เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1024
บทที่1024 คุณภรรยาเย่ช่างร้อนแรง
เย่โม่เซินในตอนนี้ เขาสามารถฝืนยืนได้ขนาดนี้ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ถือว่ามีความอดทนมากที่สุดแล้ว ดังนั้นตอนที่เขาตอบตกลงลงหานมู่จื่อว่าจะไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ด้วย ดูเหมือนหานมู่จื่อก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงเดินเข้าไปจับแขนของเขาไว้
หากจะบอกว่าเป็นการจับแขน ควรจะพูดว่าประคองเสียยังดีกว่า เพราะเกรงว่าเขาจะหกล้มลง
เมื่อสังเกตว่าหล่อนประคองแขนของเขาไว้ เย่โม่เซินจึงขมวดคิ้วมากขึ้น
ที่แท้หล่อนก็สังเกตเห็นแล้ว
เพียงแค่หล่อนไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น
เขาไม่อยากให้หล่อนเห็นตอนที่ตัวเองปวดหัวอีก เพียงแค่ไม่อยากทำให้หล่อนต้องเป็นห่วง แต่หล่อนก็รู้ใจเขาเป็นอย่างดี จึงยอมรับและเข้าใจการกระทำของเขา จากนั้นจึงค่อยๆปรับใช้วิธีของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ
ช่างเอาใจใส่เสียเหลือเกิน
ผู้หญิงของเย่โม่เซิน
เมื่อคิดถึงตอนนี้ จู่ๆเย่โม่เซินก็หยุดนิ่ง ไม่เดินต่อ
หานมู่จื่อตกใจตะลึง ถามขึ้นมาทันที: “หรือคุณจะรอฉันอยู่ตรงนี้ ฉันไปเองก็ได้ค่ะ? คุณสบายใจได้ ฉันจะกลับมาอย่างรวดเร็ว”
แม้ว่าหล่อนมีเจตนาจะเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ตอนนี้เย่โม่เซินที่พยายามฝืนทนความเจ็บปวดไว้ หากหล่อนยังอยู่ตรงนี้ต่อ เขาคงไม่สามารถเลิกเสแสร้งความเจ็บปวดได้ ต้องฝืนทนแสดงเช่นนี้ต่อไป
ทันใดนั้นเอง ริมฝีปากซีดขาวของเย่โม่เซินกระตุกขึ้น ก้มหน้าลงจ้องไปที่หล่อน
“รู้สึกไม่สบายจริงๆ”
หานมู่จื่อยิ้มเจื่อนขึ้น เหม่อมองเย่โม่เซิน คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆเขาจะพูดระบายกับตัวเองตรงๆ ตอนนั้นหล่อนไม่รู้ว่าควรจะตอบเขายังไง จึงทำได้แต่เหม่อมองดูเขา
“อย่าไปไหน? นะ?”
