เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1089
บทที่1089 ฉันจะไม่ทำอะไรเกินตัวอีกแล้ว
เสี่ยวเหยียนสูดหายใจเข้าลึก รวบรวมความกล้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองหานชิง
“คุณวางใจเถอะ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น และจะไม่ไปบอกคนอื่นด้วย”
หานชิงจ้องเธออย่างไม่มีสุ้มเสียง
“ที่เธอจะพูด มีแค่นี้เหรอ”
เสี่ยวเหยียนกะพริบตาปริบๆ แล้วมองหานชิงอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
ถ้าไม่อย่างนั้นเล่า ? ยังจะให้พูดอะไรอีก เสี่ยวเหยียนครุ่นคิดอย่างละเอียด จู่ๆก็เข้าใจอะไรขึ้นมาได้
หลินซิงหั่วสารภาพความในใจกับหานชิง ส่วนหานชิงก็พบตัวตนของเธอเข้า คิดว่าเธอมาแอบฟัง ดังนั้นเลยคิดว่าพอเธอได้ฟังแล้วจะรู้สึกมีความหวัง ดังนั้นเลยรั้งเธอเอาไว้ เพื่อให้เธอยืนยันว่าต่อไปจะไม่มาตามตอแยเขาอีกใช่ไหม
เขากลัวขนาดนั้นเลยหรือ
ถึงแม้จะตัดสินใจยอมแพ้แล้ว แต่พอได้มาเห็นหานชิงเป็นแบบนี้ ในใจของเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มาก
แต่ไม่สบอารมณ์ก็ส่วนไม่สบอารมณ์ สุดท้ายเสี่ยวท้ายก็ฝืนกัดฟันพูด พร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้น
“ฉันขอสัญญากับคุณ ว่าจะไม่พูดเรื่องในวันนี้ออกไปเด็ดขาด เมื่อกี้ฉันบังเอิญเดินผ่านเท่านั้น ไม่ได้รู้เห็นอะไรทั้งนั้น อีกอย่าง……เรื่องที่คุณเป็นกังวลจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด คุณวางใจได้เลย”
คิ้วของหานชิงขมวดเล็กน้อย นัยน์ตาแฝงไปด้วยอารมณ์ เขาเดินเข้ามาข้างหน้าอีกหลายก้าว จนอยู่ห่างจากเสี่ยวเหยียนเพียงก้าวเดียวเท่านั้น กลิ่นฮอร์โมนเฉพาะของชายหนุ่มแผ่ปกคลุมรอบตัวของเสี่ยวเหยียน เธอที่กำลังชูมือสาบานชะงักอยู่กับที่ เพราะจู่ๆหานชิงก็เดินเข้ามาใกล้เลยทำให้เธอตัวแข็งทื่อ
“ฉันกังวลอะไร ?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชา ภายใต้แสงไฟริมระเบียงทางเดิน สะท้อนเงารูปหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่ม ขณะเดียวกันก็มีแสงอ่อนๆวาบผ่านดวงตา จับจ้องเธอราวกับกำลังล็อกเป้าหมาย
เสี่ยวเหยียนสบตากับเขาอยู่ครู่ใหญ่ ราวกับมีเสี้ยววินาทีหนึ่งที่พบอารมณ์ที่ต่างออกไปในแววตาเขา
แต่ไม่นาน เธอก็รีบก้มหน้าหลบตาอีกครั้ง จ้องมองนิ้วเท้าของตัวเองด้วยความประหม่า
“คุณกังวลว่าฉันจะตามตอแยคุณไม่ใช่เหรอ”
เธอคงจะมองผิดไป และอาจจะเป็นแค่ภาพมายา ไม่อย่างนั้น……เธอจะไปเห็นความรู้สึกอบอุ่นในแววตาของหานชิงได้อย่างไร อีกอย่าง……
เรื่องอื่นๆ เสี่ยวเหยียนไม่กล้าจะคิดลึกไปกว่านั้นแล้ว
ยังไงมันก็เป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน
อย่าทำอะไรเกินตัวอีกเลย
“คุณวางใจเถอะ ฉันจำสิ่งที่คุณพูดกับฉันก่อนหน้านี้ได้หมด ฉันเคยชอบคุณ แล้วก็เคยทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ที่ใต้เท้าเพื่อคุณด้วย……”
แววตาของหานชิงแข็งทื่อไป เด็กสาวที่ก้มหน้าพูดอยู่ตรงหน้า ดูท่าทางหดหู่มาก เขายื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว แล้วเอื้อมไปทางด้านหลังของศีรษะเธอ
