เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 56
ฉันไม่ต้องการให้เธอมีแฟน
หลินเช่อพยายามจะหลบเลี่ยง แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงมือของเขาข้างหนึ่งที่ผลักเธอออกไปจนติดกำแพง ร่างเธอแนบติดกับผนังห้องเย็นเฉียบ ร่างแข็งแรงของกู้จิ้งเจ๋อเบียดพิงอยู่กับร่างเธอ มือข้างหนึ่งของเขากำลังสอดลอดเข้ามาใต้เสื้อผ้า
เมื่อเนื้อต้องเนื้อ หลินเช่อก็รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวของฝ่ามือใหญ่
ร่างของเธอเริ่มสั่นระริก รู้สึกถึงปลายนิ้วกร้านที่ปาดไล้ไปบนผิวของเธอ ทิ้งไว้เพียงความไหวระริ้วระคนหวาดหวั่นจากสัมผัสนั้น
ชายกระโปรงชุดของเธอถูกเลิกขึ้นมาสูงกว่าครึ่งทางแล้ว มือเขาเลื่อนไหลคลำคลึงไปตามส่วนเว้าโค้งของเรือนร่าง แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มสบถเบาๆ กับเสียงขัดจังหวะอันน่าโมโหนี้
รสชาติของเธอยังติดอยู่บนริมฝีปากเขา ชายหนุ่มเลียริมฝีปากด้วยความรู้สึกละห้อยโหยหา ไม่มีความชิงชังรังเกียจใดเลย กลับกลายเป็นความต้องการปรารถนาอันท่วมท้นเสียอย่างนั้น
สายตาของหลินเช่อพร่ามัว พวงแก้มสองข้างแดงก่ำ
เขาปล่อยมือจากเธอ มือเขายังร้อนผ่าวและชุ่มด้วยเหงื่อ หลังจากเหลือบมองหลินเช่อ เขาก็หันไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโดยเร็ว
เป็นสายจากเลขาของกู้จิ้งหมิงนั่นเอง
“มีอะไร”
[คุณชายรองครับ เราเพิ่งได้รับแจ้งว่าเมื่อคืนนี้มีผู้หญิงบุกรุกเข้ามาจริงๆ คุณชายรู้จักเธอหรือเปล่าครับ]
“รู้จัก หล่อนชื่ออวี๋หมินหมิ่น”
[ใช่เธอเลย คุณชายรอง ไม่ต้องกังวลนะครับ เธอถูกส่งตัวกลับไปแล้วตามคำสั่งของท่านประธานาธิบดี ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยดีแล้วละครับ]
“ดีแล้ว ขอบใจมาก”
[ไม่จำเป็นต้องมากพิธีกับผมหรอกครับคุณชายรอง ท่านประธานาธิบดีฝากความระลึกมาถึงคุณชายกับคุณผู้หญิงด้วยนะครับ ท่านจะกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลกู้ในอีกสองสามวัน ท่านหวังว่าจะมีโอกาสได้พบกับคุณผู้หญิงด้วย]
“อย่างงั้นเหรอ ตกลง เขาจะได้พบเธอแน่ๆ” ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหลินเช่อที่ยังคงยืนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่ที่เดิม
เขาวางสายโทรศัพท์แล้วหันไปหาหลินเช่อ [ผู้จัดการของเธอปลอดภัยดี]
เธอมองหน้าเขา
บนใบหน้าของชายหนุ่มมิได้เหลือร่องรอยความรู้สึกใดๆ ของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงพูดกับเธอและมองหน้าเธอด้วยสายตาใสสว่างเป็นปกติ
แต่เธอกลับจดจำอารมณ์รัญจวนที่เขาทิ้งเอาไว้บนผิวกายเธอก่อนหน้านี้ได้อย่างชัดเจน
โทสะของหญิงสาวปะทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้วและฆ่าเขาซะให้ตายคามือ
เธอกระทืบเท้าปึงปังและตะโกนใส่หน้าเขาว่า “ออกไปให้พ้นเลยนะ คนขี้โกง!”