เขาโน้มตัวลงมา ซบหน้าลงไปที่ซอกคอของหล่อน ดมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์บนตัวหล่อน รู้สึกว่าอาการปวดหัวดีขึ้นมาก หานมู่จื่อก็คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะพูดสารภาพออกมาตรงๆแบบนี้ และยังไม่ให้หล่อนไปไหนอีกด้วย เมื่อหล่อนตั้งสติขึ้นมาได้ จึงยื่นมือออกมากอดเขาไว้
“โอเค ฉันไม่ไปไหนแล้ว งั้นฉัน…เข้าไปนั่งด้านในห้องกับคุณนะ”
“อืม”
ในที่สุด เย่โม่เซินก็เข้ามาในห้องด้วยการช่วยประคองจากหล่อน หลังจากหานมู่จื่อให้เขานั่งลงก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของเขายังดูแย่มาก จึงหันหลังกลับไป: “ฉันไปเอาน้ำให้คุณก่อนนะ”
นอกจากเย่โม่เซินจะรู้สึกเจ็บปวดแล้ว เมื่อเขาหันไปมองหล่อน เห็นหล่อนวิ่งด้วยความร้อนรน อดไม่ได้ที่จะขยับปากพูดอะไรบางอย่าง ภาพตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ชายร่างใหญ่เอนตัวพิงบนโซฟาอย่างหมดแรง
แม้ว่าหานมู่จื่อจะเดินอย่างรีบร้อน แต่ยังมีความมั่นคงอยู่ หล่อนยังจำได้ดีว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นต้องคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา หล่อนเดินไปห้องครัวชั้นล่าง ขณะที่กำลังหาน้ำให้เขา ก็พบว่าที่นี่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีแม้แต่น้ำร้อน
อีกอย่างกาต้มน้ำก็ถูกเก็บไปแล้ว หานมู่จื่อหาอยู่นานสักพักใหญ่จึงหาเจอในตู้ จากนั้นหล่อนจึงนำมาล้างให้สะอาด ลวกน้ำร้อนก่อน และต้มน้ำใหม่อีกครั้ง เพราะไม่ได้ใช้การมานานหลายปี หล่อนจึงกังวลว่าจะมีปัญหา
ระหว่างรอต้มน้ำ หานมู่จื่อจึงใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ กลับขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง
เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องครัว หล่อนกลับหันไปหยิบกาต้มน้ำ และหยิบแก้วขึ้นไปด้านบน
เย่โม่เซินนอนอยู่บนโซฟา ดวงตาที่ยาวเรียวถูกปิดลง ขนตาสั่นเล็กน้อยในอากาศ
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เขาคุยกับเจสันเกี่ยวกับการจำลองสถานการณ์เพื่อกระตุ้นความทรงจำ จิตใจของเขาก็ดูแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าในชีวิตที่เป็นปกติคงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน
แต่ตอนนี้หากมีอะไรมากระทบเขานิดหน่อย จิตใจของเขาจะต้องแบกรับความทรมานอย่างมหาศาล
เป็นความรู้สึกที่อยากจะคิดออก แต่ก็คิดไม่ออก จนแทบจะทำให้จิตใจของเขาแตกสลาย
มู่จื่อ…
ยังไม่กลับมา เย่โม่เซินได้แต่นอนอ้าปากเงยหน้ามองเพดานสีขาว
แม้ว่าการทำเช่นนี้ทำให้จิตใจของเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ก็ทำให้ความทรงจำของเขาฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย
โดยเฉพาะหลังจากที่กลับมาในประเทศ ครั้งที่แล้วตอนเจอเมิ่งเส่โยว และครั้งนี้ที่กลับมาที่บ้านตระกูลเย่
เขาจำเรื่องราวได้มากมาย แต่ยังไม่ครบทั้งหมด
เมื่อไหร่กันนะ ที่เขาจะสามารถนึกเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาได้?
ตอนที่หานมู่จื่อกลับมา เย่โม่เซินก็นั่งขึ้นมาแล้ว เขานั่งตัวตรงอยู่บนโซฟา นอกจากสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีนัก รูปร่างลักษณะภายนอกก็ดูเหมือนคนปกติทั่วไป
หานมู่จื่อนำกาน้ำร้อนไปตั้งไว้บนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นเสียบปลั๊ก และเดินไปหาเย่โม่เซิน
“ที่นี่ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ก็เลยไม่มีน้ำร้อน ต้องต้มใหม่อีกรอบ คุณรอสักครู่นะ”
หานมู่จื่อนั่งลงด้านข้างเขา ขณะที่กำลังอธิบายให้เขาฟัง ยังใช้มือเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้เขาด้วยความใส่ใจ หล่อนลงไปด้านล่างเพียงไม่นาน หน้าผากของเขาก็มีเหงื่อออกมากขนาดนี้ ดูแล้วคงไม่สบายมากจริงๆ
หานมู่จื่อรู้สึกเป็นห่วงเขา จนอดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปาก จากนั้นถามเขา: “หรือว่า…พวกเราไปโรงพยาบาลกันไหม?”
