เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 90
หลินลี่เองก็โพสต์ลงวีแชทด้วยเช่นกัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ได้เห็นหลินเช่อโพสต์รูปรถของตัวเอง ซึ่งทำให้เธอไม่สบอารมณ์เลยทีเดียว ทั้งเธอและหลินเช่อต่างก็อยู่ในแวดวงผู้คนเดียวกัน มีเพื่อนร่วมกันในวีแชทอยู่หลายคน และหลินลี่ก็ได้เห็นพวกเขาเข้าไปแสดงความเห็นที่ใต้รูปถ่ายว่าสวนหลังบ้านของหลินเช่อนั้นใหญ่แค่ไหน เธอเดาเอาว่านั่นน่าจะเป็นบ้านของกู้จิ้งเจ๋อ
บ้านของเขาคงจะหลังมหึมาเลยทีเดียว
ทำไมนังเด็กแพศยาถึงได้ไปอยู่ในที่แบบนั้นได้นะ มันดีเกินไปสำหรับคนอย่างนังนั่น
หลินเช่อเฝ้าลูบคลำรถไม่วางมือ อยากจะลองขับเสียเต็มประดา แต่โชคร้ายที่เธอยังไม่มีโอกาสได้เรียนขับรถเสียที
เธอหันมาหากู้จิ้งเจ๋อแล้วถามว่า “โดยทั่วไปแล้ว เขาใช้เวลาเรียนขับรถกันนานแค่ไหนเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ถ้าเธออยากเรียน ฉันจะสอนให้ตอนนี้เลยก็ได้ มันไม่น่าจะหัดยากเท่าไหร่”
“จริงเหรอคะ”
“อันที่จริงการขับรถก็ไม่ได้ยากอะไรหรอก เราแค่ต้องไปหาถนนว่างๆ ฉันจะสอนเธอหัดขับที่นั่นเอง”
“เยี่ยมเลยค่ะ” หลินเช่อกระโดดขึ้นๆ ลงๆ พลางจับมือเขาไว้
ไม่ช้าทั้งคู่ก็ออกจากบ้านโดยมีกู้จิ้งเจ๋อเป็นคนขับ รถสปอร์ตนั้นคันเล็กนิดเดียว กู้จิ้งเจ๋อจึงอึดอัดไม่น้อยทีเดียวเมื่อต้องเข้าไปนั่งอยู่ในนั้น หญิงสาวนึกกระดากใจที่ได้เห็นร่างสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของเขาต้องเบียดเสียดเยียดยัดตัวเองเข้าไปในรถคันเล็กๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมปกติเขาขับแต่รถซีดาน
หลินเช่อขมวดคิ้วและถามกู้จิ้งเจ๋ออีกครั้งว่า “ตกลง ไอ้การหัดขับรถมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ หลังจากที่ครูสอนขับรถอธิบายทุกอย่างให้ฉันเข้าใจเพียงครั้งเดียว ฉันก็สามารถขับไปรอบๆ ได้เลย แต่คำนวณจากระดับสติปัญญาอย่างเธอ ฉันคิดว่าคงต้องเรียนกันสักครึ่งวันละนะ”
หลินเช่อพยักหน้า รู้สึกมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
แต่ทว่า
เมื่อเริ่มเรียนกันได้เพียงไม่กี่นาที…
“หลินเช่อ นั่นมันฝาถังน้ำมันไม่ใช้คันเร่ง”
“หลินเช่อ ปล่อยพวงมาลัยก่อนสิ!”
“หลินเช่อ นั่นนี่เธอจะเลี้ยวไปไหน อยากตายหรือยังไง”
การสอนยิ่งทวีความโหดร้ายมากขึ้นทุกขณะที่เขาตะคอกใส่เธอ แต่ยิ่งถูกตะคอกเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายหญิงสาวจึงหันไปมองหน้าคนสอนแล้วพูดว่า “กู้จิ้งเจ๋อ คุณอย่าขึ้นเสียงใส่ฉันสิ มันทำให้ฉันตกใจรู้มั้ย”
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วหนักมองดูผู้หญิงตรงหน้า เขาคงจะประเมินสติปัญญาของเธอสูงเกินไป
“ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่โง่เง่าเท่าเธอมาก่อนเลย!”
