เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 422 ในเมื่อเธอถอนตัวออกจากการชิงรางวัลก็ไม่ถือว่ายอมรับแล้วเหรอ
- Home
- เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก
- ตอนที่ 422 ในเมื่อเธอถอนตัวออกจากการชิงรางวัลก็ไม่ถือว่ายอมรับแล้วเหรอ
หลินเช่อเองไม่ได้ใส่ใจ ถ้าอาจารย์บอกว่า ฉากร้องไห้แบบนี้มันเป็นแค่พื้นฐานของโรงเรียนการแสดง แต่ยิ่งเป็นพื้นฐาน ก็จะยิ่งแสดงยากขึ้นไปก็แค่นั้น
เมื่อเลิกเรียนแล้ว ทุกคนรอให้หลินเช่อออกไปก่อน จากนั้นเข้าไปคุยกับฉินหวานหว่าน “นี่เขาตั้งใจจะเป็นศัตรูกับเธอหรือเปล่า ดูเธอแค่แสดงไปเล่นๆ แต่เขากลับมาแสดงซะเต็มที่ขนาดนั้น คิดว่าทำอะไรอยู่ แข่งขันหรือยังไง”
“นั่นน่ะสิ แผนการร้ายกาจ ตั้งใจแข่งกับเธอชัดๆ”
“ตอนแรกก็เห็นว่าเธอมาฝึก ตัวเองก็รีบตามมาด้วย ตอนนี้หางได้โผล่ออกมาแล้ว หล่อนตั้งใจมาแข่งกับเธอชัดๆ”
ฉินหวานหว่านยังคงบอกยิ้มๆ “ไม่หรอก เธอแสดงดีจริงๆ”
“เธอก็ไม่ได้แสดงเต็มที่นี่นา หวานหว่าน เธอก็แค่แสดงให้ดูเล่นๆ เท่านั้นเอง”
ฉินหวานหว่านไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ถือว่าเป็นการยอมรับเงียบๆ
ทุกคนต่างว่าร้ายออกมา “ฉันจะรอให้หลินเช่อไปขอโทษเอง หวานหว่าน เธอเองก็อย่าให้อภัยแค่หล่อนยอมถอนตัวออกจากการเข้าชิงรางวัลเองหรอกนะ แค่ถอนตัวออกมามันไม่พอหรอก ต้องมาขอโทษด้วย”
“จะขอโทษหรือไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไรหรอก เราก็เพื่อนกันทั้งนั้น” ฉินหวานหว่านบอกยิ้มๆ มองตามทางที่หลินเช่อเดินออกไป แต่ดวงตากลับไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิด
เมื่อจบลง ฉินหวานหว่านจึงโทรไปหาผู้จัดการของเธอ
“ฉันจะให้เธอขอโทษโดยเร็ว ใช้ทุกวิถีทางให้เธอออกมาขอโทษให้ได้ ฉันต้องการให้เธอมาขอโทษด้วยตัวเอง”
พี่หลินรีบบอก “ช่างเถอะ หวานหว่าน อย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวเธอก็ต้องเข้าชิงรางวัลใหญ่แล้ว เราเตรียมชุดไว้ให้เธอ ตัดเย็บเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็มีข่าวออกมา”
ฉินหวานหว่านได้ยินผู้จัดการบอกแบบนั้น เธอจึงใจเย็นลงมาบ้าง
ผู้จัดการบอกว่า อีกไม่นาน ข่าวก็จะออกมา
ฉากหน้า ฉินหวานหว่านดูสวยจิตใจดี เดินอยู่ในเขตโรงเรียน บอกว่าตัวเองจะได้เข้าร่วมงานรับรางวัล ยังบอกอีกว่าเธอมีโอกาสที่จะได้รับรางวัลใหญ่ เธอบอกเขินๆ ว่าเดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง
ข่าวออกมาตามที่ฉินหวานหว่านบอกเอาไว้ ว่ารายชื่อของฉินหวานหว่านนั้นติดหนึ่งในสิบแล้วยังนำอยู่ด้านหน้าอีกด้วย รางวัลใหญ่ คงเป็นที่แน่นอนแล้ว
ในข่าวยินยอฉินหวานหว่านไม่มีที่สิ้นสุด