เย่โม่เซินยิ้มเล็กน้อย จับมือของหล่อนที่กำลังเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของตัวเองอย่างขะมักเขม้น ดึงมาอยู่ตรงหน้า จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าขาวสะอาดจากกระเป๋าเสื้อออกมา ค่อยๆเช็ดมือให้หานมู่จื่อด้วยความตั้งใจ
“…นี่คือ…” หานมู่จื่อไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร จึงมองเขาด้วยความสงสัย
“สกปรก” ราวกับได้ยินความสงสัยของหล่อน เย่โม่เซินจึงพูดอธิบายให้หล่อนเข้าใจ
หานมู่จื่อเข้าใจขึ้นมาทันที ที่แท้เขาก็หมายความว่าหล่อนช่วยเขาเช็ดเหงื่อนั้นสกปรก ดังนั้นจึงเช็ดมือให้หล่อน เหตุผลนี้ทำให้หล่อนถึงกับพูดไม่ออก จนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย: “คุณพูดอะไรของคุณ? ฉันไม่รังเกียจคุณเลยสักนิด”
“อืม” เย่โม่เซินพยักหน้า “ผมรู้”
แต่เขารังเกียจตัวเขาเอง
ตอนนี้ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เขาสูญเสียความทรงจำ แต่อาการปวดหัวอยู่บ่อยๆจนต้องทำให้คนท้องอย่างหล่อนต้องแบกรับความกลัวไว้แทน หากเป็นไปได้ เขาอยากจะแก้ไขเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่…เขาทนเก็บซ่อนต่อหน้าหล่อนไม่ได้
เพราะทั้งสองเป็นคนรักของกันและกัน
แม้ว่าเขาจะรู้ แต่ยังคงเช็ดมือให้หล่อนด้วยท่าทีที่อ่อนโยนและตั้งใจ เมื่อหานมู่จื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา จึงดึงมือกลับ จากนั้นขยับตัวเข้าไปกอดคอของเขา และจูบลงบนหน้าผากเขา
เย่โม่เซินตกตะลึงกับจูบของหล่อน เมื่อเขาตั้งสติขึ้นมาได้ หานมู่จื่อก็ขยับตัวออกไปแล้ว และคอยจ้องมองเขาอยู่ไม่ห่าง สายตาและอารมณ์เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าคุณเป็นแบบนี้อีก ฉันจะโกรธแล้วนะ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่รังเกียจคุณ คุณยังจะเช็ดให้ฉันอีก เช็ดอะไรกันนักหนาคะคุณ?”
ไม่รังเกียจก็คือไม่รังเกียจ เพียงแต่เย่โม่เซินคิดไม่ถึงว่าหล่อนจะใช้วิธีนี้เพื่อมาพิสูจน์ให้เขาเห็น ความคิดช่างไร้เดียงสาและซื่อบื้อเสียจริง ทำให้เขา…ทำตัวไม่ถูก
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ใกล้ๆ และกำลังเบ้ปากมองเขาด้วยความโกรธเคืองอยู่
หัวของเย่โม่เซินร้อนผ่าว ยื่นมือไปโอบหล่อน ดึงหล่อนเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง
“ว๊าย…” หานมู่จื่อยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเย่โม่เซินดึงไปกอดไว้ในอ้อมอก หล่อนนั่งอยู่บนขาของเขา และยังค้างอยู่ในท่าที่หล่อนกอดคอเขาไว้เมื่อครู่ เมื่อนั่งอยู่ในท่านี้แล้ว ถือได้ว่าเป็นท่าทางที่ดูสนิทสนมรักใคร่กันมาก
เมื่อทั้งสองขยับเข้ามาอยู่ใกล้กัน เย่โม่เซินใช้มือใหญ่ของเขาลูบไปที่ใบหน้าของหล่อน นิ้วโป้งค่อยๆลูบไล้ไปที่ริมฝีปากหล่อน สายตามองดูอย่างลึกซึ้ง: “ในเมื่อคุณภรรยาเย่ร้อนแรงดุจเปลวไฟขนาดนี้ งั้นผมก็จะสนองให้เต็มที่เลยนะครับ”