เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 421 ทักษะการแสดงของเธอทำให้คนต้องตะลึง
“ผมเคยร่วมงานกับหวานหว่านอยู่หลายครั้ง ทักษะการแสดงของเธอ นับว่าดีกว่านักแสดงหญิงทั่วไป มา…หวานหว่าน มาแสดงให้ทุกคนได้เห็นสักหน่อย ฉากร้องไห้นี้ต้องแสดงยังไง ให้ทุกคนจะได้เห็นทักษะการแสดงของเธอด้วย”
ฉินหวานหว่านยิ้ม ลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไป “รุ่นพี่ชมจนฉันเขินแล้วนะคะ ความจริงฉากร้องไห้ฉันเองก็ไม่ถนัดเท่าไหร่ ทุกคนไม่หัวเราะฉันก็ดีแค่ไหนแล้วค่ะ”
ทุกคนมองฉินหวานหว่านหยิบบทขึ้นมา
เธออ่านบทอยู่ชั่วครู่ ทำอารมณ์อยู่สักพัก ไม่เกินสองนาที น้ำตาเธอก็รื้นขึ้นมา
ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเก่งมากๆ เวลานี้ยังเข้าถึงบทบาทได้เร็วขนาดนี้
จากนั้น ฉินหวานหว่านก็ล้มลงตรงนั้น มือไม้สั่นเทา มองไปยังกล้องแล้วเอ่ยบทขึ้นมา
ใบหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวด น้ำตาไหลนอง ทำให้คนดูรู้สึกเศร้าตามไปด้วย
หลายคนเริ่มชื่นชมเธอออกมา
ทักษะการแสดงของฉินหวานหว่านเยี่ยมมากจริงๆ ระยะเวลาเพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าถึงบทบาทได้ดีขนาดนี้ อีกทั้งอารมณ์และท่าทางยังทำให้คนรู้สึกอินตามไปด้วย
หลังจบการแสดงของเธอ ทุกคนต่างก็ปรบมือชื่นชมเธอ
ฉินหวานหว่านยิ้มลุกขึ้นมา อารมณ์กลับมาปกติ เช็ดน้ำตาพลางหัวเราะ เอ่ยกับทุกคน “ขอบคุณทุกคนที่สนุกไปด้วยกันค่ะ”
“หวานหว่าน เธอเก่งมากๆ เลย”
“หวานหว่านเธอร้องไห้เหมือนมาก น้ำตาก็ไหลออกมาเร็วด้วย”
“และเธอยังแสดงออกมาได้สมจริง เยี่ยมมาก”
อาจารย์กล่าวอยู่ด้านหลัง “ฉากร้องไห้เป็นฉากพื้นฐานของเรา แน่นอนว่าพื้นฐานเองก็ทดสอบคนเหมือนกัน การแสดงของหวานหว่านไม่เลวเลย แน่นอนว่าเทียบกับนักแสดงนำหญิงหลายคนได้เลย เธอต้องพยายามต่อไปนะ”
ตอนนั้นเอง มีคนมองไปที่หลินเช่อ นึกถึงที่มู่เฝ่ยหรานชื่นชมเธอขนาดนั้น ตอนนี้เธอยืนเงียบอยู่ด้านหลัง พูดขึ้นมา “นี่ หลินเช่อเองก็ถูกมู่เฝ่ยหรานชมว่าเก่งนักเก่งหนาไม่ใช่เหรอ หลินเช่อก็ลองดูสักฉากหน่อยดีไหม”
ทุกคนเริ่มสนับสนุนขึ้นมา อยากเห็นหลินเช่อขายหน้า
ฉากร้องไห้ก็มีอยู่แค่นั้น ถึงแม้ว่าหลินเช่อจะแสดงออกมาได้เหมือนฉินหวานหว่าน ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงอะไร แต่ถ้าไม่ได้ดีเท่าฉินหวานหว่าน งั้นก็คงได้หัวเราะเยาะกันแน่