“แต่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ฉันจะไม่ตอแยคุณอีก และจะไม่ชอบคุณอีกแล้ว”
คำว่าจะไม่ชอบคุณอีกทำให้มือของหานชิงชะงักอยู่กลางอากาศ ไม่ได้เดินหน้าไปอีก เขาเม้มริมฝีปากแน่น แล้วขมวดคิ้วมองไปที่เธอ
เสี่ยวเหยียนยังคงก้มหน้าเหมือนเดิม หลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึก แล้วพ่นคำพูดทั้งหมดออกมา
“ในเมื่อฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ชอบคุณอีก ต่อไปฉันก็จะไม่มีทางตอแยคุณอีกแล้ว ดังนั้นเรื่องที่คุณกังวลจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด ที่คุณรั้งฉันเอาไว้ ก็เพื่ออยากได้ยินฉันพูดเรื่องพวกนี้สินะ ตอนนี้ฉันพูดจบแล้ว ฉันก็……ไปได้แล้วใช่ไหม”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็แอบถอนหายใจทีหนึ่ง
ตอนที่ไม่มองเขาเธอก็พูดได้หมดทุกอย่างจริงๆ ถ้าเธอมองตาเขาขณะพูด เธอคงไม่มีทางพูดได้ราบรื่นแบบนี้แน่
ตอนที่เสี่ยวเหยียนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าหานชิงก็กลับไปเย็นชาเหมือนเดิมแล้ว มือก็เก็บกลับไปแล้วด้วย
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในเมื่อสาวน้อยก็พูดแบบนั้นแล้ว เขายังจะมีอะไรต้องพูดอีก
เสี่ยวเหยียนเตรียมจะเดินจากไป แต่เขาไม่ยอมตอบรับ ดังนั้นเธอก็เลยไม่กล้าไป พอดีกับที่ตอนนั้นมีคนเดินมาเข้าห้องน้ำพอดี หญิงสาวสองสามคนเดินมาด้วยกัน พร้อมกับเสียงหัวเราะพูดคุย
เมื่อได้ยินเสียง สีหน้าของเสี่ยวเหยียนก็เปลี่ยนไปทันที หานชิงยังไม่ทันได้เปิดปากพูดอีกครั้ง ก็ทิ้งคำว่าฉันขอตัวก่อนไว้คำหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปอีกทางอย่างรีบร้อนทันที
ฝีเท้าลุกลี้ลุกลน ราบกับกลัวว่าจะถูกใครมาเห็นเข้าว่าเธอกำลังอยู่กับเขา
หานชิงทอดมองไปทางแผ่นหลังของสาวน้อยที่จากไป เนิ่นนานก่อนจะถอนสายตากลับมา
*
ตอนที่กลับเข้าไปในงานเลี้ยง เสี่ยวเหยียนก็หายใจหอบ แล้วยังรู้สึกผิดมากกว่าเดิม เธอรินน้ำผลไม้ให้ตัวเองแก้วหนึ่ง จากนั้นก็หลบไปอยู่ในซอกมุม
เพิ่งจะดื่มไปแค่คำเดียว หลินซิงหั่วก็เดินเข้ามาหา
ตอนที่เธอมาทักทายเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนก็ตกใจยกใหญ่ จนเกือบจะพ่นน้ำผลไม้ในปากออกมา แต่ก็ฝืนกลืนลงไป เลยสำลักออกมา จากนั้นก็ไออยู่หลายที
“แค่ก แค่ก”
หลินซิงหั่วหัวเราะพร้อมกับยื่นกระดาษทิชชูสองแผ่นมาให้เธอ
เสี่ยวเหยียนรับมาเช็ดมุมปาก ไอจนน้ำตาไหลออกมา เลยซับน้ำตาที่หางตาด้วย จนเริ่มดีขึ้นเสี่ยวเหยียนเลยหันกลับไปขอบคุณเธอ
หลินซิงหั่วยิ้มอย่างแฝงความนัย แล้วมองไปที่เธอ
“คุณ คุณจ้องฉันทำไม”
เสี่ยวเหยียนถูกสายตาของเธอจ้องจนรู้สึกขนหัวลุก อาจเป็นเพราะเมื่อคู่ได้เห็นฉากสารภาพรักของชาวบ้านเขามา ก็เลยหลบสายตาอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าสบตากับหลินซิงหั่ว
“ฉันจ้องเธอ ที่เก็บซ่อนไว้มิดชิดมากยังไงล่ะ”
เสี่ยวเหยียน “ ? ? ? ”
เก็บซ่อนมิดชิด ? หมายความว่าอย่างไร ?
