เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 413 ผู้หญิงที่มีความสุขจนถูกคนอิจฉา
กู้จิ้งเจ๋อดีดนิ้ว แชมเปญถูกเปิดออก เทลงแก้วทั้งสองใบ
เมื่อของเหลวสีเหลืองถูกเทลงไปจนเกิดฟองอากาศ เสียงไวโอลินก็บรรเลงขึ้น
หลินเช่อรู้สึกราวกับฉากในหนัง เขาจัดหรูหราเกินไปแล้วนะ
มองเห็นเหล่านักดนตรีที่บรรเลงไวโอลินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หลินเช่อปิดปากบอก “หล่อจังเลยค่ะ หล่อมาก”
ใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อเข้มขึ้น ส่งสายตาให้พวกเขา นักดนตรีก็ไม่ได้เดินเข้ามาอีก ค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกไป สีไวโอลินอยู่ด้านนอก
หลินเช่อชะงัก บอก “ทำไมถึงไม่เข้ามาล้อมล่ะ ในหนังเขาแสดงแบบนั้นนะ”
กู้จิ้งเจ๋อขี้เกียจสนใจเธอ ยกแก้วขึ้นมา บอกกับเธอ “มายินดีกับเธอก่อนดีกว่า”
“ขอบคุณค่ะ”
หลินเช่อดีใจอยู่ลึกๆ และคร้านจะคิดอะไรมาก ยกแก้วขึ้นมา ชนแก้วกับเขา
แม้ว่าแชมเปญจะหวาน แต่ก็ยังมีแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังแรงไม่ธรรมดาเลย
หลินเช่อดื่มแล้ว ไม่นานก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมึนหัวบ้างแล้ว
แก้มเธอแดงขึ้นมา ตอนนั้นเองกู้จิ้งเจ๋อคว้ามือเธอเอาไว้
“ไปไหนคะ” หลินเช่อถามด้วยความตกใจ
กู้จิ้งเจ๋อจูงมือเธอ เดินไปยังริมหน้าต่าง
ห้องอาหารทรงกลม มีหน้าต่างบ้านใหญ่ล้อมรอบ บรรยากาศโดยรอบนั้นเข้ามาสู่สายตา
กู้จิ้งเจ๋อประคองไหล่เธอ ค่อยๆ เดินมาอยู่ด้านหลังเธอ โอบกอดเธอเอาไว้
หลินเช่อบอก “ว้าว บรรยากาศที่นี่ไม่เลวเลย”
กู้จิ้งเจ๋อไม่พูดอะไร จ้องมองดวงตาของเธอ
เนิ่นนาน เขาพลันเอ่ยขึ้น “เธอมองฝั่งนั้นสิ”
หลินเช่อถาม “ฝั่งไหนคะ”
จากนั้น ไม่รอให้เธอถามมาก หน้าจอใหญ่ก็ปรากฏภาพของหลินเช่อขึ้น
เป็นฉากในหนังที่หลินเช่อพึ่งถ่ายไป ล้วนเป็นฉากของเธอทั้งนั้น ร้องไห้ หัวเราะ เท่ สวย
หลินเช่อนิ่ง มองกู้จิ้งเจ๋อท่าทางตกใจ เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเช่อรู้สึกได้รับความสำคัญขนาดนี้
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา
หันกลับมามองกู้จิ้งเจ๋อ “คุณนี่จริงๆ เลย…กู้จิ้งเจ๋อ คุณทำแบบนี้ทำไม…”
ดวงตาคมเข้มของเขาจ้องมองเธอ “ฉลองให้เธอ”
หลินเช่อไม่รู้ว่าต้องเอ่ยอะไรต่อบ้าง ทำได้เพียงเงยหน้า มองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ
