เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 88
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังสามารถมองเห็นบรรดาบอดี้การ์ดที่ยืนเรียงรายกันอยู่ด้านหลัง เป็นภาพที่สร้างความหวาดหวั่นได้ไม่น้อยทีเดียว แต่เธอก็ยังไม่อยากเชื่อ เธอมองหลินเช่ออย่างเหยียดหยามและพูดขึ้นว่า “หลินเช่อ นังแพศยา แค่เพราะเดี๋ยวนี้แกมีเงินขึ้นมาก็เลยจะมาจัดฉากหาเรื่องฉันแบบนี้รึ ถ้าฉินชิงรู้เข้าเขาจะต้องตามมาจัดการแกแน่”
นังแพศยางั้นเหรอ
กู้จิ้งเจ๋อส่งสายตาให้บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างตัว บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ก้าวออกไปและเงื้อมือตบเข้าที่หน้าของเฉินเหม่ยลี่ดังฉาดใหญ่ทันที
แก้มของเฉินเหม่ยลี่ร้อนผ่าว สีหน้ายิ่งบอกว่าชัดไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
หมอนี่กล้าตบเธอเลยเชียวเหรอ
“แก…แกกล้าตบฉันรึ ขอให้จำไว้ด้วยล่ะว่าตระกูลฉินไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่”
หล่อนทำท่าจะกระโจนใส่เขา แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดร่างใหญ่ขวางเอาไว้
กู้จิ้งเจ๋อยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เขาพูดโดยไม่มีความปรานีหลงเหลืออยู่ในน้ำเสียงแม้แต่น้อยว่า “ขออภัยด้วย บอดี้การ์ดของผมออกจะใจร้อนเกินไปหน่อย บางทีอาจเป็นเพราะผมสั่งเอาไว้ว่าถ้ามีใครบังอาจดูถูกคุณหลินก็ขอให้จัดการตบซะให้ปากฉีกทันที เดี๋ยวผมจะกลับไปอบรมพวกเขาใหม่”
เฉินเหม่ยลี่สั่นไปทั้งตัว ใบหน้ายิ่งบึ้งตึง
“แก…นี่แกกล้าพูดแบบนี้กับฉันรึ แกคิดว่าจะมาหยามตระกูลฉินได้ง่ายๆ แบบนี้เหรอ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มน้อยๆ “คุณนายฉินครับ ผมมั่นใจว่าคนตระกูลฉินเป็นคนมีเหตุผล แต่นี่คุณทำรถที่ผมเพิ่งซื้อให้หลินเช่อพัง แถมยังพูดจาดูถูกเธอแต่กลับมาบอกว่าผมต่างหากที่กำลังดูถูกคุณอย่างนั้นหรือครับ”
“แก…แกวางแผนหลอกฉัน ฉันไม่ได้ทำรถพังซะหน่อย ฉันต้องการเรียกตำรวจ หมอนี่กำลังใส่ร้ายฉัน!”
สีหน้าของเฉินเหม่ยลี่เปลี่ยนไปในทันที
กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายว่า “ได้เลยครับ ว่าแต่ตำรวจมาถึงหรือยัง คุณนายต้องการที่จะแจ้งความ”
“ท่านครับ ตำรวจมาถึงแล้ว”
ทันใดนั้นเอง กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดเครื่องแบบตำรวจก็รีบเร่งเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
เมื่อเฉินเหม่ยลี่เห็นเข้า เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “คนพวกนี้วางแผนหลอกฉันแล้วก็ไม่ยอมให้ฉันไป มีคนหนึ่งตบหน้าฉันด้วย ฉันต้องการให้ตรวจดูอาการบาดเจ็บ!”