“ก็ถ้าฉันโง่แล้วจะทำไมล่ะ” เธอท้าทาย
“เธอนี่มัน…” กู้จิ้งเจ๋อไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ด้อยสติปัญญาเท่านี้ แล้วก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ทั้งเอะอะมะเทิ่งแถมยังไม่รู้จักอายเหมือนเธอด้วย
ชายหนุ่มคิดว่าเธอช่างเป็นคนที่ไม่เหมือนใครเสียเลยจริงๆ เธออาละวาดเกรี้ยวกราดเสียจนเขาคิดว่าบางทีน่าจะบีบคอเธอให้ตายเสียเลยน่าจะง่ายกว่า
“เธอช่วยทำให้มือกับขาทำงานประสานกันหน่อยได้มั้ย!” กู้จิ้งเจ๋อไม่อาจอดทนต่อไปได้อีกแล้ว
หลินเช่อมองหน้าเขาอย่างสิ้นหวัง “ฉันทำไม่ได้นี่คะ จะให้ทำยังไงล่ะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าอย่าตะคอก คุณอาจจะเป็นอัจฉริยะแต่ไม่ใช่ว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนคุณนี่!”
“เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ…” เขาพึมพำ “ฉันคิดผิดเองนั่นแหละ อย่างเธอนี่คงต้องหัดอีกหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย!”
“…” หลินเช่อทำตาขวางใส่ “ถ้าไม่อยากสอนฉันก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาตะคอกใส่ฉันนะ ฉันไม่อยากเรียนกับคุณแล้ว!”
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะหันกลับมาเมื่อหลินเช่อพูดต่อไปว่า “โม่ฮุ่ยหลิงของคุณคงจะต้องฉลาดมากแน่ เธอคงจะเรียนครั้งเดียวก็เป็นเลย ทำไมคุณไม่ไปสอนเธอแทนละคะ!”
กู้จิ้งเจ๋อชะงัก มองดูใบหน้าง้ำงอของอีกฝ่าย เขากัดฟันแน่นจนได้ยินเสียง
เขาจ้องหน้าเธอก่อนจะเปิดประตูรถและก้าวลงไป
และไม่หันกลับมามองอีก ชายหนุ่มกระแทกประตูปิดโครมใหญ่แล้วเดินหนีไปเสียอย่างนั้น
จบกัน เขาโกรธใหญ่แล้ว
หลินเช่อนึกโกรธตัวเอง ทำไมเธอจะต้องหาเรื่องยั่วโมโหเขาด้วยการพูดถึงโม่ฮุ่ยหลิงด้วยนะ เขาไม่ได้กำลังสอนโม่ฮุ่ยหลิงเสียหน่อย เขากำลังสอนเธอต่างหาก ถ้าเขาทำได้ เขาน่าจะเลือกยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวด้วยการเอาเวลาไปอยู่กับโม่ฮุ่ยหลิงเสียยังจะดีกว่า แล้วทำไมเขาถึงต้องมาเสียเวลากับเธอด้วย หลินเช่อคิดได้แล้วว่าเธอเป็นฝ่ายผิด เธอโง่เอง ทั้งควบคุมมือเท้าไม่ได้ แถมยังความจำแย่อีกต่างหาก โดยเฉพาะเวลาที่เธอมองดูแผงควบคุมทั้งหลายของรถ แค่นั้นก็ทำเอาเธอแทบจะเป็นลมแล้ว
เธออยากเรียนรู้ให้เร็วแต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้
ผ่านไปสักพักหนึ่ง
กู้จิ้งเจ๋อก็รู้สึกได้ว่าหลินเช่อกำลังวิ่งตามมาข้างหลัง เธอคว้ามือเขาไว้แล้วพูดว่า “กู้จิ้งเจ๋อ อย่าโกรธไปเลยนะ ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง คุณจะมาโกรธฉันเพราะเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”
สีหน้าของชายหนุ่มยังคงมึนตึงใส่ ไร้ซึ่งอารมณ์
ใบหน้านั้นแม้จะดูดีไร้ที่ติแต่ก็เย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
หลินเช่อจับมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อยขณะวิ่งไปดัก “อย่าไปเลยนะคะ กู้จิ้งเจ๋อ นี่ฉันกำลังพูดกับคุณอยู่นะ”
กู้จิ้งเจ๋อสะบัดมือหนี “ปล่อย!”
