เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 366
กู้จิ้งเจ๋ออยากรู้นักว่าเธอไปหาซื้อไอ้เสื้อแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
เสื้อผ้าของเธอค่อยๆ หลุดออกจากตัวทีละน้อย ทีละน้อย
โดยที่เธอไม่ต้องพูดอะไร ร่างกายเขาก็ขยายใหญ่จนไม่อาจควบคุมได้อีก
“เธอ…เธอ…” กู้จิ้งเจ๋อทำได้แค่มองตอบ เสียงของเขาแหบพร่า
หลินเช่อมองหน้าเขาแล้วกระตุ้นเร้าริมฝีปาก “ฉันสวยมั้ยคะ”
สวยมั้ยงั้นเหรอ
น้ำเสียงยวนใจนั่นแทบจะเกาะกุมวิญญาณเขาเอาไว้เลยทีเดียว
เธอสวย แน่ละ เธอสวยมาก
สวยมากเสียจน…
เขาอยากจะเอื้อมมือออกไปกระชากเสื้อผ้าที่เหลือนั่นออกซะให้หมด
หลินเช่อมองดูเขา จนกระทั่งกู้จิ้งเจ๋อทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาอยากจะขยับมือ แต่มันก็ถูกเธอมัดไว้จนแน่น
ตอนนี้เขาใกล้คลั่งเต็มที
จังหวะนี้เอง เธอก็ขยับตัวลงมา มองหน้าเขา “คุณอยากจะแกะมันออกมั้ยคะ”
ยัยนี่…
กู้จิ้งเจ๋อสาบานเลยว่าถ้าเขาหลุดไปได้ เธอจะต้องตายแน่นอน
เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว ไม่มีใครที่จะรอดไปได้ถ้าหลินเช่อใช้วิธีแบบนี้
แต่เมื่อทั้งสองร่างกำลังจะเคลื่อนเข้าหากัน ชายหนุ่มก็ยังอดกังวลไม่ได้
หลินเช่อต้องจับมือเขาไว้แน่นและกระซิบที่ข้างหู “ไม่เป็นไรนะคะ ไม่เป็นไร ฉันรับมือได้ค่ะ…ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะคะ”
ในที่สุดกู้จิ้งเจ๋อก็ทำลายกำแพงในใจของตัวเองลงได้ เขาค่อยๆ ผลักตัวเองเข้าไปอย่างช้าๆ
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ข้างนอกก็มืดสนิทแล้ว
เรือยอร์ชนี้ลอยตัวนิ่งมากจนไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใดๆ
ข้างนอกหน้าต่างนั้นคือทะเล หน้าต่างเรือบานเล็กมาก แต่ก็ยังสามารถมองเห็นทะเลสีทะมึนที่ส่องสะท้อนแสงไฟเบื้องบนได้ มันดูเหมือนทะเลที่เต็มไปด้วยดวงดาว สวยงามละลานตา
กู้จิ้งเจ๋อหันมองผู้หญิงในอ้อมแขน ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำให้เธอเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอดใจเต้นระริกไม่ได้
เมื่อหลินเช่อตื่นขึ้น กู้จิ้งเจ๋อก็ลุกออกไปแล้ว
หญิงสาวขยี้ตาแล้วสวมเสื้อผ้า เมื่อเดินออกมาด้านนอก คนรับใช้ของตระกูลกู้ก็พูดขึ้นว่า “คุณผู้หญิงตื่นแล้วหรือคะ นายท่านบอกเราให้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้คุณผู้หญิงค่ะ ได้โปรดรับประทานซักหน่อยนะคะ”
หลินเช่อถาม “โอ้ แล้วกู้จิ้งเจ๋อไปไหนซะล่ะจ๊ะ”
“นายท่านออกไปข้างนอกค่ะ”
“อืม งั้นฉันจะไปเดินเล่นซะหน่อย”
หลินเช่อไม่เคยเห็นทะเลตอนกลางคืน เธอจึงอยากจะออกไปดู
เมื่อเดินออกมาข้างนอก ผู้คนค่อนข้างบางตา เมื่อพวกเขาเห็นหลินเช่อจึงพากันหันมอง
หลายคนไปร่วมชมคอนเสิร์ตหรือไม่ก็กิจกรรมกลางคืนอื่นๆ ลมทะเลบนดาดฟ้าค่อนข้างชื้นและเย็นฉ่ำ