ตำรวจมองดูเฉินเหม่ยลี่ด้วยท่าทีสับสน
เฉินเหม่ยลี่จึงพูดต่อไปอีก “ฉันเป็นคุณนายตระกูลฉิน ฉันต้องการพบหัวหน้าของพวกเธอ เขาต้องรู้จักสามีฉันแน่ๆ สามีของฉันเป็นประธานของตระกูลฉิน ฉินเม่าเซิง”
อย่างไรก็ตาม ตำรวจเพียงแค่ปรายตามองเฉินเหม่ยลี่เพียงเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินตรงเข้าไปหากู้จิ้งเจ๋อ “คุณกู้ครับ ขออภัยในความไม่สะดวก เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอครับ”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองไปทางเฉินเหม่ยลี่ “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนที่ฉันมาถึงผู้หญิงคนนี้ก็กำลังอาละวาดใหญ่โตแล้ว เธอบอกว่าเธอมาจากตระกูลฉินและไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ เธอยังทำรถคันใหม่ของฉันเป็นรอยด้วย”
ตำรวจหันไปหาเฉินเหม่ยลี่แล้วพูดว่า “คุณนายฉินครับ คุณทำผิด เราต้องทำตามกฎหมาย คุณทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นเพราะฉะนั้นเราจะต้องนำตัวคุณกลับไปกับเราเพื่อทำการสืบสวนเพิ่มเติม ได้โปรดตามเรามาด้วย”
“แก…แกนี่มัน” เมื่อเฉินเหม่ยลี่เห็นตำรวจตรงเข้ามาจะจับกุมตัว เธอก็ตื่นตระหนกสุดขีดแล้วหันไปหากู้จิ้งเจ๋อ “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะสามารถพลิกโลกได้ ถึงแกจะเป็นกู้จิ้งเจ๋อแล้วยังไงล่ะ พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันละก็ฉันไม่ปล่อยไว้พวกแกแน่”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเย็น “แต่ผมก็กำลังพลิกโลกอยู่ตอนนี้นี่ยังไงล่ะครับ ถ้าไม่เชื่อคุณนายฉินจะลองทดสอบด้วยตัวเองดูก็ได้”
เฉินเหม่ยลี่จ้องมองท่าทีไม่อนาทรร้อนใจของอีกฝ่ายก่อนจะยอมจำนนอย่างจำใจ นี่ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างที่สุด
ผู้ชายคนนี้กุมโลกทั้งใบเอาไว้ในมือได้จริงอย่างนั้นเหรอ
คนพวกนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจเลยว่าตระกูลฉินจะยิ่งใหญ่แค่ไหนและตรงเข้ามานำตัวเธอไปอยู่ดี
หลินลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าพูดอะไร เธอได้แต่จ้องมองกู้จิ้งเจ๋อจนลูกตาแทบถลนออกมา เธอสาละวนช่วยยื้อยุดฉุดดึงเฉินเหม่ยลี่จนเหนื่อยหอบ ดูแล้วน่าสงสารอย่างยิ่ง เสื้อผ้าหลุดลุ่ยลงมาจนเห็นเนินไหล่ โชคยังดีที่เธอแต่งหน้ามาด้วยเครื่องสำอางอย่างดีที่สุด เธอหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อที่ยืนสูงสง่าทรงอำนาจด้วยความรู้สึกริษยา หญิงสาวไม่อาจห้ามความชื่นชมที่ฉายชัดออกมาทางใบหน้าได้ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีโอกาสได้พบเจอบุคคลสูงส่งเช่นนี้ ตระกูลฉินแม้ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่ระดับบีที่ไม่ใช่ใครจะแตะต้องกันได้ง่ายๆ และทุกคนก็ต้องอิจฉาเธอ แต่เมื่อเทียบกับตระกูลกู้แล้ว ตระกูลฉินก็แทบจะไร้ค่าไปเลย คนธรรมดาไม่มีวันได้มาถึงจุดนี้ เขาเป็นบุคคลที่เธอทำได้เพียงแค่ฝันถึงเท่านั้น
แต่วันนี้ผู้ชายอย่างเขามาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว และเขายังดูดีอย่างเหลือเชื่อ ใครกันที่จะห้ามใจไม่ให้หลงเสน่ห์เขาได้