เขย่งปลายเท้าขึ้น จ้องมองเขา “ขอบคุณนะคะ”
จากนั้น แนบริมฝีปากลงไปที่เขา
กู้จิ้งเจ๋อนิ่งงัน วินาทีต่อมา จึงสลับตำแหน่ง ผลักเธอแนบชิดกับผนังกระจก
“ถ้าขอบคุณ แค่นี้ มันไม่พอหรอก…”
ใบหน้าของหลินเช่อแดงก่ำ “คุณ…คุณต้องการอะไรอีกคะ”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มร้าย “เธอคิดว่าไงล่ะ”
——
คนด้านล่างเมื่อมองเห็นจอขนาดใหญ่กำลังฉายภาพของหลินเช่ออยู่นั้น ก็พากันตกใจ
นี่เป็นจอขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองบี บนตึกสามสิบชั้นนั้นเป็นจุดที่เห็นได้ชัดที่สุด ฉายจอขนาดใหญ่แบบนั้น แม้จะอยู่ไกลขนาดไหน ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองบี
เดิมที ที่นี่ก็เอาไว้โฆษณาหรือเผยแพร่ประกาศ วันนี้กลับฉายภาพของหลินเช่อ นี่กำลังทำอะไรกันอยู่นะ
บางคนบอกว่า มีคนแสดงความรักกับหลินเช่อ ลงทุนซื้อสิ่งนี้เพื่อฉลองการปิดกองให้กับหลินเช่อด้วยจอใหญ่ขนาดนี้
คืนนี้ โฆษณานี้ฉายอยู่ทั้งคืน ว่ากันว่าฉายโฆษณาที่นี่หนึ่งนาทีต้องใช้เงินไปตั้งเท่าไหร่ นี่มันทั้งคืน ไม่มีใครคำนวณได้ว่าคนร่ำรวยคนนั้นใช้เงินไปทั้งหมดเท่าไหร่กัน
หลายคนรู้สึกว่านี่มันโรแมนติกมาก หลินเช่อช่างมีความสุข ถูกผู้ชายปฏิบัติด้วยแบบนี้ จะดีใจขนาดไหน
วันต่อมา ข่าวนี้ลงในหน้าหนังสือพิมพ์ บอกว่ามีคนใช้เงินมหาศาลในการซื้อป้ายโฆษณาให้เธอ เพื่อฉลองการปิดกล้องของเธอ
หลินเช่ออ่านคอมเม้นท์ของแฟนคลับพลางเช็ดผม เมื่อสักครู่สระผม เตรียมตัวเข้าบริษัท
กู้จิ้งเจ๋อเดินเข้ามาทางด้านหลัง เหลือบมองหลินเช่อ “ไปกันเถอะ ฉันไปส่งเธอที่บริษัท”
“ค่ะ ไปด้วยกัน”
ขึ้นมาบนรถ กู้จิ้งเจ๋อก็เริ่มอ่านเอกสาร หลินเช่ออ่านบทอยู่ข้างๆ เวลานี้โทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อก็ดังขึ้น กู้จิ้งเจ๋อก้มลงไปมอง ได้ยินฉินเฮ่าบอก “เจ้านายครับ เราสืบได้ว่าคุณโม่ไปที่สูติ-นรีเวชครับ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อที่อยู่ด้านข้าง แล้วบอก “เอาล่ะ ถึงบริษัทค่อยคุย”
รถหยุดลง หลินเช่อยิ้มให้เขา “ฉันไปก่อนนะคะ”
“อืม”
หลินเช่อรู้สึกว่าใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อดูไม่ดี แต่ว่าก็ยังยิ้มให้เขาก่อนเดินจากเข้าไปด้านใน
เมื่อเดินเข้ามาแล้ว หยางหลิงซินก็มองเห็นรถด้านนอก รับหลินเช่อเข้ามาเอ่ย “ประธานกู้มาส่งพี่เช่อเหรอคะ”
