เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 426 พิธีแต่งงานของท่านประธานาธิบดีเป็นที่จับตามอง
- Home
- เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก
- ตอนที่ 426 พิธีแต่งงานของท่านประธานาธิบดีเป็นที่จับตามอง
หลินเช่อลาเรียนกับอาจารย์ ทุกคนมองไปที่หลินเช่อแล้วถามว่าเธอจะไปไหน
มีเพียงฉินหวานหว่านที่พอรู้อะไรอยู่บ้าง แม้ว่าเธอเองก็แค่คาดเดา ไม่เคยค้นพบความจริงเลยสักครั้ง แต่เธอได้แอบถามหลินเช่อแล้วว่า “เธอจะไปร่วมพิธีแต่งงานของท่านประธานาธิบดีใช่ไหม”
หลินเช่อมองฉินหวานหว่าน รู้สึกแปลกใจมาก เธอเย็นชากับฉินหวานหว่านมาตลอด ทำไมฉินหวานหว่านยังแสร้งทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
หลินเช่อตอบ “เธอคิดมากไปแล้ว”
ฉินหวานหว่านจึงบอก “กู้จิ้งอวี่ต้องไปร่วมงานอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เขาพาเธอไปด้วยก็เป็นเรื่องปกติ รู้จักกับคนตระกูลกู้ได้นี่ไม่เลวเลยนะ ได้มีโอกาสไปสถานที่สูงส่งแบบนั้นด้วย”
หลินเช่อตอบกลับไปเพียง “เหอะๆ”
เธอโบกมือลา ฉินหวานหว่านกัดฟันคิดในใจ ดูเหมือนจะไปร่วมงานแต่งของประธานาธิบดีจริงๆ สินะ
งานพิธีแบบนั้น เป็นงานที่คนอย่างฉินหวานหว่านยังไม่กล้าแม้แต่จะคิด
ทางด้านหลินเช่อเองก็ถูกกู้จิ้งเจ๋อรับขึ้นรถไป เปลี่ยนเป็นชุดพิธีการที่เหมาะสม
“เดี๋ยววันนี้เธอจะได้เจอพวกนักการเมืองจนๆ เหล่านั้น ถึงตอนนั้นหลบอยู่ด้านหลังฉันก็พอ” กู้จิ้งเจ๋อกำชับเธอ
หลินเช่อทำได้เพียงตอบกลับไปด้วยความเบื่อหน่าย “คนพวกนั้นล้วนเป็นบุคคลสำคัญ คุณอย่าใช้น้ำเสียงดูถูกแบบนั้นจะได้ไหม”
เมื่อมาถึง พลันมองเห็นผู้ชายท่าทางสุภาพที่มักเคยเห็นในโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ รีบเข้ามาทักทายกู้จิ้งเจ๋อ “ยินดีต้อนรับครับคุณกู้ พวกเราได้มารอนานแล้ว”
หลินเช่อพลันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
คิดว่านี่ตัวเองกำลังอยู่กับคนที่แค่ย่ำเท้าก็สามารถส่งผลกระทบต่อการเมืองของประเทศซีได้ แต่ยังรู้สึกว่าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่
ทว่าเมื่อหันกลับไปมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง ก็เห็นชัดว่ามันเป็นความจริงที่สุดแล้ว
วินาทีต่อมา เธอก็ถูกเขาจับจูงเอาไว้ เดินตรงเข้าไปยังทำเนียบหลิวลี่
พิธีแต่งงานแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน อันดับแรกเป็นพิธีไหว้บรรพบุรุษ ต่อมาเป็นพิธีแต่งงานยิ่งใหญ่ภายใต้สายตาของประชาชน จากนั้นถ่ายรูปที่หน้าทำเนียบหลิวลี่ สุดท้ายคือการพบปะประชาชน ณ ระเบียงด้านบนของทำเนียบหลิวลี่
อวี๋หมินหมิ่นอ่านกำหนดการ รู้สึกมึนหัวขึ้นมาทันที
ชุดที่อยู่บนร่างนั้นหนักไม่เบาเลย ชายกระโปรงที่ยาวเหยียดทำให้ยากที่จะยอมรับได้