“กู้จิ้งเจ๋อ!”
“ปล่อยฉัน!” เขาพูดเสียงเรียบ
หลินเช่อกัดฟันแล้วพยายามดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้ “ไม่ ฉันไม่ยอมปล่อยหรอก” เธอกางแขนออกขวางทางเอาไว้แล้วพูดว่า “คุณสามีคะ ฉันผิดเอง อย่าโกรธเลยนะ ตกลงมั้ย”
หลินเช่อเปลี่ยนแผน เธอหันมาใช้จริตมารยาแทนเมื่อจับมือเขาไว้แล้วโยกตัวไปมา ทำปากยื่น มองเขาด้วยตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากชุ่มฉ่ำเหมือนผลไม้สุกนั้นแย้มเป็นรอยยิ้มหวาน
กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้าก่อนจะหันมา “ฉันบอกให้ปล่อยไง”
“ไม่ ไม่ปล่อย ฉันไม่ยอมปล่อยหรอก จนกว่าคุณสามีจะบอกว่าไม่โกรธฉันแล้ว”
“เธอ…”
“พูดสิคะ นะ น้า คุณสามี มองหน้าฉันสิคะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อไม่มีทางเลือก เขาหันหน้ามามองหลินเช่อที่กำลังทำท่าเหมือนลูกสุนัขกระดิกหางดิกๆ และไม่ยอมปล่อยมือ
โดยเฉพาะเมื่อเธอเรียกเขาว่าคุณสามีด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลยวนใจเหมือนขนมสายไหมก็ไม่ปาน เป็นใครจะทำใจแข็งอยู่ได้อีกล่ะ
กู้จิ้งเจ๋อสูดหายใจเข้าลึกและคิดว่า หลินเช่อช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ
ทำไมเขาถึงได้โชคร้ายมาแต่งงานมีเมียแบบนี้ได้นะ
“เอาเถอะ ฉันจะช่วยเอาบุญก็แล้วกัน ถึงยังไงฉันก็ตั้งใจจะทำเรื่องดีๆ อยู่แล้ว ด้วยระดับสติปัญญาที่ต่ำเตี้ยอย่างเธอ ฉันจะพยายามทำความเข้าใจก็แล้วกัน” กู้จิ้งเจ๋อยอมผ่อนคลายในที่สุด
หลินเช่อแค่นยิ้ม มองหน้ากู้จิ้งเจ๋ออย่างมีน้ำโห “คุณจะช่วยพูดให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไง”
กู้จิ้งเจ๋อเดินกลับมาที่รถ เขามองดูหลินเช่อที่กำลังจับพวงมาลัย เธอเงยหน้าขึ้นและรอฟังคำสั่งจากเขา ชายหนุ่มยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันมีความคิดใหม่ที่จะช่วยให้เธอเรียนได้เร็วขึ้น”
“อะไรเหรอคะ”
“เราจะใช้วิธีให้รางวัลกับลงโทษ”
“หือ”
“ถ้าเธอทำถูก ฉันจะให้รางวัลเธอ”
“ให้รางวัลฉันด้วยอะไรคะ” ดวงตาของหลินเช่อเป็นประกายวับ เมื่อได้ยินคำว่า ‘รางวัล’ เธอมองกู้จิ้งเจ๋ออย่างกระตือรือร้น
กู้จิ้งเจ๋อมองริมฝีปากอิ่มเต็มของอีกฝ่าย ก่อนจะแตะจูบลงมาเบาๆ
หลินเช่อตกตะลึงขณะที่คนจูบยิ้มและพูดว่า “ฉันจะให้รางวัลเธอด้วยจูบ”
“…” หน้าคนโดนจูบแดงก่ำ “กู้จิ้งเจ๋อ!”