“…”
ก่อนที่กู้จิ้งเจ๋อจะทันรู้ตัว หลินเช่อก็พุ่งพรวดเข้ามาถึง กำปั้นน้อยๆ ของเธอระดมทุบลงบนร่างเขา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจ็บอะไรนัก แต่ก็น่าหงุดหงิดทีเดียว
ชายหนุ่มได้แต่ถอยหนีพลางมองดูอีกฝ่ายที่กำลังบ้าระห่ำไม่วางตา แม้ว่าเขาจะจัดการหยุดร่างผอมบางตรงหน้าลงได้ไม่ยากเย็น แต่เขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
แต่กลับยอมถูกผลักจนกลับออกมาอยู่นอกห้องในที่สุด
กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้น “หลินเช่อ นี่เธอทำอะไรน่ะ” เขาคว้าข้อมือเธอไว้ แก้มของเธอแดงซ่านร้อนผ่าวไปหมด
เธอจ้องหน้าเขาด้วยดวงตาเขียวปั้ดขุ่นเคือง “คนขี้โกง ออกไปเลยนะ!”
“ขี้โกงงั้นเหรอ” เขานิ่วหน้า “เธอเป็นภรรยาฉัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ฉันทำก็เป็นเรื่องถูกกฎหมาย ไม่ใช่หรือไง”
“…” หลินเช่อถึงกับพูดไม่ออก
กู้จิ้งเจ๋อยังพูดต่อไปอีก “แล้วนี่เธอจะหาแฟนใหม่ยังไงล่ะ โกหกเขาไปว่ายังไม่แต่งงานงั้นเหรอ”
“ฉัน…” หลินเช่อก็แค่คิดเท่านั้น เธอยังไม่ได้ทำจริงๆ สักหน่อย แต่จะให้บอกออกไปตอนนี้ได้ยังไงล่ะ
กู้จิ้งเจ๋อจ้องหน้าเธอด้วยดวงตาดำสนิทล้ำลึก และพูดด้วยเสียงเข้มข้นว่า “ฉันไม่อนุญาตให้เธอมีแฟนตอนนี้”
หัวใจหลินเช่อกระตุก
เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน
กู้จิ้งเจ๋อมองดูเธอ สีหน้าเคร่งขรึมของเขาดูจะยิ่งบึ้งตึงขึ้นไปอีกเมื่อพูดต่อไปว่า “เพราะฉะนั้นขอให้เธอล้มเลิกความคิดนี้เสียจะเป็นการดีกว่า”
หลินเช่อทำท่าจะพูด แต่กู้จิ้งเจ๋อเข้ามาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว “แต่ถ้าเธออยากจะลองดูให้ได้ ฉันก็ขอแนะนำว่าอย่าพยายามยั่วโมโหฉันอีกจะดีกว่า”
แนวกรามของใบหน้านั้นเกร็งแน่น เมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกได้ถึงความคุกคามที่เกิดขึ้นในทันที ทำเอาหัวใจของหลินเช่อเต้นระรัวแรงอยู่ในอก
เธอกวาดตามองไปทั่วทุกทิศ ก่อนจะตัดสินใจผลักเขาสุดแรงเกิด
“อย่าคิดว่าจะเข้ามาทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้แบบนี้ได้อีกนะ เชอะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็ปิดประตูดังโครม
กู้จิ้งเจ๋อถูกขังเอาไว้นอกห้องอีกครั้ง เขามองประตูห้องนอนที่ปิดสนิทแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก
ถูกภรรยาปิดประตูทิ้งไว้นอกห้องนอนเนี่ยนะ
“หลินเช่อ… เธอรอก่อนเถอะ”
กู้จิ้งเจ๋อคำรามงึมงำกับประตูห้อง
เมื่อเขาเห็นสาวใช้เดินผ่านมา ชายหนุ่มก็แกล้งทำหน้าตาย ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนแขก คิดใจในว่าทนนอนที่นี่สักคืนก็คงได้ละมั้ง
หลินเช่อนอนอยู่บนเตียง ยังคงรู้สึกถึงความผ่าวร้อนบนผิวหน้า เธอพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาไม่อาจข่มตาหลับได้ลง
ในขณะเดียวกัน ที่ห้องนอนอีกห้อง ถึงแม้กู้จิ้งเจ๋อจะต้องทนลำบากนอนโซฟามานาน และตอนนี้เขาก็ได้มีโอกาสนอนบนเตียงนอนใหญ่แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวอย่างที่คิด