เธอมองหลินซิงหั่วด้วยสีหน้ามึนงง ใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าเกิดอะไรขึ้น เธอช่วยพูดให้มันชัดเจนหน่อยได้ไหม
หลินซิงหั่วเริ่มขยับเบียดเข้ามา แล้วพูดเสียงเบาว่า
“อยู่ด้วยกันกับหานชิง ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย นี่ยังไม่เรียกว่าเก็บซ่อนไว้มิดชิดอีกเหรอ”
เสี่ยวเหยียนพึ่งจะไอจนคันคอ กำลังเตรียมจะดื่มน้ำผลไม้อีกคำเพื่อให้ลำคอตัวเองไหลลื่นขึ้น คิดไม่ถึงว่าหลินซิงหั่วจะพูดคำนี้ออกมา ทำเอาเธอตกใจจนพ่นน้ำผลไม้ออกมา
พรวด——
หลินซิงหั่วรีบเบี่ยงตัวหลบ จากนั้นก็หันไปมองเธออย่างหน่ายใจ
“เธอช่วยใจเย็นหน่อยได้ไหม”
“……ขอโทษที” เสี่ยวเหยียนเลิ่กลั่ก หน้าแดงจัด เธอตื่นตระหนกมากจริงๆ เมื่อเทียบกับคนที่งดงามและสูงส่งอย่างหลินซิงหั่วแล้ว ตัวเองก็ดูหยาบกระด้างเหมือนคราบฝุ่นเท่านั้น
แล้วก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที
“เอาเถอะ ฉันไม่ได้คิดจะโทษเธอหรอก ฉันก็แค่หวังว่าเธออย่าได้ตกใจเกินเหตุแบบนั้นอีก ยังไงฉันก็กำลังคุยกับเธออยู่ ถ้าเธอเอาแต่พ่นออกมาแบบนี้ น้ำผลไม้ในงานเลี้ยงจะต้องไม่พอแน่ๆ……กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า รีบบอกฉันมาเลยนะ ว่าพวกเธออยู่ด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว”
เสี่ยวเหยียนหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเตรียมจะเช็ดคราบที่ทำเลอะ กว่าจะเก็บหมด เธอก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดขึ้น
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้อยู่กับเขา”
คงเป็นเพราะว่าตัวเองแอบฟังพวกเขาคุยกัน จากนั้นก็ถูกหานชิงรั้งตัวเอาไว้อีก เลยทำให้หลินซิงหั่วเข้าใจผิดสินะ
“เข้าใจผิด ?” หลินซิงหั่วทำสีหน้าประหลาดใจ ขมวดคิ้ว “พวกเธอไม่ใช่แฟนกันเหรอ เธอคงไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม”
เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าดาราดังทำไมถึงได้ชอบซุบซิบนินทาขนาดนี้ แต่ก็ทำได้แค่ส่ายหน้าอย่างจริงจังเท่านั้น
“ฉันโกหกคุณแล้วจะได้อะไรขึ้นมา ฉันสิที่ต้องแปลกใจ……ปกติคุณเป็นนักแสดงไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้……” ไปชอบหานชิงได้ คำสุดท้ายนั้นเสี่ยวเหยียนไม่กล้าพูดออกไป ใบหน้าแดงระเรื่อ
หลินซิงหั่วเห็นท่าทางของเธอ อดไม่ได้ที่จะบีบแก้มแดงๆขอบเธอทีหนึ่ง “อยากถามอะไรก็ถามสิ จะตื่นเต้นไปทำไม ยังไงพวกเราก็รู้จักกันมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว”
บีบเสร็จ หลินซิงหั่วก็ยิ้มออกมา แล้วพูดอธิบายเสียงเบา
“เธอคิดว่าฉันชอบเขาใช่ไหม”
เสี่ยวเหยียนขยับริมฝีปาก “แล้วไม่ใช่เหรอ”
ถ้าไม่ได้ชอบ แล้วทำไมถึงไปสารภาพกับเขา ?