“ใช่”
“ประธานกู้ดีกับพี่เช่อมากเลย จริงสิ ฉันเห็นข่าวๆ หนึ่ง บอกว่าประธานกู้เช่าจอโฆษณาฉลองปิดกล้องให้พี่เช่อ จริงไหมคะ”
“เอ่อ…”
“แม้ว่าข่าวจะไม่ได้บอกว่าใคร แต่ฉันคิดว่าต้องเป็นประธานกู้แน่นอนอยู่แล้ว ประธานกู้ดีกับพี่เช่อเป็นบ้าเลย”
ตอนนั้นเอง พลันได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง “นี่ หลินเช่อ”
หลินเช่อหันกลับไปมอง เห็นว่าฉินหวานหว่านอยู่ที่บริษัท
หลินเช่อยิ้มแล้วเดินเข้าไป “ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
“ฉันก็มาเซ็นสัญญาน่ะสิ ฉันหมดสัญญากับบริษัทเดิมแล้ว กำลังจะอยู่บริษัทเดียวกับเธอแล้วนะ”
หลายคนชะงักไปชั่วขณะ
ฉินหวานหว่านจะเซ็นสัญญากับบริษัทพวกเขางั้นเหรอ
ฉินหวานหว่านบอก “ต่อไปก็จะได้อยู่ด้วยกัน ดีจริงๆ เลย”
หลินเช่อบอก “อ้อ นั่นสิ”
ตอนบ่ายก็มีข่าวใหม่ออกมา บอกว่าฉินหวานหว่านเซ็นสัญญากับบริษัทใหม่ เจ้านายบริษัทใหม่เอ็นดูฉินหวานหว่าน เตรียมเงินหลายร้อยล้านเพื่อนเซ็นสัญญาในครั้งนี้ สร้างภาพลักษณ์เทพธิดาให้กับฉินหวานหว่าน เพื่อปั้นให้ฉินหวานหว่านเป็นเทพธิดาองค์ใหม่
และมีชาวเน็ตเริ่มสงสัยขึ้นมา เดิมทีฉินหวานหว่านจะถูกหยิบขึ้นมาเปรียบเทียบกับหลินเช่อเสมอ แต่ตอนนี้ทั้งสองไปอยู่บริษัทเดียวกันแล้ว หลังจากนี้…จะไม่ใช่สงครามระหว่างซ่งซูไห่และฉินเสี่ยวหยวน ที่ยื้อเวลามานานหลายปีหรอกหรือ
แน่นอน ความจริงถ้าเป็นเหมือนซ่งซูไห่กับฉินเสี่ยวหยวนแบบนั้นก็คงจะดี โด่งดังมาก็หลายปี
แต่หลินเช่อและฉินหวานหว่านเองก็ยังวัยรุ่น จะดังได้นานหลายปีขนาดนั้นไหม ก็ยังไม่แน่นอน
ในบริษัท
เพื่อเอาใจหลินเช่อ บริษัทก็ส่งคนมาเพื่อไม่ให้หลินเช่อคิดมาก
ผู้จัดการบริษัทฉินเฮ้อเข้ามาคุยกับหลินเช่อ “หลินเช่อ คุณวางใจ นี่ก็แค่สร้างภาพลักษณ์ให้กับเธอ จึงบอกออกไปแบบนั้น แต่ว่า กำลังของบริษัทเราคุณเองก็รู้ดี เราไม่สร้างเธอขึ้นมาคนเดียวหรอก คุณก็รู้ดีว่าคุณคือคนที่เราปั้นขึ้นมา เธอดังแล้วค่อยเข้ามา ความหมายมันไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนที่สำคัญที่สุดในใจเรา”
หลินเช่อหัวเราะ “ผู้จัดการเฉินคะ บริษัทรับคนเข้ามาใหม่ สร้างภาพลักษณ์ให้นักแสดงก็เพื่อเหตุผลทางธุรกิจไม่ใช่เหรอคะ ฉันรู้ค่ะ คุณไม่ต้องมาอธิบายกับฉันหรอก ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงก็ตาม ทุกคนต่างก็ใช้ศักยภาพเข้ามาทั้งนั้น”