เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 362
ลู่ชูเซี่ยดูเหมือนจะชินเสียแล้วกับการถูกปฏิเสธ หล่อนจึงเพียงแต่โบกมือ “ตามใจเถอะค่ะ อยากนั่งตรงไหนก็ตามสบายนะคะ”
ที่นั่นมีคนนั่งอยู่ไม่มากนัก สตีเฟ่นหันมองหลินเช่อและเอ่ยทักขึ้นก่อน “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับคุณนายกู้เลยนะครับ ไม่คิดเลยว่าคุณจะสวยขนาดนี้ ผมหวังว่าต่อไปท่านประธานกู้จะพาภรรยาคนสวยของเขาออกงานให้บ่อยกว่านี้”
หลินเช่อหน้าแดงและตอบว่า “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ คุณใจดีจัง”
“ไม่เลยครับ ปกติแล้วการจะเชิญท่านประธานกู้มาร่วมงานแบบนี้ได้เป็นเรื่องยากมาก ผมหวังว่าคุณนายกู้จะมาร่วมสังสรรค์กับเราบ่อยๆ นะครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ท่านประธานกู้จะได้ออกงานบ่อยๆ”
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ผมเป็นคนน่าเบื่อออกจะตายไปครับ ให้ผมมางานก็ไม่มีอะไรให้ใครสนใจหรอก”
“ไม่เลยครับ เวลาที่ท่านประธานกู้มาร่วมงานทีไร จะมีแต่สาวๆ สวยๆ คอยจ้องเราไม่วางตากันทั้งนั้น แค่ท่านประธานกู้นั่งเฉยๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรซักคำเดียว”
กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ “มิสเตอร์สตีเฟ่นก็พูดเกินไปแล้วละ”
สตีเฟ่นเริ่มพูดภาษาอังกฤษ ท่าทางจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่จริงจังไม่น้อยทีเดียว หลินเช่อฟังไม่เข้าใจ จึงได้แต่จ้องมองด้วยสายตาอันว่างเปล่า
แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่างใด เธอนั่งมองพวกเขาและรู้สึกว่าบทสนทนาภาษาอังกฤษตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังดูละครฝรั่ง มันลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมาก
สามีของเธอดูนุ่มนวลอ่อนโยนอย่างมากเมื่อเขาเปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษ ริมฝีปากบางคู่นั้นพรั่งพรูถ้อยคำต่างภาษาออกมาอย่างคล่องปาก ไม่ได้ดูฝืดฝืนหรือแปลกประหลาดแม้แต่น้อย
หลินเช่อนั่งมองเขาไม่วางตา ในขณะที่ลู่ชูเซี่ยที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เอาแต่จ้องมองเธอ
หล่อนมองหลินเช่อที่นั่งอยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋ออย่างเชื่อฟัง หลินเช่อเฝ้ามองชายหนุ่มด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ลู่ชูเซี่ยอดนึกเหยียดหยันอยู่เงียบๆ ไม่ได้ ช่างเป็นแม่สาวบ้านนอกคอกนาเสียจริง ถึงได้ชื่นชมกับเรื่องธรรมดาๆ เพียงแค่นี้
นี่กู้จิ้งเจ๋อไปชอบผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องนึกรำคาญยัยผู้หญิงไม่ได้ความคนนี้แน่!