หลินเช่อที่อยู่ในห้องนอนนั้น จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ล่องลอยอยู่ในอากาศ มันเหมือนเป็นกลิ่นที่อวลออกมาจากตัวเธอ เหมือนกลิ่นอายตัวของผู้หญิง
แต่ในห้องนี้กลับมีเพียงกลิ่นสะอาดสะอ้านของผ้าห่มเท่านั้น ถึงแม้ว่ากลิ่นจะไม่ได้แย่ แต่มันก็ยังคงทำให้เขาอึดอัดอยู่ดีนั่นเอง
ชายหนุ่มผงกหัวขึ้น สัญชาตญาณของเขาอยากจะลุกไปแอบดูยัยคนที่มีท่านอนแย่ที่สุดดูสักหน่อย แต่ก็ได้เห็นแค่เพียงผนังห้องเท่านั้น เขาไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้เลย เขานอนอยู่แบบนั้นเนิ่นนานแค่ไหนก็ไม่รู้ได้จนกระทั่งผล็อยหลับไปในที่สุด
วันต่อมา
การถ่ายทำซีรีส์สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อย หลินเช่อต้องไปที่บริษัทเพื่อประชุมนัดหมายแผนงานต่างๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต
เธอมาถึงบริษัทก่อนเวลาด้วยความสุขสดชื่น เมื่อได้เห็นสีหน้าเซื่องซึมของอวี๋หมินหมิ่น หญิงสาวก็รีบเดินเข้าไปทักทาย “พี่อวี๋คะ เมื่อวานพี่เป็นยังไงบ้างน่ะ อยู่ๆ ก็หายตัวไปกลางคันแบบนั้น”
สีหน้าของอวี๋หมินหมิ่นมีแววของความละอายวูบขึ้นมา เธอเงยหน้าแล้วตอบว่า “เมื่อวานฉันดื่มหนักไปหน่อยน่ะ”
หลินเช่อถามต่อ “ฉันให้คนไปถามหาพี่ พวกเขาบอกว่าพี่บุกเข้าไปในเขตหวงห้ามของท่านประธานาธิบดี แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ยคะ”
อวี๋หมินหมิ่นรวบผมพลางตอบ “ตอนที่ฉันไปถึงที่นั่น ท่านประธานาธิบดียังมาไม่ถึงนะ ฉันก็เลยไม่รู้ว่าเขากันพื้นที่นั้นไว้ไม่ให้เข้าในตอนหลัง โชคดีที่ไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น แล้วพวกเขาก็ส่งฉันกลับบ้าน”
“แค่นั้นเหรอคะ ดีแล้วละค่ะ ดูเหมือนท่านประธานาธิบดีจะเป็นคนดีทีเดียวนะคะ” หลินเช่อว่า
อวี๋หมินหมิ่นยักไหล่โดยไม่แสดงความเห็นแต่อย่างใด ท่าทางเธอยังดูอิดโรยอยู่มาก
หลินเช่อพูด “หลังจากนี้คงจะเป็นเรื่องงานโปรโมตสินะคะ”
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ใช่ พวกเขาพยายามจะออกฉายให้ได้ในช่วงวันหยุดกลางฤดูร้อนน่ะ ถึงแม้ว่างานถ่ายทำจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไอ้ที่วุ่นวายจริงๆ คือหลังจากนี้ต่างหาก เธอต้องเตรียมตัวไว้ให้ดีนะ บริษัทอาจจะจัดให้เธอไปฝึกฝนทักษะการพูดแล้วก็เพิ่มพูนประสบการณ์ไว้สักหน่อย เผื่อว่าเธอจะต้องให้สัมภาษณ์นักข่าว ถ้าเธอได้ออกข่าวโปรโมตคู่กับกู้จิ้งอวี่ละก็ ถึงตอนนั้นพวกนักข่าวจะต้องให้ความสนใจแล้วก็ซักถามกันมากแน่ๆ เธอจะโพล่งออกไปโดยไม่คิดหรือพูดอะไรผิดๆ ไม่ได้หรอกนะ”
หลินเช่อแปลกใจ “ฉันต้องให้สัมภาษณ์ด้วยเหรอคะ”
หญิงสาวคิด เธอเป็นเพียงนักแสดงเล็กๆ และไม่เคยให้สัมภาษณ์นักข่าวเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “แน่ละสิ เธอเป็นตัวละครหลักของเรื่องนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ดารานำก็เถอะ แต่เธอก็ได้ปรากฏตัวอยู่หลายฉากทีเดียว อีกอย่าง ข่าวของเธอกับกู้จิ้งอวี่จะต้องกลายเป็นพาดหัวข่าวแน่นอนอยู่แล้ว”
หลินเช่อรู้สึกกระอักกระอ่วน เธอได้ตกเป็นข่าวพาดหัวทั้งที่ยังไม่มีผลงานออกมาด้วยซ้ำ หญิงสาวไม่รู้เลยว่าเธอควรจะดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้ดี