ เธอคงคิดมากไปเองนั่นแหละ
ชายหนุ่มหัวเราะ มองหน้าเธอ เขาพาเธอขึ้นไปยังดาดฟ้าเรือ
บริเวณดาดฟ้าได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งอยู่ด้านหน้า และมีสระขนาดเล็กที่มีฟองผุดเหมือนน้ำพุร้อนอยู่ทางด้านหลัง สาวสวยแต่งตัวดีและสุภาพบุรุษสองสามคนนั่งอยู่ด้านใน ที่ทำให้หลินเช่อชักใจคอไม่ดีก็คือ มีสมาชิกตระกูลลู่ที่นั่งอยู่ที่นั่นด้วย
ลู่ชูเซี่ยตามพี่ชายของเธอมานั่งอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อเดินเข้ามา ลู่ชูเซี่ยก็ฉีกยิ้ม ลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยว่า “หลินเช่อ พี่จิ้งเจ๋อ เข้ามานั่งสิคะ”
กู้จิ้งเจ๋อยกมือขึ้นวางบนไหล่ของหลินเช่อและพาเดินอ้อมไปเสียอีกทาง ก่อนจะหันไปบอกกับหล่อนเรียบๆ ว่า “ไม่เป็นไร เราจะไปนั่งตรงนั้นกัน”