หลินเช่อกำลังยืนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งได้ยินเสียงลู่ชูเซี่ยเดินเข้ามาหา
“เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ หลินเช่อ ทำไมถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ”
หลินเช่อตอบ “คุณหนูลู่ ฉันแค่ออกมาเดินเล่นน่ะค่ะ มีอะไรหรือคะ”
“โอ๊ย คืนนี้จะมีงานเต้นรำ แล้วก็จะมีการคัดเลือกแดนซิ่งควีนด้วย นี่พี่จิ้งเจ๋อไม่ได้จะพาเธอไปเหรอจ๊ะ”
หลินเช่อไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่างุนงงสงสัย ลู่ชูเซี่ยจึงทำหน้าเยาะๆ พลางพูดว่า “ภายในงาน หลังจากที่ทุกคนออกไปเต้นรำกัน จะมีคนหนึ่งถูกเลือกขึ้นมาเป็นแดนซิ่งควีน ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสที่จะถูกเลือก พี่จิ้งเจ๋อก็ไปที่งานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขาถึงไม่พาเธอไปด้วยล่ะเนี่ย”
“โอ้” หลินเช่อว่า “ฉันเพิ่งตื่นน่ะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่”
ลู่ชูเซี่ยตอบ “อ้อ อย่างงั้นเองเหรอจ๊ะ งั้นฉันคงเข้าใจผิดไปเอง ฉันคิดว่าพี่จิ้งเจ๋อไม่อยากจะพาเธอไปด้วยเพราะจะทำให้เขาดูไม่ดีซะอีก”
สีหน้าของหลินเช่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมองดูลู่ชูเซี่ย “ขอบคุณที่เตือนนะคะ คุณหนูลู่ แต่ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาพยายามทำลายความสัมพันธ์ของฉันหรอกค่ะ เขาไม่พาฉันไปด้วยก็เพราะว่าฉันหลับอยู่ กู้จิ้งเจ๋อไม่ใช่คนสนใจภาพลักษณ์ตัวเองแบบนั้นหรอกค่ะ”
ลู่ชูเซี่ยทำเสียงฟึดฟัด “อย่าน้อยใจไปสิจ๊ะ ฉันก็แค่มาเตือนเท่านั้นเอง ฉันจะไปทำลายอะไรเธอได้ เอาเถอะ ฉันกลับเข้าไปที่งานก่อนละ อยู่ๆ ก็หายออกมาแบบนี้ พวกเขาคงจะต้องรอกันแน่ๆ เลย”
ตอนนี้เองที่หลินเช่อเพิ่งสังเกตเห็นว่าลู่ชูเซี่ยสวมชุดราตรีสีเงินเหลือบดำ เหมือนจะเป็นชุดเต้นรำแนวเรโทรซึ่งก็ดูเหมาะกับงานดี
หลินเช่อเต้นรำไม่เป็น เธอเคยเรียนมาบ้างนิดหน่อยเพราะต้องแสดงละคร แต่ก็แค่ผิวเผินเท่านั้น
เมื่อลองคิดดูแล้ว หลินเช่อก็ตัดสินใจที่จะไปร่วมงานเต้นรำ เธออยากเห็นว่ามันเป็นยังไง ในเมื่อฟังดูเหมือนว่าผู้คนจะให้ความสนใจกันนัก
ไม่ช้า เธอก็มาถึงห้องบอลรูมกลาง
ฟลอร์เต้นรำแนวเรโทรถูกจำลองขึ้น ผู้คนที่อยู่ข้างในดูเหมือนจะเป็นชาวอังกฤษชั้นสูงกันทั้งสิ้น พวกเขากำลังเต้นรำกันตามแบบแผน ดูงามสง่าอย่างยิ่ง
หลินเช่อมองไม่เห็นทั้งกู้จิ้งเจ๋อและลู่ชูเซี่ย แต่เธอก็ได้ยินคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดถึง “ฉันเพิ่งเห็นลู่ชูเซี่ยเดินผ่านไปเมื่อกี้”
“แล้วใครเป็นคู่เต้นรำของหล่อนล่ะ ทำไมฉันยังไม่เห็นอีก”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ฉันเห็นหล่อนเดินตรงดิ่งเข้ามาในงานเลยทีเดียว บางทีอาจจะไปตามหากู้จิ้งเจ๋อก็ได้”