หลินลี่กระพือขนตาและพยายามใช้น้ำเสียงยั่วยวนใจขณะเอ่ยขึ้นว่า “คุณกู้คะ ฉันหวังว่าคุณจะกรุณาปล่อยคุณน้าไปเพื่อเห็นแก่ฉันด้วยเถอะค่ะ ท่านพูดจาไม่ทันคิดแต่ท่านไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าอย่างนั้น”
เฉินเหม่ยลี่คิดว่าหลินลี่ช่างน่ารักเหลือเกินที่อุตส่าห์เสนอตัวมาช่วยเธอจากกู้จิ้งเจ๋อ เธอหันไปมองลูกสะใภ้ด้วยสายตาซาบซึ้งใจ
แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับไม่แม้แต่จะหันไปมองหลินลี่สักวินาทีเดียว หญิงสาวอุตส่าห์รวบรวมเสน่ห์ทั้งหมดที่มีมาใช้ แต่กลับได้รับเพียงคำถามดุดันกลับมาว่า “เธอเป็นใคร”
หลินหลี่ผงะ
“ฉะ…ฉันเป็นพี่สาวของหลินเช่อค่ะ เราเคยเจอกันมาก่อนแล้ว ฉันยังเป็นดาราเหมือนกับหลินเช่อด้วย” หลินลี่รีบก้าวออกมาข้างหน้า
แต่บอดี้การ์ดกลับออกมาขวางเอาไว้ไม่ให้เธอเข้าไปใกล้กู้จิ้งเจ๋อได้
ชายหนุ่มพ่นลมออกทางจมูกแล้วมองหน้าหลินลี่ “เสียใจด้วย ฉันไม่รู้จักดารา หลินเช่อเองก็ไม่มีพี่สาว ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องเธอมาก่อนเลย” เมื่อพูดจบ เขาก็คว้าข้อมือหลินเช่อเพื่อแสดงความสนิทสนมใกล้ชิดให้ได้เห็นอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาตำรวจ “ฉันจะปล่อยให้พวกนายจัดการกับคนที่เหลือพวกนี้ก็แล้วกัน”
จากทางด้านหลัง พนักงานของร้านรีบถามขึ้นว่า “คุณกู้ครับ แล้วเรื่องรถจะทำยังไงดีครับ จะให้พวกเราช่วยจัดการรอยที่เกิดขึ้นให้หรือเปล่า”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ฉันจะเอาของที่เสียหายแล้วแบบนั้นให้ผู้หญิงของฉันได้ยังไงกันล่ะ โดยเฉพาะเมื่อมันโดนคนอื่นแตะต้องมาแล้วแบบนั้น ฉันไม่อยากให้หลินเช่อรู้สึกสกปรกเวลานั่งรถคันนี้ เอามันไปทิ้งซะ แล้วช่วยสั่งคันใหม่ที่เหมือนกับคันนี้ แล้วเอาไปส่งให้ที่บ้านฉันด้วยก็แล้วกัน”
ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันประหลาดใจและมองตามหลังกู้จิ้งเจ๋อที่เดินออกไปพร้อมหลินเช่อโดยไม่หันหลังกลับมามองอีก พนักงานและคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ช่วยคุมตัวเฉินเหม่ยลี่เอาไว้ต่างก็ช่วยกันเคลียร์พื้นที่ พนักงานต่างหันมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยสายตาชื่นชม
นี่ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงแต่อย่างใด กู้จิ้งเจ๋อช่างน่าทึ่งเหลือเกิน เขาหล่อเหลาและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง
หลินเช่อช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ที่ได้อยู่เคียงข้างเขา
หลินลี่กัดฟันแน่นและจ้องมองด้านหลังของหลินเช่อด้วยความชิงชัง หล่อนอยากจะฉีกหลินเช่อออกเป็นชิ้นๆ
เมื่อมองดูกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็ต้องปั่นป่วนใจ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายในอารมณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากมายและทรงอำนาจมากขนาดนี้ เขาเป็นบุรุษผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศนี้อย่างไม่มีคู่แข่งเลยจริงๆ
เฉินเหม่ยลี่ยังคงฟาดงวงฟาดงา เธอยังคงตกใจที่ต้องถูกจับกุมตัวและถูกเด็กเมื่อวานซืนอย่างหลินเช่อเล่นงานเอาแบบนี้
ที่แย่ที่สุดก็คือหลินเช่อมีคนอย่างกู้จิ้งเจ๋อคอยเคียงข้าง ทำให้เธอไม่มีทางจะกำจัดเด็กนั่นได้เลย