ครู่หนึ่งต่อมา เครื่องดื่มก็ถูกยกเข้ามา ปกติแล้วหลินเช่อจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์เวลาอยู่ข้างนอก เพราะไม่อย่างงั้นเธอจะทำให้คนกลัวเวลาที่เธอเมา ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวจึงละเลียดจิบน้ำอัดลมแทน จนกระทั่งเธอได้ยินลู่ชูเซี่ยที่นั่งอยู่ตรงข้ามถามขึ้น “มานั่งฟังพวกผู้ชายคุยเรื่องธุรกิจกันแบบนี้เธอไม่เบื่อบ้างเหรอจ๊ะ มันน่าเบื่อออกจะตายไป”
หลินเช่อตอบ “ไม่หรอกค่ะ ได้เปิดหูเปิดตาดี” เธอหันไปบอกตรงๆ
ลู่ชูเซี่ยแอบทำหน้าเหยียดหยาม ไม่นึกเลยว่ายัยนี่จะยืนยันว่าจะนั่งอยู่ต่อโดยไม่สนใจอะไรเลยแบบนี้ “จริงเหรอจ๊ะ มีอะไรให้เปิดหูเปิดตาด้วยเหรอ พวกเขาก็แค่พูดถึงสถานการณ์ในต่างประเทศแล้วก็เรื่องพรมแดนทางน้ำเท่านั้นเอง”
หลินเช่อยิ้ม เธอไม่ใส่ใจที่จะอธิบายว่าตัวเองฟังสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันไม่ออกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกว่าเธอมองเห็นเสน่ห์ของกู้จิ้งเจ๋อ ยามที่เธอเฝ้ามองเขาเวลาพูดคุยและทำงานแบบนี้ต่างหาก
เพราะฉะนั้น นี่จึงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย
เธอยังรู้ด้วยว่าลู่ชูเซี่ยพยายามจะหาทางดูถูกเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง
หลินเช่อรู้ดีว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไร และก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตราบใดที่มีใครซักคนในครอบครัวเข้าใจก็พอ ฉันจะต้องรู้เยอะไปทำไมกันคะ ฉันมีกู้จิ้งเจ๋อคอยหาเงินแล้วก็ช่วยเหลือฉันในครอบครัวอยู่แล้ว ถ้าในบ้านมีคนเก่งเหมือนกันสองคน จะอยู่กันได้ยังไงล่ะคะ” หลินเช่อว่า
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันไปขยี้หัวเธอ “ถูกต้อง เธอน่ะไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง”
“ค่ะ ค่ะ ตราบใดที่คุณไม่รำคาญฉันก็พอ จริงมั้ยล่ะคะ”
“เธอมีอะไรให้รำคาญกันล่ะ เรื่องงานก็น่าเบื่อพออยู่แล้ว ถ้าฉันต้องกลับไปคุยเรื่องงานกับเธอที่บ้านอีก นั่นคงยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่ ฉันชอบเวลาที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้นี่แหละ”
เมื่อหลินเช่อได้ยิน หัวใจเธอก็ยิ่งอบอุ่นมากขึ้นไปอีก
แม้จะรู้ดีว่าเขาพยายามที่จะช่วยเธอรักษาหน้าด้วยการพูดแบบนี้ต่อหน้าลู่ชูเซี่ย แต่มันก็ยังฟังแล้วอบอุ่นหัวใจอยู่ดีนั่นแหละ
เขายืนเคียงข้างเธอ และพูดปกป้องเธอแบบนี้ มันทำให้เธอมีความสุขมากๆ
เมื่อลู่ชูเซี่ยได้ยินก็ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ ตอนนี้หล่อนโกรธมากเสียจนอยากจะทำตาเขียวใส่คนทั้งคู่
แต่เมื่อได้เห็นเครื่องดื่มตรงหน้าหลินเช่อ หญิงสาวก็คิดว่าหล่อนจะต้องอดทนเอาไว้ก่อน
เดี๋ยวนังก้างขวางคอนี่ก็จะต้องหายหน้าไปซักพักแล้ว ตอนนี้ก็แค่ทนอีกนิดเดียวเท่านั้น
ผู้คนในที่นั้นยังคงดื่มและกินไปพลางสนทนาไปพลางโดยไม่หยุด แล้วอยู่ๆ หลินเช่อก็รู้สึกว่าท้องไส้ไม่ปกติขึ้นมา
มันดูเหมือนอาการปวดท้องตอนมีประจำเดือนที่เธอมักจะเป็นตามปกติ แต่การที่มาปวดตอนนี้มันให้ความรู้สึกแปลกๆ
แต่เมื่อหันมองกู้จิ้งเจ๋อกับคนอื่นๆ แล้ว หญิงสาวก็อดกลั้นความปวดเอาไว้โดยไม่ส่งเสียงให้ใครรู้