“กู้จิ้งเจ๋อเต้นรำเป็นด้วยเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่เคยเห็นเขาเต้นรำเลยซักครั้ง”
“ใช่ กู้จิ้งเจ๋อมักจะทำตัวโลว์โปรไฟล์เสมอ ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาเต้นรำเหมือนกัน”
“แต่ลู่ชูเซี่ยน่ะได้เป็นแดนซิ่งควีนถึงสามปีติดต่อกันเลยนะ แล้วกู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่เคยมาร่วมงานเต้นรำแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เขามาอยู่ที่นี่แล้ว แล้วสองคนนั้นก็สนิทสนมคุ้นเคยกันมากด้วย ตอนที่ฉันเห็นกู้จิ้งเจ๋อเดินเข้ามาในงาน เขาก็ไม่มีคู่ควงมาด้วยเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะมาจับคู่กับหล่อนก็ได้นะ”
“ลู่ชูเซี่ยเต้นรำเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ แดนซิ่งควีนสามปีซ้อนเนี่ยนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ เธอยังไม่เคยเห็นหล่อนเต้นรำ เรียกว่าระดับมืออาชีพเลยเชียวละ ลูกสาวเศรษฐีนี่นา หล่อนต้องได้เรียนทุกอย่างตั้งแต่ยังเด็กอยู่แล้ว ตอนนี้หล่อนก็เลยเป็นนักเต้นรำตัวยงแถมยังสวยมากอีกต่างหาก มีคนเก่งๆ มากมายที่พากันชื่นชมหล่อน ไม่อย่างงั้นหล่อนไม่ได้เป็นสาวสังคมอันดับหนึ่งของประเทศซีหรอกจ้า”
“ถ้าหล่อนได้กู้จิ้งเจ๋อมาช่วยในงานเต้นรำครั้งนี้ละก็ คืนนี้ตำแหน่งแดนซิ่งคิงและควีนก็คงไม่แคล้วเป็นของพวกเขา”
หลินเช่อได้ยินบทสนทนานี้แล้วก็อดนิ่วหน้าไม่ได้ เธอมองเข้าไปข้างใน พยายามมองหากู้จิ้งเจ๋อแต่ก็ไม่เห็น
จนกระทั่งมีใครบางคนพูดขึ้นว่า ลู่ชูเซี่ยกำลังจะออกไปเต้นรำแล้ว
หลินเช่อรีบหันมองทันที
ต้องขอบคุณที่คู่เต้นรำคนแรกของหล่อนเป็นชายผมทองตาสีฟ้า เขาผอม สูง และดูหล่อเหลาไม่น้อย
แต่คู่เขาก็ไม่ใช่กู้จิ้งเจ๋อ
หลินเช่อมองดูลู่ชูเซี่ยที่เริ่มเต้น แต่ละสเต็ปของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเร้าอารมณ์ ทำให้หล่อนมองดูเหมือนเทพธิดาแสนสวยที่กำลังหมุนละลิ่วอยู่บนฟลอร์ ผู้คนรอบข้างต่างพากันมองดูหล่อนเป็นตาเดียว บางคนถึงขนาดเผลอขยับตัวเพื่อเปิดพื้นที่ว่างให้หล่อนด้วย
หลินเช่ออดคิดไม่ได้ว่า บรรดาลูกสาวเศรษฐีเหล่านี้ต่างก็มีบุคลิกสวยสง่าด้วยกันทั้งนั้น น่าเสียดายที่เธอไม่เคยสนใจการเต้นรำ จึงได้เพียงมองด้วยความประหลาดใจและสงสัยว่าทำไมพวกเขาต้องหมุนเข้าหมุนออกกันอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทักษะ แต่หลินเช่อก็ดูแล้วไม่เข้าใจอยู่นั่นเอง
เธอสวมเพียงกระโปรงธรรมดาๆ เมื่อเดินเข้ามาในงาน เธอรู้สึกผิดที่ผิดทางนิดหน่อย แล้วก็คิดว่าจะกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดที่ดีกว่านี้
ในขณะเดียวกัน ข้างในงาน
กู้จิ้งเจ๋ออยู่ในงาน และกำลังยืนคุยอยู่กับสตีเฟ่น