และเนื้อข่าวยังไม่ลืมที่จะเอ่ยถึงหลินเช่อที่ถอนตัวออกจากการชิงรางวัล รายชื่อได้ตกออกไปจากสิบอันดับแรกแล้ว ถอนตัวตอนนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องดี
ไม่นาน ชื่อเสียงของฉินหวานหว่านก็ถูกดึงให้สูงขึ้น เหมาะที่จะเหยียบหลินเช่อให้ต่ำลง
ยังบอกอีกว่าหลินเช่อถอนตัวออกจากการเข้าชิงรางวัลเอง นั่นก็หมายความว่าที่เธอวางยาฉินหวานหว่านนั้นเป็นความจริง จึงถูกบริษัทสั่งให้ถอนตัว เพื่อเป็นการลงโทษ
และเมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์กับบริษัทของหลินเช่อ บริษัทพูดจาคลุมเครือ ไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ชาวเน็ตจึงบอก แบบนี้ก็ถือว่ายอมรับแบบเงียบๆ งั้นสิ
ในขณะที่ข่าวกำลังร้อน หลินเช่อกลับยังเงียบ คล้ายกลับจะไม่ปรากฏตัวแล้ว
ตอนนี้กู้จิ้งเจ๋อกำลังอยู่กับหลินเช่อ
เมื่อบ่ายเขาโทรหาหลินเช่อ บอกว่าตัวเองจะมาเยี่ยมเธอ
หลินเช่อรีบออกมาจากโรงเรียน เห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อมาถึงแล้ว จึงวิ่งเข้ามาหาอย่างมีความสุข
ในโรงเรียนไม่ได้มีสถานที่ที่ดีเท่าไหร่ จึงหาร้านกาแฟเล็กๆ นั่ง ไม่นาน คนในร้านกาแฟก็ถูกกันออกไปจนหมด เหลือไว้เพียงคนของตระกูลกู้และบอดี้การ์ดของเขา
กู้จิ้งเจ๋อบอก “รู้ว่าเธออยู่ที่โรงเรียน อาหารการกินคงจะไม่ดีเท่าที่ควร เลยเอามาด้วย”
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความซาบซึ้ง “จริงค่ะ อาหารที่โรงเรียนนั้นไม่อร่อยเลย ไม่อร่อยยิ่งกว่าโรงเรียนอื่นอีก ตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่นี่ ก็เป็นแบบนี้ หลายปีแล้ว ก็ยังไม่เปลี่ยนเลย”
มองเห็นปากของหลินเช่อที่เต็มไปด้วยอาหาร กู้จิ้งเจ๋อพลันหัวเราะ ที่จริงทานข้าวคนเดียวที่บ้าน รู้สึกว่าไม่ถูกปาก เขาจึงมาหาหลินเช่อที่นี่
มองเธอทานอาหาร เขาจึงรู้สึกหิวขึ้นมา สั่งให้คนเตรียมมาอีกชุดหนึ่ง ทานข้าวด้วยกันกับหลินเช่อ
โลกนี้มีเพียงผู้หญิงคนนี้คนเดียว อาศัยภาพลักษณ์ที่น่าเกลียดของเธอเวลากิน ก็ทำให้เขารู้สึกหิวขึ้นมาได้แบบนี้เหรอ
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ทานเยอะๆ”
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวหรอก อย่ามองว่าหลายวันมานี้ฉันจะเป็นทุกข์ มันไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการกินของฉันเลยสักนิด คุณคิดดูสิ ถ้าฉันปล่อยให้ตัวเองหิว พวกเขาจะยิ่งดีใจขึ้นไปอีกน่ะสิ ฉันไม่ยอมให้พวกเขาดีใจได้ขนาดนั้นหรอก”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธออยู่เงียบๆ “ถ้าทนไม่ไหว ฉันช่วยเธอได้เสมอ”