ตอนที่หลินเช่อจะเข้ามา คนด้านหน้าได้ขวางเธอเอาไว้
คนข้างหลังจึงต้องรีบบอก “คนนี้คือคุณนายกู้”
บอดี้การ์ดของทำเนียบหลิวลี่ตกใจ รีบทำความเคารพ และกล่าวขอโทษหลินเช่อ
หลินเช่อรีบบอกไม่เป็นไร แต่ยังคงรีบเดินเข้ามาด้านใน
ในที่สุดอวี๋หมินหมิ่นก็ได้เจอคนสนิทสักที เอ่ยถามอยู่ตรงนั้น “คนด้านนอกเยอะมากเลยใช่ไหม”
หลินเช่อหัวเราะบอก “ก็ไม่ได้มากขนาดนั้นหรอก แต่ฉันเชื่อว่า ประชาชนทุกคนคงกำลังดูผ่านโทรทัศน์อยู่แน่ๆ”
“นั่นสินะ…” อวี๋หมินหมิ่นมองไปที่บอดี้การ์ด “ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวกู้จิ้งเจ๋อมากใช่ไหม”
หลินเช่อถามด้วยความสงสัย “ทำไมเหรอ ทำไมพวกเขาต้องกลัวกู้จิ้งเจ๋อด้วยล่ะ”
“ฟังจากที่คนในทำเนียบบอก พวกเขาต่างก็กลัวกู้จิ้งเจ๋อ คงเพราะกู้จิ้งเจ๋อนิสัยไม่เหมือนใครละมั้ง ยังไงซะ พอได้ยินว่าเป็นเธอ พวกเขาก็ไม่กล้าขวางเลยแม้แต่คนเดียว แถมยังรีบปล่อยเธอเข้ามาด้วยความนอบน้อมอีกต่างหาก ฉันจะบอกอะไรให้ ตลอดหลายวันมานี้ เธอนับว่าเป็นคนแรกที่ทำให้พวกเขาแสดงความรู้สึกออกมาเลยล่ะ”
“ว้าว ฉันว่าตอนนี้เธอไม่ตื่นเต้นแล้วใช่ไหม”
“แน่นอนว่าไม่ใช่…”
สักพัก แม่ของอวี๋หมินหมิ่นก็พาน้องชายมา
บอดี้การ์ดเข้ามารายงานว่าให้ทั้งคู่เข้ามาแล้ว อวี๋หมินหมิ่นรีบออกไปรับครอบครัวของเธอ
แม่และน้องชายยังได้เปลี่ยนมาสวมชุดที่ดูเป็นทางการมากขึ้น ชุดพิธีการขนาดพอดีตัว น่าจะเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
แม่มองตรงมาทางนี้ตลอดทาง ดูเหมือนว่าจะไม่ทันได้สติ “ที่นี่คนเยอะมากเลย หมินหมิ่น คนพวกนี้มาร่วมงานแต่งทั้งหมดเลยใช่ไหม”
“พอแล้วค่ะแม่ เดี๋ยวอีกสักพักแม่ก็รอฟังลำดับงาน ไม่ต้องไปสนใจคนเหล่านี้ พวกเขามาจากหลากหลายที่เพื่อมาร่วมงานในครั้งนี้เท่านั้น”
น้องชายเองก็เอ่ยขึ้น “ว้าว พี่! พี่สวยมากเลย ที่นี่ก็ใหญ่มากด้วย ที่นี่คือทำเนียบหลิวลี่เหรอครับ สวรรค์ ผมได้ยืนอยู่ในทำเนียบหลิวลี่ด้วยล่ะ จริงๆ เลย ผมเล่าให้เพื่อนฟัง พวกเขาไม่เชื่อผมด้วยซ้ำ ผมจะได้ออกโทรทัศน์ด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าผมได้ออก ผมจะทักทายเพื่อนๆ ของผม บอกให้พวกเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมอยู่ที่ทำเนียบหลิวลี่จริงๆ”
อวี๋หมินหมิ่นพูดอย่างเบื่อหน่าย “เอาล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยก็อย่าซน เกิดถูกบอดี้การ์ดจับไป ฉันช่วยนายไม่ได้นะ”
แม่มีสีหน้าตื่นตระหนก เธอไม่เคยเห็นงานแบบนี้ แม้ว่าจะเฝ้ารอให้มาถึง แต่เมื่อมาแล้วกลับรู้สึกตื่นเต้น
“หมินหมิ่น ตอนที่แม่ออกมา ผู้คนนั้นดูอิจฉาแม่มาก บอกว่างานนี้เหมือนพิธีแต่งงานแห่งศตวรรษที่มีผู้คนจับตามองเป็นจำนวนมาก เธอจัดงานใหญ่มากเลยนะ”