ได้แต่หวังว่ามันคงจะเป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น และจะค่อยๆ หายไป
แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน อาการปวดก็ดูเหมือนจะยิ่งหนักหน่วงและไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย แต่กลับปวดหนักกว่าเดิมเสียอีก
ความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเป็นอาการที่ตามหลังมา ใบหน้าของหลินเช่อเริ่มซีดเหมือนกระดาษ
แต่เมื่อเหลือบมองบรรดาผู้คนตรงหน้าแล้ว เธอก็ยังอดทนต่อไป ด้วยไม่อยากจะขัดจังหวะกู้จิ้งเจ๋อ
แต่ชายหนุ่มสังเกตเห็นได้ว่าบางอย่างไม่ปกติ
ยัยผู้หญิงตัวเล็กข้างๆ เขาดูเหมือนจะเงียบลงจนผิดสังเกต และเขาเริ่มรู้สึกได้ว่ามันแปลกไป นี่ไม่ใช่นิสัยของหลินเช่อเลย
ชายหนุ่มหันมามอง หลินเช่อกำลังมึนไม่ได้สติ เธอนั่งเงียบกริบ ศีรษะตกห้อย ท่าทางเหมือนไม่สบาย
กู้จิ้งเจ๋อรีบเขย่าตัวเธอ “เป็นอะไรหรือเปล่า”
หลินเช่อค่อยๆ เงยหน้าขึ้น
เมื่อเขาได้เห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ที่ด้านข้าง ลู่ชูเซี่ยเองก็สังเกตเห็นเหมือนกันในขณะที่หลินเช่อไม่สบาย
แต่หล่อนคาดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ เพียงแต่ยังสงสัยว่าทำไมหลินเช่อจึงไม่ลุกออกไปเสียที ทำไมถึงยังนั่งปั้นหน้า อดทนกับอาการปวดอยู่ได้
จนกระทั่งกู้จิ้งเจ๋อเห็นเข้า
ลู่ชูเซี่ยเห็นสีหน้าของชายหนุ่มแล้วก็อดนึกเยาะหยันไม่ได้
เขารีบคว้ามือหลินเช่อทันควัน
ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าฝ่ามือนั้นชื้นด้วยเหงื่อเย็นๆ
เขารีบถาม “หลินเช่อ เป็นอะไรไป”
หลินเช่อเงยหน้าและส่ายหัว เธออยากจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ต้องพยายามฝืนใจอย่างมากที่จะพูดออกมา “ฉันปวดท้องนิดหน่อยน่ะค่ะ พวกคุณคุยกันต่อเถอะนะคะ เดี๋ยวฉันกลับห้องเอง”
สายตาของชายหนุ่มเคร่งขรึมขึ้นทันที สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
เขาจับมือเธอไว้ “ฉันจะกลับไปกับเธอด้วย”
หลินเช่อไม่อยากทำให้เขาต้องเสียเวลา เพราะแบบนี้แหละเธอถึงบอกว่าอยากจะกลับห้องเอง “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงจะเผลอกินอะไรไม่ดีเข้าไปน่ะ เดี๋ยวฉันกลับเองได้ค่ะ”
แต่กู้จิ้งเจ๋อจับมือเธอไว้แน่น ไม่สนใจคำพูดของหลินเช่อ มือใหญ่ฉุดเธอให้ลุกขึ้น
ลู่ชูเซี่ยชะงักทันควัน
ทางด้านสตีเฟ่นเองก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ท่านประธานกู้ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
เขาหันไปตอบอีกฝ่าย “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ภรรยาของผมไม่ค่อยสบาย ผมจะพาเธอกลับห้องก่อน”
สตีเฟ่นทำหน้างุนงง แต่ก็หันไปมองดูหลินเช่อที่ท่าทางไม่สู้ดี
ลู่ชูเซี่ยลุกขึ้นยืนทันที เธอมองกู้จิ้งเจ๋อและบอกว่า “นานๆ คุณสตีเฟ่นกับพี่จิ้งเจ๋อจะได้พบกันซักที ให้ฉันไปส่งหลินเช่อกลับห้องให้ดีกว่าค่ะ พี่อยู่คุยต่อเถอะ”
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็เงยหน้ามองชายหนุ่ม
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจนักที่จะต้องปล่อยเขาให้อยู่กับลู่ชูเซี่ยต่อ แต่เธอก็ไม่อยากขัดจังหวะการทำงานของเขาเลยจริงๆ