“งั้นจะมีความหมายอะไรล่ะ ฉันจะคอยดูว่าพวกนั้นจะตีมากี่ครั้ง เปี๊ยะ เปี๊ยะ เนี่ย ค่อยให้มันกลับไปโดนหน้าพวกเขาเอง ช่วงนี้ปล่อยให้เขามีความสุขกันไปก่อน ไม่นานหรอก ฉันจะทำให้พวกเขาได้เห็น” หลินเช่อกำหมัด บอกกับเขา “เอาล่ะ บอกแล้วว่าคุณไม่ต้องมาคิดมากกับปัญหาของฉัน”
ทั้งสองทานอาหารเสร็จ คนด้านนอกมองกู้จิ้งเจ๋อกลับไป
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ ยื่นมือออกไปคว้าเธอมากอดเอาไว้
ไม่เจอกันไม่กี่วัน เธอเหมือนจะอ้วนขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนเรื่องนั้นจะไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเธอเลย เขาจึงไม่กังวลอะไรมาก
หลินเช่ออิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเขา ถูกเขาลูบเบาๆ เขาจ้องมองใบหน้าหญิงสาว ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเกลี่ยที่แก้มของเธอ นวดคลึงริมฝีปากของเธอแล้วโน้มลงไปจูบเธอเบาๆ
หลินเช่อตกใจรีบผลักเขาออก จริงๆ เลย ถ้าคนอื่นเห็นจะทำอย่างไร
“คนเต็มไปหมด กู้จิ้งเจ๋อ” ช่วงนี้เขาชอบทำแบบนี้ แกล้งเธอไปทั่ว
กู้จิ้งเจ๋อขยับตัวให้มีช่องว่างเล็กน้อย “ไหนคน”
ก็ใช่น่ะสิ คนรอบข้างถูกเขากันออกไปจนหมดด้วยวิธีไหนก็ไม่รู้
แต่ว่า บอดี้การ์ดพวกนั้นก็คนเหมือนกันนะ
“บอดี้การ์ด….ตั้งหลายคน…”
“พวกเขาชินตั้งนานแล้ว”
“จะเป็นไปได้ยังไง”
“งั้นก็เริ่มชินตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกัน” กู้จิ้งเจ๋อบอก จากนั้นออกแรงกัดริมฝีปากเธอเอาไว้
โลภมากเป็นที่สุด จูบเธออยู่แบบนั้น ไม่ปล่อยพื้นที่ว่างในปากของเธอเลย
เนิ่นนานถึงจะยอมปล่อย หอบหายใจ เขาแนบชิดอยู่กับหน้าผากเธอ จ้องมองตาเธอเงียบๆ อยู่แบบนั้น ไม่ว่าเวลาไหน ดวงตาคู่นั้นยังคงเป็นดั่งน้ำทะเล ลุ่มลึก ทำให้ผู้คนหลงใหล
มันทำให้หลินเช่อเองก็รู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่มีเขาอยู่เคียงข้าง ไม่ว่ามีอุปสรรคใดๆ ก็จะผ่านมันไปได้เสมอ
เพราะว่า ไม่ว่าอย่างไร เธอจะยังมีเขาเป็นที่พึ่งเสมอ
ความรู้สึกปลอดภัยที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามา ทำให้เธอประหลาดใจ เธอรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งเมื่อมีเขา
เธอจ้องมองเขา ค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกอย่างรุนแรง ดวงตาคู่นี้จะเซ็กซี่ไปถึงไหนนะ
ตอนนี้บอดี้การ์ดได้มาส่งหลินเช่อ กู้จิ้งเจ๋อเองก็แอบกลับไปเงียบๆ ร้านกาแฟกลับมาเปิดอีกครั้ง ผู้คนต่างก็ไม่รู้ว่าคนที่มาคือใคร รู้เพียงว่าเป็นบุคคลผู้มีอำนาจ แค่เพื่อทานข้าวถึงกับต้องสั่งให้ไล่คนออกไปให้หมด
____
ในหอพักยามดึก ฉินหวานหว่านมองหลินเช่อ หัวเราะแล้วพูดกับเธอ “ฉันเห็นการแสดงของเธอวันนี้แล้ว รู้สึกว่าทักษะการแสดงของเธอไม่เลวเลย เรียนอยู่ที่โรงเรียนการแสดงแห่งนี้หรือเปล่า”