ฉินหวานหว่านเองก็มองไปด้านหลัง เอ่ยกับหลินเช่อ “หลินเช่อ ลองดูสักหน่อยก็พอแล้ว แค่เล่นๆ น่ะ อีกอย่าง ใครๆ ก็บอกว่าการแสดงของเธอดี อย่าซ่อนเอาไว้เลย มาให้เราได้ศึกษาหน่อยดีกว่า”
หลินเช่อมองฉินหวานหว่าน “ไม่หรอก การแสดงของเธอมันดีแล้ว ฉันคงไม่ทำให้วุ่นวายอีก”
อาจารย์เห็นว่าทุกคนต่างสนใจ เขาเองก็ไม่เคยร่วมงานกับหลินเช่อมาก่อน แต่ทุกครั้งการแสดงของหลินเช่อที่ออกมาก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร มีแต่ละครน้ำเน่าเท่านั้น ละครย้อนยุคบ้าง ไม่ได้มีฉากอารมณ์อะไรมากมาย มองไม่ออกว่าทักษะการแสดงเป็นอย่างไรกันแน่ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ได้เข้าข้างหลินเช่อ คิดว่าเธอแค่รู้จักผู้คนบ้างก็เท่านั้น แถมดูถูกพวกที่เป็นรุ่นพี่อย่างพวกเขา อย่างอื่นก็อาจจะไม่ดีไปกว่าฉินหวานหว่าน
เห็นว่าทุกคนพูดแบบนั้น เขาจึงบอกกับหลินเช่อ “ใช่ หลินเช่อ มาลองแสดงให้พวกเราดูหน่อย ดีไหม ทุกคนว่าไง”
หลินเช่อสูดหายใจเข้าลึก มองไปที่อาจารย์ “ก็ได้ค่ะ งั้นฉันจะลองดู”
หลินเช่อหยิบบทขึ้นมา อ่านบทหนึ่งท่อน เป็นตอนที่นางเอกรู้ว่าพระเอกที่เป็นพระราชา หายตัวไประหว่างทำสงคราม เหลือไว้เพียงพวกเธอแม่ลูก ที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าทหารนับพันนับหมื่น หัวใจพลันทุกข์ระทม
หลินเช่ออ่านบทอยู่เงียบๆ เงยหน้าขึ้นมา “โอเคค่ะ”
“งั้นเริ่มเลย” ทุกคนต่างก็เฝ้ารอว่าเธอจะแสดงออกมาอย่างไร
หลินเช่อมองไปข้างหน้า แสดงออกถึงความรู้สึกหดหู่ ดวงตาว่างเปล่า ลืมผู้คนรอบข้างทั้งหมด
ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แข้งขาอ่อนแรง ล้มลงไปบนพื้น เธอค้ำไปที่ขั้นบันไดด้านข้าง อยากจะลุกขึ้นมา ทว่ากลับลุกไม่ขึ้น มือไม้สั่นเทา คล้ายกับกำลังใช้แรงมหาศาล แต่ก็ยังลุกไม่ขึ้น
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เธอเหมือนกับถูกขังอยู่ในนั้น ไม่ถูกใครรบกวน
มองดูเธอยื่นมือออกมาอีกครั้ง มองไปด้านหน้า ริมฝีปากสั่นระริกเล็กน้อย ใบหน้ายังคงไม่มีความรู้สึกใดๆ มีเพียงไหล่ที่กำลังสั่นเทา ทำให้คนรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนเข้มแข็ง กำลังเก็บความอ่อนแอเอาไว้
เธอเปิดปากขึ้น เอ่ยเรียกชื่อของพระเอก “เนี่ยนชู…เนี่ยนชู…”
“ได้ ข้าจะปกป้องผืนดินแผ่นนี้เอาไว้เพื่อท่าน…เพื่อท่าน”
“ข้าจะรอท่านกลับมา…รอท่านกลับมา”
เมื่อเอ่ยจบ ใบหน้าของเธอก็ได้มีหยาดน้ำตาหยดเล็กหลั่งรินลงมาจากดวงตาที่ยังคงนิ่งสงบ
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง มองหลินเช่อด้วยความตกตะลึง