อวี๋หมินหมิ่นบอก “ทั่วประเทศอาจจะรายงานข่าวสักหน่อย ไม่มากหรอกค่ะ ข่าวทั่วโลกก็อาจจะรายงานบ้างเล็กน้อย แต่ก็คงไม่ได้มากมายอะไร”
“งั้นทั่วประเทศจะเห็นงานแต่งของเธอจริงไหม โอ๊ย จริงๆ เลย หมินหมิ่น ครอบครัวเราได้มีหน้ามีตาเพราะเธอเลย เธอไม่เห็นว่าเพื่อนบ้านเขาพูดกันว่ายังไง เมื่อก่อนคิดว่าครอบครัวเรา พ่อเธอน่ะ เป็นผีพนัน ตอนนี้น่ะเหรอ ต่างก็บอกว่า แม่เลี้ยงลูกสาวดี หึ…หมินหมิ่น เยี่ยมไปเลย”
น้องชายเอ่ยถาม “ผมจะได้เจอกับท่านประธานาธิบดีไหมครับ ผมถ่ายรูปด้วยได้ไหม นั่นเป็นพี่เขยผมนะ ผมเรียกพี่เขยได้หรือเปล่า”
อวี๋หมินหมิ่นยอมแพ้แก่พวกเขาในที่สุด
พวกเขาดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่าเธอซะอีก
ตอนนั้นเอง น้องชายก็หันไปเจอหลินเช่อ
“ว้าว หลินเช่อ สวัสดีครับ ผมคืออวี๋เฉิงเฉิง ผมเป็นแฟนคลับของคุณ ผมคิดว่าคุณสวยมากๆ เลยครับ ผมยังเข้าร่วมกลุ่มแฟนคลับของคุณด้วยนะครับ”
“…” หลินเช่อหัวเราะมองไปที่เขา “เธอเป็นน้องชายของหมินหมิ่นใช่ไหม พวกเธอคล้ายกันมาก”
น้องชายแก้มแดงไปหมดแล้ว พูดกับเธอ “ผมขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหมครับ”
“แน่นอน ได้อยู่แล้ว” หลินเช่อถ่ายรูปคู่กับเขาหนึ่งรูป
น้องชายบอกว่า “พี่สาวผมนี่จริงๆ เลย ตัวเองเป็นถึงผู้จัดการ ผมขอให้เธอพาผมไปเจอกับดาราบ้าง เธอก็ไม่เคยยอมเลย รูปนี้ผมให้คนอื่นดูด้วยได้ไหมครับ ผมอยากเอาให้เพื่อนๆ ผมดู พวกเขาคงตกใจจนอึ้งแน่ๆ”
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว”
เขาดีใจที่สุดเลย ยังเอ่ยชมหลินเช่ออีกด้วยว่า “คุณสวยกว่าในโทรทัศน์อีก จริงๆ นะครับ”
อวี๋หมินหมิ่นเห็นว่าเวลาพอควรแล้ว จึงบอกกับทั้งคู่ “เอาล่ะ พวกคุณไปพักก่อนเถอะ พวกเรายังมีธุระต่ออีก”
พิธีใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว หลินเช่ออยู่ด้านในเป็นเพื่อนอวี๋หมินหมิ่น
หลังจากเริ่มแล้ว ขบวนที่ตั้งอยู่ด้านนอกได้ยิงปืนส่งสัญญาณ จากนั้นอวี๋หมินหมิ่นก็ปรากฏตัวต่อหน้ากล้อง
ใบหน้าอวี๋หมินหมิ่นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เธออยู่ในชุดเจ้าสาวดูท่าทางใจดี เพชรเม็ดงามประดับอยู่บนลำคอระหงของเธอ เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่ดูเซ็กซี่และสง่างาม
อวี๋หมินหมิ่นเงยหน้ามองกู้จิ้งหมิง เขาอยู่ตรงหน้า ในชุดเครื่องแบบประธานาธิบดีดูปราดเปรียว ส่งให้เขายิ่งสง่างามและมีอำนาจ ใบหน้าหล่อเหลานั้นได้ถูกจัดแต่งให้ดูดีแปลกตา
ดวงตาคมคู่นั้น ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า เปล่งแสงระยิบระยับ ใบหน้าคมมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ
จ้องมองไปที่กล้อง เผยรอยยิ้มบางๆ ทว่าทำให้ผู้คนหลงใหลได้ไม่น้อยเลย
ดูดีก็ดูดีอยู่หรอก แต่เย็นชาไปหน่อยเท่านั้นเอง