เมื่อสักครู่เห็นอยู่ว่าไม่ได้มีสีหน้าใดๆ เลย ดวงตาก็แทบไม่แดงสักนิด ฉับพลันน้ำตาก็ไหลออกมา ในยามที่คำพูดนั้นจบลง
สามารถรับรู้ได้ว่าเธอตั้งใจให้น้ำตามันไหลออกมาตอนไหน ไม่เร็วไม่ช้า ให้มันร่วงลงมาในเวลานี้ ทำให้รู้สึกถึงความเข้มแข็งของนางเอก ยืนหยัดกับความรักที่มั่นคงที่มีให้แก่พระเอก รักจนกระทั่งไม่ว่าเวลาไหน ก็จะเก็บน้ำตานี้เอาไว้เพื่อเขา มีเพียงตอนสุดท้าย ให้คำมั่นกับตัวเองไว้แล้ว ว่าจะปกป้องแผ่นดินนี้เพื่อเขา จึงได้ปล่อยน้ำตาหยดนั้นให้ร่วงลงมา
การแสดงของหลินเช่อจบลง
ทุกคนราวกับยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา
จนกระทั่งสุดท้ายมีคนร้องเสียงดังออกมา “ดี”
จากนั้น ทุกคนต่างก็ปรบมือเสียงดัง
ควบคุมน้ำตาของตัวเองมันเป็นสิ่งที่ยากมาก พวกเขาเองรู้ดี
หลายครั้ง การควบคุมอารมณ์นั้นยากมากที่จะให้เป็นไปตามจังหวะ ตอนนี้นักแสดงหญิงหลายคนควบคุมมันไม่ได้ จึงต้องอาศัยการตัดต่อเพื่อทำให้มันสมบูรณ์แบบ
แต่ว่าหลินเช่อสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ทั้งหมด
ทุกคนต่างมองหลินเช่อด้วยความตกตะลึง อาจารย์เองก็ทำได้เพียงขยับแว่น มองไปยังหลินเช่อแล้วบอก “ไม่คิดว่าการแสดงของหลินเช่อจะน่าทึ่งขนาดนี้ แต่ว่าในโรงเรียนการแสดง เรื่องพวกนี้ยังเป็นพื้นฐาน เธอยังต้องพยายามอีก”
ทุกคนฟังออกว่า สิ่งที่อาจารย์พูดออกมามันเหลวไหลทั้งนั้น เมื่อสักครู่ตอนฉินหวานหว่านแสดง เขาชมเว่อร์ขนาดนั้น ชมจนฟ้าดินก็เทียบไม่ได้ แต่เมื่อถึงการแสดงของหลินเช่อที่แสดงออกมาได้ดีเยี่ยม ไม่ได้ต่างจากทักษะการแสดงของนักแสดงตัวสำคัญๆ เลยสักนิด ในหมู่นักแสดงหญิง น้อยมากที่จะมีแบบนี้ แต่เขากลับพูดราวกับไม่ใส่ใจ
ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด
ฉินหวานหว่านมองหลินเช่ออยู่ด้านหลัง ใบหน้าบูดบึ้ง ไม่ง่ายเลยที่จะดึงสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ
ความจริงละครพวกนั้น ไม่ได้ให้หลินเช่อได้เผยทักษะการแสดงออกมาเลยจริงๆ และยังเห็นได้อย่างชัดเจน ครั้งนี้ที่แสดงกับกู้จิ้งอวี่ ทักษะการแสดงของเธอ มันสูงขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
ครั้งนี้สายตาที่ทุกคนมองหลินเช่อ มีความนับถือเข้ามา
แต่ทุกคนยังคงคิดว่า ที่หลินเช่อวางยาฉินหวานหว่านมันไม่ถูก ดังนั้นจะเสียชื่อเสียงก็ไม่แปลก
อย่างไรซะ นี่ก็เป็นสิ่งที่หลินเช่อเหมือนจะยอมรับด้วยตัวเองไปแล้ว ไม่อย่างงั้นคงไม่ยอมถอนตัวออกจากการเข้าชิงรางวัลหรอก